ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ได้ การแข่งขันในโลกของอีคอมเมิร์ซจึงทวีความดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในแพลตฟอร์มที่โดดเด่นที่สุดคือ Shopee ที่มีทั้งฐานลูกค้าใหญ่ ระบบจัดการหลังบ้านที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์สนับสนุนการขายที่ครอบคลุม โดยเฉพาะ “Shopee Ads” หรือบริการรับทำโฆษณา Shopee ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือหลักในการเพิ่มยอดขายให้กับผู้ขายทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการ สร้างโฆษณา Shopee อย่างเข้าใจง่ายและลงลึก ทั้งประเภทโฆษณา การวางกลยุทธ์ keyword และการทำงานแบบมืออาชีพกับเอเจนซีที่เข้าใจแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง
Table of Contents
Toggleความนิยมของการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์
หากย้อนกลับไปเพียงไม่กี่ปีก่อน การซื้อของออนไลน์อาจยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพฤติกรรมประจำวันเรียบร้อย โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ซสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลของ Dataxet เผยว่า Shopee เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในหลายหมวดหมู่สินค้า ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านบัญชี และยอดคำค้นหาสินค้าที่เกิดขึ้นหลายล้านครั้งต่อวัน ทำให้การแสดงสินค้าในตำแหน่งที่เด่นชัด คือ “โอกาสทอง” ที่จะเปลี่ยนจากการเห็นเป็นการซื้อ ดังนั้น การลงทุนกับโฆษณา shopee จึงไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “หัวใจ” ของการขายของบนแพลตฟอร์มในยุคนี้
ทำความรู้จัก Shopee แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์
Shopee เริ่มต้นในปี 2015 โดยมีเป้าหมายเป็นแอปช้อปปิ้งที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และเหมาะสำหรับทุกกลุ่มผู้ใช้ ตั้งแต่แม่ค้าออนไลน์รายย่อย ไปจนถึงแบรนด์ระดับสากล ปัจจุบัน Shopee ได้พัฒนาเครื่องมือและระบบหลังบ้านที่ช่วยเสริมความสามารถผู้ขาย เช่น ระบบ Chatbot, คลังสินค้า, ระบบชำระเงิน และที่สำคัญคือ Shopee My Ads สำหรับทำโฆษณา จุดเด่นของ Shopee คือการเชื่อมโยงระหว่างสินค้า – คนขาย – คนซื้อ อย่างครบวงจร ตั้งแต่การแสดงสินค้า การสื่อสาร การจ่ายเงิน จนถึงการส่งของ และการรีวิว ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทำให้ Shopee กลายเป็นสนามธุรกิจที่ทุกคนเข้าถึงได้
shopee ads คืออะไร มีกี่ประเภท
Shopee Ads คือ ระบบการโฆษณาภายในแพลตฟอร์ม Shopee ที่ช่วยให้สินค้าหรือร้านค้าของคุณปรากฏในตำแหน่งที่โดดเด่นต่อหน้าผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มจะซื้อ ด้วยโมเดล Pay-per-Click (PPC) ที่คิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนคลิกจริง Shopee Ads ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมทั้งกับผู้ขายรายใหม่และผู้ขายรายใหญ่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้
- Search Ads (โฆษณาค้นหา)
Search Ads เป็นรูปแบบ โฆษณา Shopee ที่แสดงสินค้าบนหน้าผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้า โดยผู้ขายสามารถเลือก Keyword ที่สอดคล้องกับสินค้า เช่น “กระเป๋าหนังแท้”, “เครื่องครัวสแตนเลส” เพื่อให้โฆษณาปรากฏเมื่อมีผู้ค้นหาคำเหล่านั้น ระบบของ Shopee จะใช้การประมูลราคาต่อคลิก (CPC) เพื่อจัดอันดับการแสดงผล ซึ่งถ้าคุณเสนอราคาสูงกว่าคู่แข่ง โฆษณาของคุณจะมีโอกาสแสดงในตำแหน่งบนสุดก่อนใคร เพิ่มโอกาสในการคลิกและปิดการขาย
- Discovery Ads
Discovery Ads คือ โฆษณาที่เน้นการเพิ่มการมองเห็น โดยไม่จำเป็นต้องอิงกับการค้นหา Keyword เพียงอย่างเดียว ระบบจะแสดงสินค้าในหลากหลายพื้นที่ของแอป Shopee เช่น
- หน้าแรกของ Shopee (Shopee Home)
- หน้าสินค้าที่เกี่ยวข้อง (Product Recommendations)
- หน้า Shopee Games
- หน้า Daily Discover
การใช้ Discovery Ads จึงเหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเจอสินค้าของตนจากลูกค้าที่อาจยังไม่ได้ตั้งใจค้นหาสินค้านั้น ๆ โดยตรง
- Display Ads
Display Ads เป็นโฆษณารูปแบบแบนเนอร์ที่แสดงบนหน้าแรกของ Shopee เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับแบรนด์ (Brand Awareness) สามารถใส่ภาพกราฟิก ข้อความโปรโมต และลิงก์ไปยังหน้าร้านหรือหน้าสินค้าเฉพาะได้อย่างอิสระ โฆษณารูปแบบนี้เหมาะกับการทำโปรโมชั่นใหญ่ เปิดตัวสินค้าใหม่ หรือแบรนด์ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้ชัดเจนในสายตาผู้ใช้งาน
- Shop Search Ads
Shop Search Ads คือการโปรโมตร้านค้าให้แสดงผลเมื่อมีการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับร้าน ไม่ใช่แค่ตัวสินค้า เช่น หากร้านของคุณขายสินค้าหมวด “เสื้อผ้าแฟชั่น” คุณสามารถตั้ง Keyword ว่า “ชุดเดรสเกาหลี” เพื่อให้ร้านคุณแสดงในผลการค้นหาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษของร้าน จุดเด่นของ Shop Search Ads คือช่วยโปรโมตร้านทั้งร้าน ไม่ได้เจาะจงเพียงแค่สินค้าชิ้นเดียว เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการสร้างยอดเข้าชมโดยรวม และเพิ่มโอกาสปิดการขายแบบ Cross-Selling
การเลือกใช้ keyword ในการทำโฆษณา shopee
ในระบบโฆษณา shopee ทุกประเภท การเลือก Keyword ที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ค้นหา กับสินค้าของคุณ ซึ่งหากวางกลยุทธ์ Keyword ได้ดี ก็สามารถลดงบโฆษณา และเพิ่มยอดขายได้ในคราวเดียว แนวทางการเลือก keyword ที่น่าสนใจ เช่น
- เริ่มจาก Keyword พื้นฐานที่ผู้ใช้ค้นหาบ่อย – เช่น ถ้าคุณขาย “ครีมกันแดด” คำค้นหาที่ควรเริ่มคือ “ครีมกันแดด”, “กันแดดหน้าไม่มัน”, “กันแดดผิวแพ้ง่าย” ฯลฯ
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์คำค้นของ Shopee – เช่น “คำค้นหายอดนิยม” หรือ Shopee Keyword Tool ช่วยให้เห็นว่าแต่ละคำมียอดค้นหาและการแข่งขันเท่าไร
- วางโครงสร้าง Keyword ทั้งแบบ Broad Match และ Exact Match – เพื่อครอบคลุมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาทั่ว ๆ ไป และกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ
- ลองใช้ Keyword Long-Tail เพื่อลดการแข่งขัน – เช่น จากคำว่า “รองเท้าผ้าใบ” เปลี่ยนเป็น “รองเท้าผ้าใบสีขาวผู้หญิง เบอร์ 38” จะช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้เร็วขึ้น
ข้อดีของการทำโฆษณาช้อปปี้
หากคุณยังลังเลว่าจะเริ่มใช้ โฆษณาช้อปปี้ ดีไหม? ลองพิจารณาจากข้อดีเหล่านี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์โดยตรงกับร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือแบรนด์ใหญ่ก็ตาม การลงทุนในการโฆษณา shopee ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขายในระยะสั้น แต่ยังส่งผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจในระยะยาวอีกด้วย
- เข้าถึงผู้ซื้อที่มีความต้องการซื้อจริง – ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นที่สุดของการยิงแอดบน Shopee คือการเข้าถึงกลุ่มที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าสูง เพราะ โฆษณา Shopee จะปรากฏเฉพาะเมื่อผู้ใช้งานค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโดยตรง เช่น หากคุณขาย “รองเท้าวิ่ง” โฆษณาของคุณจะปรากฏต่อหน้าผู้ที่ค้นคำว่า “รองเท้าวิ่งผู้ชาย” หรือ “รองเท้าวิ่งลดราคา” ระบบของ Shopee จึงช่วยตัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และลดค่าโฆษณาที่เสียเปล่า อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่า “ร้านนี้มีสิ่งที่ฉันต้องการ” ตั้งแต่แรกเห็น
- งบประมาณยืดหยุ่น ตั้งตามใจได้ – ไม่จำเป็นต้องมีงบเป็นพันหรือหมื่น Shopee Ads เปิดโอกาสให้ผู้ขายสามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณเล็ก ๆ เพียง 5–10 บาทต่อวัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นหรือร้านค้าที่ต้องการทดสอบตลาด โดยสามารถเลือกประเภทโฆษณาให้เหมาะกับงบ เช่น เริ่มจาก Search Ads ที่เน้นยิงแอดเฉพาะสินค้าตัวหลัก เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จึงค่อย ๆ ขยายงบ เพิ่มจำนวนสินค้า เพิ่ม Keyword หรือขยายไปยังประเภทโฆษณาอื่น ๆ เช่น Discovery Ads หรือ Display Ads ก็ได้เช่นกัน จุดแข็งคือผู้ขายควบคุมงบได้ 100% ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง และสามารถหยุดโฆษณาเมื่อใดก็ได้ทันที
- วัดผลได้แบบโปร่งใส และเรียลไทม์ – อีกหนึ่งจุดแข็งของระบบโฆษณา Shopee คือ Dashboard ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับแคมเปญที่คุณกำลังรันอยู่ คุณสามารถดูได้ทันทีว่า:
- โฆษณาได้ยอดคลิก (Clicks) กี่ครั้ง
- มียอดแสดงผล (Impressions) มากแค่ไหน
- ค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) เท่าไหร่
- ยอดขายที่ได้จากโฆษณาเท่าไร (Conversion)
- อัตราการคืนทุนจากการยิงแอด หรือ ROAS
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีหลักการ ไม่ต้องเดา และสามารถปรับแคมเปญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากการทำโฆษณาแบบดั้งเดิมที่ต้องรอดูผลลัพธ์หลายวันหรือเป็นสัปดาห์
- เหมาะกับทุกระดับของผู้ขาย – ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านเล็กที่เพิ่งเริ่มขายของออนไลน์ หรือเป็นแบรนด์ที่มีทีมการตลาดและพนักงานจำนวนมาก ระบบโฆษณาช้อปปี้ก็สามารถรองรับได้ทั้งหมด เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แต่มีความยืดหยุ่นสูงในการจัดการ
บริการยิงแอดกับ ForeToday
Shopee เป็นมากกว่าตลาดออนไลน์ทั่วไป เพราะด้วยระบบอัจฉริยะที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างธุรกิจที่ทรงพลังสำหรับทุกคน และหนึ่งในเครื่องมือที่ขาดไม่ได้คือ โฆษณา Shopee การสร้างโฆษณา Shopee ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าจะทำให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด ต้องอาศัยการวางแผน การเลือก Keyword อย่างแม่นยำ และการวิเคราะห์ผลแบบต่อเนื่อง ซึ่งถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไง การใช้บริการรับทำโฆษณา shopee จากเอเจนซีที่มีประสบการณ์อย่าง ForeToday คือทางเลือกที่ชาญฉลาด เราพร้อมช่วยให้คุณ “มียอดขายที่มั่นคง” ไม่ใช่แค่ยอดพุ่งแบบฉาบฉวย เพราะเราทำงานแบบ Data-Driven และเข้าใจพฤติกรรมผู้ซื้อจริง ๆ บนแพลตฟอร์ม Shopee อย่างแท้จริง