รายการ The Face Thailand กลายเป็นหนึ่งในรายการเรียลลิตี้ที่มีความนิยมสูงในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เริ่มออกอากาศครั้งแรกในปี 2014 รายการนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รักของผู้ชมไทย แต่ยังได้สร้างกระแสไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก โดยการคัดเลือกและสร้างเมนเทอร์ที่มีชื่อเสียงและน่าสนใจ รวมถึงการนำเสนอตัวผู้เข้าแข่งขันที่มีความสามารถและพรสวรรค์ จึงทำให้รายการนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งวงการแฟชั่นและสื่อบันเทิง การเดินหน้าสร้างมีม (Memes) อย่างต่อเนื่องในแต่ละซีซั่นของ The Face Thailand ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ทำให้รายการนี้ยังคงได้รับความนิยมและมีการพูดถึงอย่างต่อเนื่องบนโซเชียลมีเดียและในวงกว้าง ความสำเร็จของรายการนี้ไม่ได้มาจากการค้นหานางแบบหรือชายหนุ่มที่มีทักษะการเดินแบบเท่านั้น แต่ยังมาจากการสร้างเนื้อหาที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงการใช้งานมีมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมและกระแสสังคมในขณะนั้น

กลับมาอีกครั้งกับซีซั่นล่าสุด ที่ประกาศเมนเทอร์แล้วเรียบร้อย

The Face Thailand ซีซั่นล่าสุดได้เปิดตัวเมนเทอร์แล้ว ซึ่งในปีนี้รายการได้กลับมาอีกครั้งด้วยความคาดหวังจากแฟน ๆ ที่เฝ้ารอชมการแข่งขันที่ท้าทายและสนุกสนาน โดยที่เมนเทอร์ The Face Thailand ในซีซั่นนี้ได้รวมตัวผู้มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นและบันเทิง ดังนี้ มารีญา พูลเลิศลาภ, แอนโทเนีย โพซิ้ว, เขมนิจ จามิกรณ์ การกลับมาของรายการ พร้อมด้วยเมนเทอร์ที่มีประสบการณ์ในวงการแฟชั่นและบันเทิงช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้กับรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยพัฒนาทักษะการเดินแบบและการแสดงออกทางท่าทาง แต่ยังช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้ชมและผู้เข้าแข่งขัน การสร้างตัวละครที่น่าสนใจผ่านคำพูดและการแสดงออกของเมนเทอร์นี้จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้รายการนี้มีความยาวนานและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม

วิเคราะห์สาเหตุ ทำไมรายการถึงดังและเป็นกระแสอยู่ตลอดเวลา

1. การสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้ชม

• การทำการตลาดที่มุ่งเน้นความบันเทิง: รายการเน้นสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานผ่านการแข่งขันที่เข้มข้น ส่งผลให้ผู้ชมติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมนเทอร์หรือผู้เข้าแข่งขันที่น่าสนใจ
• การใช้เนื้อหาที่เข้ากับกระแสสังคม: The Face Thailand มีการนำเสนอเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับเทรนด์ในวงการแฟชั่นและบันเทิง เช่น การให้คำแนะนำและการสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งแฟนคลับวงการแฟชั่นและคนทั่วไป

2. การเลือกเมนเทอร์ที่มีชื่อเสียง

• การตลาดผ่านคนดัง: การเลือกเมนเทอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการทำให้รายการเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง การมีเมนเทอร์ที่มีฐานแฟนคลับเป็นจุดขายที่ทำให้รายการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้น
• การสร้างความน่าสนใจผ่านบุคลิกของเมนเทอร์: เมนเทอร์ที่มีลักษณะโดดเด่นหรือมีสไตล์การพูดจาที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยทำให้รายการมีความน่าสนใจและเป็นที่พูดถึง

3. การใช้มีม (Memes) และการตลาดออนไลน์

• การใช้มีมสร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย: การมีมีมที่เกี่ยวข้องกับรายการทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการสร้างกระแสผ่านโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้รายการเป็นที่พูดถึงมากขึ้น และช่วยในการโปรโมทรายการโดยไม่ต้องใช้ค่าโฆษณาสูง
• การทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย: รายการมีการใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ Twitter ในการโปรโมท ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้างกระแสให้รายการได้อย่างรวดเร็ว

4. การทำการตลาดแบบสตรีมมิ่ง (Real-time Marketing)

• การใช้การออกอากาศสดและแฮชแท็ก: รายการใช้การออกอากาศสดและการเชื่อมโยงกับการใช้แฮชแท็กในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมในรายการได้แบบเรียลไทม์ และสร้างการพูดถึงต่อเนื่อง
• การสร้างกิจกรรมพิเศษ: การจัดกิจกรรมหรือแคมเปญพิเศษในช่วงเวลาที่รายการออกอากาศ เช่น การประกวดหรือการตั้งคำถามให้ผู้ชมมีส่วนร่วม ผ่านการใช้แฮชแท็กหรือการตอบคำถามในช่องทางโซเชียล

5. การสร้างความสัมพันธ์กับแฟนคลับ

• การสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ชม: รายการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับแฟนคลับผ่านการโต้ตอบในโซเชียลมีเดียและการจัดกิจกรรมพิเศษ ทำให้แฟนคลับรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของรายการ
• การทำการตลาดเชิงพาณิชย์: การขายสินค้าหรือโปรโมชันที่เกี่ยวข้องกับรายการ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือสินค้าที่เกี่ยวกับเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขัน ช่วยให้รายการได้ประโยชน์จากการทำการตลาดเชิงพาณิชย์

6. การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกซีซั่น

• การต่อยอดจากซีซั่นก่อน: การรักษาความสดใหม่ในทุก ๆ ซีซั่นโดยการปรับปรุงรูปแบบการแสดงหรือเพิ่มเมนเทอร์คนใหม่ ๆ ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและไม่เบื่อหน่าย
• การวางแผนการทำการตลาดให้ครอบคลุม: การออกแบบรูปแบบรายการใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความสนใจของผู้ชมในแต่ละปี ช่วยให้รายการสามารถรักษากระแสและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดี

7. การสร้างความแตกต่างจากรายการอื่น ๆ

• การเน้นความเป็นเอกลักษณ์ของรายการ: รายการ The Face Thailand มีจุดเด่นในการแข่งขันที่ใช้ทักษะการเดินแบบและการสร้างภาพลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากรายการเรียลลิตี้ทั่วไปที่มักเน้นการแข่งขันทั่วไป
• การสร้างความประทับใจผ่านการให้คำแนะนำจากเมนเทอร์: รายการนี้ไม่ได้แค่ให้ความสนุก แต่ยังสอดแทรกการสอนและการพัฒนาผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งสร้างความรู้สึกของการเติบโตและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

8. การให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่อง (Storytelling)

• การสร้างความผูกพันกับผู้ชมผ่านเรื่องราว: การสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขัน ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงและติดตามความเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าแข่งขัน
• การใช้ความหลากหลายในการเล่าเรื่อง: ทั้งในแง่ของผู้เข้าแข่งขัน เมนเทอร์ และการสร้างความหลากหลายในการเสนอเนื้อหาช่วยให้รายการมีความน่าสนใจและติดตาม
  

ทำการตลาดต้องฟังเสียงลูกค้าอย่างใจเย็น

การทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จคือ การสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้อย่างตรงจุด โดย รายการ The Face Thailand ได้สร้างกลยุทธ์ในการสร้างความสนุกและดึงดูดความสนใจจากผู้ชมโดยใช้มีม การเขียนสคริปต์ และการสร้างกระแสที่ตรงกับความนิยมในขณะนั้น การฟังเสียงลูกค้าและสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ในแต่ละซีซั่นจะช่วยให้รายการคงความสดใหม่และน่าติดตาม การสร้างการมีม (memes) ที่สร้างความรู้สึกใกล้ชิดและสัมพันธ์กับผู้ชมทำให้เดอะเฟสไทยแลนด์ ยังคงเป็นที่นิยมและสามารถดึงดูดแฟน ๆ ในทุก ๆ ปีได้เสมอ ซึ่งเป็นวิธีที่สำคัญในการรักษาความนิยมของรายการและการตอบสนองความต้องการของผู้ชมที่มีต่อ รายการ The Face Thailand อย่างต่อเนื่อง

สรุป

การเดินหน้าสร้างมีมอย่างต่อเนื่องและการเลือกเมนเทอร์ที่มีเอกลักษณ์ใน The Face Thailand ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้รายการนี้ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระแสในโลกออนไลน์ การตอบสนองความต้องการของผู้ชม และการให้ความสำคัญกับการทำการตลาดที่เข้าใจลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้เดอะเฟสไทยแลนด์ยังคงเป็นรายการที่น่าติดตามและมีเสน่ห์ในทุกซีซั่น ทั้งนี้การทำให้รายการเข้าถึงง่ายก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของผู้ชมในการติดตามและมีส่วนร่วมกับรายการนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในซีซั่นนี้ นอกจากจะออนแอร์ผ่านช่อง 3 แล้ว ก็ยังนำรายการไปลงใน Netflix เพื่อเอาใจผู้ชมที่ชอบการดูย้อนหลัง ดูซ้ำ แน่นอนว่า The Face Thailand ซีซั่นนี้จะยิ่งตอกย้ำความเป็นรายการที่มีแฟน ๆ ติดตามอย่างเหนียวแน่นและยาวนานได้มากกว่าเดิม