กัญชาเสรี

ประกาศยกเลิกกัญชาเสรี ธุรกิจเตรียมตัวรับมืออย่างไรไม่ให้พัง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากัญชากลายเป็นประเด็นร้อนที่ทั่วโลกจับตามอง และประเทศไทยเองก็ไม่พ้นกระแส เมื่อเริ่มมีการปลดล็อกกัญชาเสรีในปี 2565 ซึ่งเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย เนื่องจากในอดีตนั้น กัญชาสามารถนำมาใช้กับคนได้แค่เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น เนื่องจากถือเป็นสารเสพติดอันตราย ที่ไม่ควรนำมาใช้หรือรับประทานโดยไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ แน่นอนว่าการประกาศถอดกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติด ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเกษตรกร ร้านกาแฟ คาเฟ่เชิงสุขภาพ และธุรกิจส่งออกก้าวเข้ามาทำตลาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบัน เมื่อรัฐบาลประกาศ ยกเลิกกัญชาเสรี กลับมาควบคุมกัญชาเฉพาะเพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น จึงสร้างแรงสะเทือนให้กับหลายธุรกิจทั้งรายย่อยและรายใหญ่ บทความนี้จะขอนำเสนอกรณีศึกษาและแนวทางให้หลายธุรกิจ หลายอุตสาหกรรมเตรียมตัวรับมือ อย่างไรไม่ให้พังในการทำการตลาดออนไลน์ และหาทิศทางในอนาคตของธุรกิจ

ไล่ไทม์ไลน์กฎหมายกัญชาในประเทศไทย

  • 18 กุมภาพันธ์ 2562 – กฎหมายใช้กัญชาและกระท่อมทางการแพทย์มีผลบังคับใช้ หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2562 เปิดทางให้ใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • 9 มิถุนายน 2565 – กระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อกกัญชาเสรี อนุญาตให้ประชาชนปลูก ถือครอง และใช้กัญชาในครัวเรือน เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพหรือการพักผ่อนหย่อนใจ ยกเว้นการใช้ในที่สาธารณะ
  • 23 มิถุนายน 2568 – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามประกาศให้ “กัญชา” กลับมาอยู่ในบัญชีสมุนไพรควบคุมอีกครั้ง ตาม “ประกาศสมุนไพรควบคุม พ.ศ. 2568” ส่งผลให้การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการผิดกฎหมาย และต้องมีใบอนุญาตจากแพทย์เท่านั้นในการใช้ทางการแพทย์

เมื่อกฎหมายเปลี่ยน ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างไร

การยกเลิกกัญชาเสรี ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อหลากหลายภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยพึ่งพารายได้จากการจำหน่ายหรือให้บริการเกี่ยวกับกัญชา ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

  1. ร้านจำหน่ายและคาเฟ่กัญชา
  • ธุรกิจที่เน้นการขายกัญชาเพื่อความบันเทิงได้รับผลกระทบทันที ต้องหยุดขายช่อดอกหรือผลิตภัณฑ์ที่มี THC สูง
  • บางร้านที่ไม่มีใบอนุญาตแพทย์ ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นคลินิกได้ จึงต้องปิดกิจการหรือลดขนาดลง
  1. ฟาร์มกัญชา
  • เกษตรกรที่เคยปลูกกัญชาเสรีเพื่อขายให้ร้านค้าหรือโรงงาน ต้องเข้าสู่ระบบควบคุมและขออนุญาตปลูกเพื่อการแพทย์เท่านั้น
  • ฟาร์มขนาดเล็กขาดทุนทันที เพราะไม่สามารถระบายผลผลิตในตลาดได้อย่างอิสระ
  1. ธุรกิจผลิตภัณฑ์แปรรูป
  • บริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสาร THC เช่น น้ำมันกัญชา คุกกี้ หรือเครื่องดื่ม ต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว
  • ผู้ประกอบการที่ไม่มีความรู้เรื่องใบอนุญาต หรือกระบวนการผลิตตามมาตรฐานทางการแพทย์ จะถูกผลักออกจากตลาดอย่างรวดเร็ว

การมีแผนรับมือที่ดีในการทำธุรกิจ เพื่อให้ไปต่อได้

เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายอย่างฉับพลัน หากเป็นธุรกิจของเราเอง ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและวางกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจนจะมีโอกาสอยู่รอดและเติบโตท่ามกลางวิกฤตได้ดีกว่า การเตรียมตัวไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ต้องเปลี่ยนทั้งแนวคิด วิธีการบริหาร ภาพลักษณ์ รวมถึงช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าใหม่ทั้งหมด ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้จาก 4 มิติหลักดังนี้

  1. ตรวจสอบตนเองให้แน่ชัด

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าต้องมีการกำหนดจุดแข็ง จุดอ่อนของตนเองอย่างแน่ชัด หากสินค้าหรือบริการที่ทำอยู่ถูกขัดด้วยกฎหมาย ควรเริ่มตั้งสติและมองหาความโดดเด่นของตนเอง รวมไปถึงทรีพยากรทั้งหมดที่มีว่ามีอะไรบ้าง

  1. เบนเข็มไปหาธุรกิจใกล้เคียง

แม้สินค้าเดิมจะไม่สามารถไปต่อได้ แต่ทรัพยากร ชื่อเสียง และจุดแข็งที่มีอยู่ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างธุรกิจใหม่ แต่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมเดิมต่อไปได้ เพื่อลดต้นทุนในการเริ่มต้นใหม่

  1. ใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงเก่า

หากชื่อบริษัทเป็นที่รู้จัก ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง แม้จะเป็นการเริ่มต้นสินค้าใหม่ แต่แน่นอนว่าทุกการทำการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ และกลยุทธ์ต่าง ๆ ในอดีตยังคงอยู่ การเป็นที่รู้จักมาก่อนทำให้เราไม่ได้เริ่มต้นจาก 0 อย่างแน่นอน

  1. เลือกสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องเริ่มใหม่

ควรมองหาโอกาสใหม่จากสินค้าหรือบริการ ที่มีกระบวนการผลิตหรือขั้นตอนการทำที่ไม่ต่างจากสินค้าเดิมมากนัก เพื่อให้ประโยชน์จากเครื่องจักร พนักงาน และขั้นตอนการทำงานเดิม ๆ ไม่ต้องเสียเวลาในการปรับตัวหรือ Training เยอะ

การตั้งหลักและตั้งสติได้ไว จะช่วยลดความเสียหายของธุรกิจให้น้อยลงได้มากเท่านั้น ในการทำธุรกิจจึงควรตระหนักและตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะปัจจัยต่าง ๆ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ใช้บริการทำการตลาด วางกลยุทธ์ที่ดีกับ Foretoday

หากธุรกิจต้องปรับทิศทางจากผลกระทบของกฎหมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำตลาดแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป หากคุณยังต้องการไปต่อในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความผันผวน Foretoday พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ด้านกลยุทธ์และการตลาดที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การวิเคราะห์ธุรกิจ วางแผนการสื่อสาร การผลิตสื่อ ไปจนถึงการยิงโฆษณาแบบแม่นยำ

  • การวิเคราะห์ธุรกิจแบบ 360 องศา 

Foretoday จะช่วยคุณประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายอย่างรอบด้านว่าแผนธุรกิจเดิมยังใช้ได้หรือไม่ ต้องปรับเปลี่ยนระดับไหน วางแผน Timeline การปรับกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ ช่วยลดความเสี่ยงจากการลองผิดลองถูก และทำให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างมีทิศทาง

  • การสื่อสาร การวางแผน SEO และ Content Strategy อย่างจริงจัง 

การสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับใน Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ยังมีการแทรก focus keyword และ supportive keyword ลงในบทความอย่างแนบเนียนและถูกหลัก SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเจอธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้นในช่องทางออนไลน์

  • บริการวางแผนและยิงโฆษณาแบบครบวงจร 

ไม่ว่าจะเป็น Google Ads, TikTok Ads, Shopee Ads หรือ Lazada Ads โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเลือกกลยุทธ์โฆษณาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ พร้อมตั้งค่า Conversion Tracking เพื่อวัดผลแคมเปญได้แบบ Real-Time คุณจะรู้ได้ทันทีว่าเงินทุกบาทที่ลงไปสร้างผลตอบแทนกลับมาอย่างไร

  • การสร้างสรรค์งาน Creative & Production 

เน้นความแตกต่างและน่าเชื่อถือ ด้วยการออกแบบสื่อ เช่น อินโฟกราฟิก บทความรีวิว หรือวิดีโอความรู้ ทำแคมเปญรีแบรนด์ที่ช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของธุรกิจเดิมให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

  • บริการ Influencer 

มีการคัดเลือก Influencer ให้ตรงกับภาพลักษณ์และกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการ เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

สรุป

การยกเลิกกัญชาเสรีถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของภาคธุรกิจไทย ผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวได้ไว จะยังมีโอกาสเติบโตภายใต้กรอบกฎหมายกัญชาใหม่ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางสุขภาพ การแพทย์ หรือการแปรรูปสมุนไพรไทย ซึ่งกรณีศึกษาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกฎหมายกัญชาเสรีในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในบทเรียนครั้งสำคัญในการทำธุรกิจ ให้เจ้าของธุรกิจหลายท่านตระหนักได้ถึงความไม่แน่นอนในข้อกฎหมาย และปัจจัยภายนอกที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือปัญหาทางธุรกิจ หรือการมีที่ปรึกษาทางการตลาดเพื่อลดแรงกระแทกและผลกระทบ จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารทุกท่านควรให้ความสำคัญ พวกเรา Foretoday พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ของคุณในการปรับตัวในการทำธุรกิจ ด้วยความเข้าใจทั้งด้านกลยุทธ์ การตลาดออนไลน์, SEO, และบริการทางการตลาดแบบครบวงจร ตั้งแต่ Creative, Influencer, Analytic ไปจนถึงที่ปรึกษาธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของคุณไม่ใช่แค่การอยู่รอด แต่ต้องสามารถหาทางไปต่อได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบใดก็ตาม