red ocean blue ocean คือ

Blue Ocean และ Red Ocean คืออะไร และวิธีทำการตลาดให้ได้ผลดี

ในโลกธุรกิจที่แข่งขันกันดุเดือด การเลือกกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมกับแบรนด์และสถานการณ์คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ หนึ่งในแนวคิดที่นักธุรกิจและนักการตลาดทั่วโลกใช้เป็นกรอบในการวิเคราะห์ คือ Ocean Strategy ที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Red Ocean และ Blue Ocean ทั้งสองแนวคิดมีจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางการนำไปใช้ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วแบรนด์ของคุณเหมาะกับกลยุทธ์แบบไหนมากที่สุด? บทความนี้จะพาคุณไปเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พร้อมแนะนำวิธีประยุกต์ใช้เพื่อทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จัก Ocean Strategy มีแบบไหนบ้าง

ก่อนจะลงลึกเพื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับกลยุทธ์น่านน้ำ แอดมินขอเริ่มต้นพูดถึงพื้นฐานของแนวคิด Ocean Strategy กันก่อนว่าคืออะไร?

Ocean Strategy คือ แนวคิดที่ถูกกำหนดโดย W. Chan Kim และ Renée Mauborgne ซึ่งอธิบายถึงรูปแบบของการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะแบ่งน่านน้ำด้วยสี เช่น Red Ocean, Blue Ocean, Green Ocean, White Ocean โดยกลยุทธ์หลักที่โดดเด่น และมีหลายธุรกิจนำกลยุทธ์นี้ไปใช้จนประสบความสำเร็จ คือการแข่งขันในตลาดเดิม (Red Ocean) และการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่ง (Blue Ocean) ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดมองภาพใหญ่ของตลาดได้ชัดเจนขึ้น พร้อมตัดสินใจได้ว่าควรเข้าไปแข่งขันในสมรภูมิเดิม หรือจะสร้างสนามใหม่ที่เป็นของตัวเองโดยไม่มีใครเทียบ

Red ocean Blue ocean คือ 2 กลยุทธ์น่านน้ำที่โดดเด่นมากที่สุด

  1. Red Ocean (กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง) – การทำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีคู่แข่งจำนวนมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักแข่งขันกันด้วยการลดราคาสินค้า ลดต้นทุน เพื่อให้สินค้าที่ขายมีราคาถูกที่สุด และสามารถขายได้ในจำนวนมาก โดยจุดเด่นของ Red Ocean มีดังนี้
  • เป็นตลาดเดิมที่มีอยู่แล้ว
  • เน้นแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดโดยตรง
  • เป้าหมายคือแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเดิม
  • คีย์หลักที่ธุรกิจควรทำให้ได้ คือ ความแตกต่างที่ดีกว่า เช่น ราคาถูกกว่า บริการเร็วกว่า จำนวนมากกว่า
  1. Blue Ocean (กลยุทธ์น่านน้ำสีฟ้า) – การทำธุรกิจด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อกลายเป็นหัวแถวของอุตสาหกรรม โดยสามารถเป็นการสร้างสินค้าใหม่ขึ้นมาหรือพัฒนาจากสินค้าชิ้นเดิม เพื่อให้มีความสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มากขึ้น แน่นอนว่าคู่แข่งจะยังไม่ได้มีมากนัก ธุรกิจจึงต้องมีการศึกษาพฤติกรรมโดยรวมของกลุ่มเป้าหมายให้ละเอียดลึกซึ้งมากที่สุด เพื่อให้สินค้าที่สร้างขึ้นมาใหม่ มีความตอบโจทย์ในการใช้งาน จนกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของธุรกิจ โดยจุดเด่นของ Blue Ocean มีดังนี้
  • สร้างพื้นที่ใหม่ขึ้นมาในตลาด
  • ไม่ได้มีการแข่งขันโดยตรง กับคู่แข่งเดิมที่มีอยู่แล้ว
  • เน้นนวัตกรรม คุณค่า และประสบการณ์ที่แตกต่าง
  • ลูกค้าไม่เปรียบเทียบราคา เพราะสินค้ามีความเฉพาะตัว

เปรียบเทียบความแตกต่าง และการนำไปใช้งาน

หัวข้อRed OceanBlue Ocean
ตลาดแข่งขันในตลาดที่มีอยู่แล้วเป็นผู้นำในตลาดนั้น
คู่แข่งการแข่งขันค่อนข้างสูงไม่มีคู่แข่งโดยตรง
กลยุทธ์เอาชนะคู่แข่งด้วยความเหนือกว่าการสร้างความแตกต่างจากคนอื่น
เป้าหมายแย่ง Market Shareสร้าง Demand ใหม่
จุดแข็งความสามารถในการแข่งขันความแตกต่างและนวัตกรรมใหม่
ตัวอย่างร้านอาหารตามสั่งในละแวกใกล้เคียงกันApple ที่เปิดตลาด Smartphone แบบ Touchscreen ในยุคแรก

การเลือกกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพ ต้องศึกษาความต้องการของธุรกิจอย่างละเอียดลึกซึ้ง

ท่ามกลางการแข่งขันที่พุ่งสูงขึ้นมากในทุกวันนี้ รวมไปถึงการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพแวดล้อม นวัตกรรม พฤติกรรม และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้กลยุทธ์เดิม ๆ ที่เคยใช้งานได้ผล อาจไม่ได้ผลในวันนี้ ส่วนกลยุทธ์บางส่วนที่ไม่ได้ผล ก็อาจจะได้ผลแบบไม่มีใครรู้ ดังนั้นการเลือกใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ จึงจำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายอย่างให้ละเอียด เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยธุรกิจควรตั้งคำถามและตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อนเลือกกลยุทธ์

  1. จุดแข็งของแบรนด์คืออะไร? – การทำความรู้จักธุรกิจของตนเองอย่างละเอียด เพื่อเรียนรู้ SWOT ของตนเอง และนำไปสู่การตัดสินค้าเลือกกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
  • มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งหรือไม่
  • มีฐานลูกค้าที่ภักดีและชัดเจนมากแค่ไหน
  • มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าคู่แข่งแล้วหรือยัง
  • มีแบรนด์ที่แข็งแรงและเป็นที่จดจำในตลาดหรือไม่
  1. ลูกค้าต้องการอะไรที่ตลาดยังไม่ตอบโจทย์? – ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับลูกค้า เช่น
  • ลูกค้ากำลังหาทางออกอะไรอยู่ในตลาดนี้?
  • มีความไม่สะดวกอะไรในการใช้งานผลิตภัณฑ์/บริการเดิม?
  • สิ่งใดที่ยังไม่มีใครนำเสนอในแบบที่ครบถ้วนและแตกต่าง?
  1. คู่แข่งกำลังทำอะไร และเราต่างจากพวกเขาอย่างไร? – การเรียนรู้การทำงานของคู่แข่ง ไม่ใช่เพื่อการเลียนแบบ แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อมองเห็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อย เลี่ยงการเข้าสู้ในจุดเด่นของเขาที่เราทำไม่ได้ และสู้ด้วยจุดด้อยของเขาที่เราอาจทำได้ดีกว่า เช่น
  • คู่แข่งเน้นขายปริมาณหรือคุณภาพ?
  • พวกเขายังไม่ได้ให้บริการด้านไหน?
  • มี pain point อะไรที่ลูกค้าบ่นเกี่ยวกับคู่แข่ง?
  1. เรามีทรัพยากรเพียงพอในการสร้างตลาดใหม่หรือไม่? – แม้กลยุทธ์ Blue Ocean จะดูน่าสนใจและน่าลงทุน แต่ก็ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่พร้อมจะกระโดดเข้าสู่น่านน้ำใหม่นี้ในทันที เพราะการสร้างตลาดใหม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย และธุรกิจเองก็ควรสำรวจและคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย เช่น
  • งบประมาณสำหรับการทดลองตลาด (Testing Budget)
  • เวลาสำหรับการ Educate ลูกค้า
  • ทีมงานที่มีทักษะเฉพาะทาง (เช่น UX Researcher, Growth Marketer, Content Creator)
  • เทคโนโลยีหรือระบบหลังบ้านที่สามารถรองรับการเติบโต

ทำการตลาดออนไลน์ที่ ForeToday

Red Ocean และ Blue Ocean คือ แนวทางในการกำหนดทิศทางธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งไม่มีกลยุทธ์ใดดีกว่าอีกกลยุทธ์เสมอไป การตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ไหนขึ้นอยู่กับเป้าหมายธุรกิจ ทรัพยากร และความสามารถในการสร้างความแตกต่าง หากคุณต้องการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คำตอบไม่ได้อยู่ที่การเลือกกลยุทธ์อย่างใดอย่างหนึ่งตามความสำเร็จหรือสถิติของใคร แต่คือการทำความเข้าใจความต้องการลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับช่วงเวลาในขณะนั้นมากกว่า พวกเราทีมงาน ForeToday เชื่อว่าสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าขายได้ แต่ก็คือการทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต พวกเราจึงมุ่งมั่นในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยพาธุรกิจของคุณเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง เรามีความเชี่ยวชาญการทำการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการยิงแอด, บริการ SEO, บริการ Influencer, บริการ Content&Graphic, บริการ Video Editing และการปรึกษากลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ ซึ่งสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามข้อมูล เพื่อดูแนวโน้มของธุรกิจได้แล้ววันนี้