หากหลาย ๆ คนกำลังเริ่มหัดยิงโฆษณาบน Facebook ตอนที่เลือก objective ของ Campaign มีสิ่งหนึ่งที่แอดมินคิดว่าหลาย ๆ คนอาจจะสงสัย นั่นคือ Objective ในหมวด Awareness มี 2 แบบ 1.Brand Awareness 2.Reach เราควรใช้แต่ละตัวใน case ที่ต่างกันอย่างไร
อย่างแรกเลยต้องไปทำความเข้าใจก่อนว่าถ้าเลือกระหว่าง Brand awareness กับ Reach Facebook มีกลไกล อัลกอริทึมในการส่งAds ของเราออกไปต่างกันอย่างไร ถ้าเอาตามที่พี่มาร์ค อธิบายไว้ Brand Awareness: Facebook จะทำการยิง ads ไปหาผู้คนที่น่าจะสนใจ Brand ในขณะที่ Reach: อัลกอริทึมของ Facebook จะทำการส่ง ads ของเราเข้าถึงผู้คนในกลุ่มที่กำหนดให้มากที่สุด ซึ่งอธิบายแบบนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเท่าไร ว่าจริงแล้วเราควรใช้ Objective ไหนในกรณีแบบนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
Brand Awareness คือ ?
จากความเข้าใจและประสบการ์ณของผมเองใช้เกณฑ์ในการแบ่งดังนี้ ใช้ Brand Awareness Campaign ใน 2 กรณีได้แก่
1. ปล่อยสินค้าใหม่หรือแบรนด์ใหม่ ในกลุ่มลูกค้าเดิม
2. ปล่อยสินค้าและแบรนด์เดิม ในกลุ่มลูกค้าใหม่ความเหมือนกันของ 2 แบบด้านบนคือคนเหล่านั้นไม่เคยสัมผัสกับแบรนด์หรือสินค้ามาก่อนดังนั้นการใช้ Campaign แบบ Brand Awareness เราจะได้ใช้ประโยชน์จาก Metric เทห์ๆที่ชื่อว่า Estimated Ad Recall Lift เพื่อวัดประสิทธิภาพของ Creative content ที่ส่งออกไป ว่ามันทำให้ผู้คนจดจำสินค้าหรือแบรนด์ของเราได้เพิ่มขึ้นแค่ไหน
Reach
ส่วนแคมเปญแบบ Reach จะใช้ในกรณีที่ลูกค้ารู้จักเราแล้ว แต่เราต้องการทำให้ลูกค้า Awareness ถึงข้อมูลที่เจาะจงบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น มีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทำรายการซื้อแล้วแต่ยังไม่ชำระเงิน แล้วออกไปจากเว็บก่อนที่จะทำรายการจนจบ เราสามารถใช้ Reach Campaign เพื่อส่งข้อความบอกกับคนกลุ่มนี้ให้กลับมาทำรายการซื้อต่อจนจบได้สังเกตุว่าในกรณีนี้ เราไม่ได้ต้องการสร้าง Awareness ใน Brand ใหม่แต่เราต้องการสร้าง Awareness ใน Action ที่ลูกค้าจะต้องทำ ซึ่ง Key Success ในกรณีนี้คือ การส่งข้อความไปให้ถึงคนในกลุ่มนี้ให้มากที่สุดในความถี่ที่พอเหมาะ โดยไม่รบกวนลูกค้าเกินไป ดังนั้น Metric สำคัญของ Campaign แบบ Reach คือ Frequency ที่จะให้ลูกค้าในกลุ่มนี้เห็น Message ได้กี่วันต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งสามารถกำหนดได้ที่ Frequency Capping ในแคมเปญแบบ Reach นั่นเองสุดท้ายสำหรับตัว Facebook ads objective ผมก็อยากฝากไว้ว่า ไม่ใช่แค่รู้ว่าทำยังไง แต่ต้องเข้าใจ mindset และหลักการนำมาประยุกต์ใช้ในกรณีต่างๆ เพื่อเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิง:https://www.quora.com/Whats-the-difference-between-the-reach-and-brand-awareness-fb-ads
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”