หวั่น ! ” ภาวะฟองสบู่ ” กับหน้ากากอนามัย

ฟองสบู่เเตกเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ภาวะฟองสบู่จะเกิดขึ้นได้เมื่อราคาสินค้าตามท้องตลาดไม่สัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐานของสินค้านั้นๆ ในตอนเเรกราคาอาจพุ่งสูงขึ้นเกินกว่าเหตุซึ่ง เกิดจากความโลภที่พยายามจะเก็งกำไร เเต่ไม่นานจะเข้าสู่สภาวะอิ่มตัว เเละเริ่มคิดถึงมูลค่าที่เเท้จริงของสินค้านั้นๆ จากนั้นจะเกิดภาวะฟองสบู่เเตก เเละเทขายสินค้าที่กักตุนเพื่อเก็งกำไรในที่สุด

ในประวัติศาสตร์เกิดภาวะฟองสบู่อยู่ตลอด โดยครั้งเเรก เกิดขึ้นในปี 1636 ในชื่อฟองสบู่ดอกทิวลิป ( The Dutch Tulip Mania Bubble ) ในประเทศเนเธอร์เเลนด์ เกิดจากที่ตอนนั้นผู้คนมีความคลั่งไคล้ในดอกทิวลิปอย่างมาก ถึงขั้นทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจนราคาพุ่งสูงเลยทีเดียว

เเละในปี 2020 นี้ ดูจะเป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบาก ไม่ว่าจะเรื่องของฝุ่น PM 2.5 หรือเเม้เเต่ ไวรัสโคโรน่า จนทำให้เกิดเหตุการ หน้ากากอนามัยขาดตลาด เเละเกิดเป็นสถานะ ” ฟองสบู่ ” ของหน้ากากอนามัย ในหลายๆพื้นที่ เเละหลายๆโรงพยาบาลกำลังขาดเเคลนหน้ากากอนามัยอย่างหนัก หลายๆคนจึงตั้งข้อสงสัยว่า เกิดจากการกักตุนหน้ากากอนามัยรึเปล่า ?

เเละด้วยความต้องการอย่างมากมหาศาลนี้ จึงส่งผลให้ราคาหน้ากากอนามัยพุ่งทะยานทะลุกราฟไปเเล้ว ส่วนหนึ่งอาจมีคนขายเกินราคาจริง เเต่ส่วนหนึ่งเพราะต้นทุนที่รับมาเเพงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ซื้อที่ต้องซื้อของเเพงขึ้นหลายเท่า เเต่บางทีพ่อค้าคนกลางเองก็โนต้นทุนที่เเพงขึ้นหลายเท่าด้วยเหมือนกัน จากปกติชิ้นละ 2.5 บาท เเต่ในปัจจุบัน หน้ากากอนามัยราคาอยู่ที่ ชิ้นละ 30 บาทขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใหม่อะไร กับการที่ราคาสินค้าพุ่งกระโดดเพิ่มขึ้นในลักษณะนี้

ขออธิบายคร่าวๆถึงกลไกการขึ้นราคาสินค้าให้ฟังซักนิดนึงนะครับ คือว่าราคาสินค้าทุกอย่างบนโลกเรา ขยับขึ้นลงตาม Demand ของผู้บริโภค เเละ Supply ของผู้ที่ต้องการขายครับ ถ้าความต้องการของผู้บริโภคมากกว่า กำลังผลิตสินค้าของผู้ผลิต จะส่งผลให้ผู้ขายขยับราคาสินค้าได้สูงลิบ เเต่ในทางกลับกัน หากสินค้านั้นๆของผู้ผลิต มีจำนวนมากกว่าความต้องการของผู้บริโภค สินค้านั้นๆ ราคาจะถูกลงจนน่าตกใจ

หลายครั้งที่ Demand สูงเกินไป จนหลายคนหลงลืมความจริง ถ้าเปรียบกับหุ้น ก็คือการปั่นราคานั่นเอง เเละการไล่ราคาของหน้ากากอนามัยจะเป็นอย่างนี้ไปอีกซักพักหนึ่ง เมื่อมีสิ่งที่สามารถทดเเทนหน้ากากอนามัยได้ ( เช่นหน้ากากกันน้ำในข่าวช่วงนี้ ) จะทำให้เหล่าผู้กักตุนเริ่มเทสินค้าขายเเบบเลหลัง จนเกิดภาวะฟองสบู่เเตก

จะเห็นได้ว่า ฟองสบู่เเตกไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเคยเกิดขึ้น  เเต่ยังไงก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนเเตกตื่นตั้งเเต่หลายร้อยปีที่เเล้ว  เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเเเค่ไหน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเเปลงก็คือ ความโลภ เเละการเเสวงหาผลกำไรในช่วงวิกฤติ เเละความกลัวของมนุษย์อย่างเราๆ อะไรก็ตามที่ราคาพุ่งสูงเกินเหตุ ก็เหมือนฟองสบู่ที่รอวันเเตก  ถ้ารู้ตัวช้ากักตุนสินค้ามากๆเข้า จากที่เคยหวังว่าจะร่ำรวยจากวิกฤติ อาจส่งผลให้เงินติดลบจากการลงทุนได้เลย