Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

ลองเพิ่มยอดขายด้วย Target Audience กับการทำโฆษณาบน Google กัน

ในปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์นั้นเกิดขึ้นบน Google เป็นส่วนใหญ่และเพื่อให้ทราบถึงแนวทางในการเข้าถึงลูกค้า ทำให้การวางแผนการตลาดและการหากลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการหากลุ่มลูกค้าให้ตรงกับสินค้าเรา ทำให้การที่เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกับเป้าหมายและแคมเปญโฆษณานั้น จะทำให้โฆษณาของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุด ในบทความนี้เราจะมาทำให้ทุกคนรู้จักว่ากลุ่มเป้าหมายหรือ Target Audience นั้นมีอะไร

1. Target audience แบบ Demographic

เป็นการทำโฆษณาแบบ Demographic ที่สามารถทำแบบ Search, Display และ Video ที่เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการตลาดได้อย่างเชิงลึกและละเอียดเพราะเราสามารถกำหนดข้อมูลของประชากรได้อย่างละเอียดเช่น เพศ อายุ Location ภาษาที่กลุ่มเป้าหมายเราใช้ รวมถึงระดับรายได้และระดับการศึกษาด้วย

2. Target audience แบบ Affinity

เป็นการโฆษณาที่เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ใน Search, Display และ Video ตามความสนใจที่กลุ่มลูกค้าได้ชื่นชอบมาเป็นเวลานาน รวมถึงไลฟ์สไตล์ ลักษณะนิสัยของลูกค้าและความหลงไหล ซึ่งการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบ affinity จะสามารถกำหนดความชื่นชอบของกลุ่มได้ตรงมากขึ้นและยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการของเราได้มากขึ้นด้วย เพราะกลุ่มลูกค้ามีความสนใจในสินค้าและบริการนี้อยู่แล้ว

3. Target audience แบบ In Market

การตั้ง Target audience แบบ In Market สามารถทำได้ใน Search, Display และ Video ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในช่วงนี้ อยู่ช่วงที่ศึกษาหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการเราอยู่ ทำการทำโฆษณาแบบ In Market จะสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้ากลุ่มนี้ได้และกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการเราด้วย

4. Target audience แบบ Life event

การกำหนด Target audience แบบ Life event หรือเหตุการณ์ในชีวิต สามารถทำได้ใน Display ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเช่น การเข้ามหาวิทยาลัย การย้ายบ้าน การย้ายงาน การแต่งงาน เป็นต้น ทำให้สินค้าและบริการเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการในขณะนั้น

5. Target audience แบบ Retargeting

การทำโฆษณาแบบ Retargeting สามารถทำได้ทั้งแบบ Search, Display และ Video ซึ่งกลุ่มเป้าหมายประเภทนี้จะเป็นคนที่เคยเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามาก่อน ทำให้เราสามารถที่จะทำการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ และยังเพิ่มโอกาสที่จะเข้ามาซื้อหรือใช้บริการเราได้และยังเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์เราอีกด้วย

6. Target audience แบบ Customer Match

การทำโฆษณาผ่านกลุ่มลูกค้าโดยตรงโดยใช้ข้อมูลของลูกค้าเอง สามารถทำได้ทั้งแบบ Search, Display และ Video ระบบโฆษณาจะสามารถโฆษณาไปที่ลูกค้ารายนั้นโดยตรง ซึ่งข้อมูลที่ควรมีและสามารถใช้ได้เพื่อนำไปทำรายชื่อลูกค้า ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล์ สามารถใช้ประโยชน์ของ Customer Match ในการ Retargeting ลูกค้ากลุ่มเก่า หรือเสนอขาย แคมเปญพิเศษเพื่อให้กลุ่มเหล่านี้กลับมาใช้บริการซ้ำได้

7. Target audience แบบ Similar Audiences

การทำโฆษณาผ่านกลุ่มเป้าหมายที่ Google จะใช้ระบบ Machine Learning ในการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายที่เรา Retargeting และยิงโฆษณาไปยังกลุ่มที่ใกล้เคียงเหล่านี้ อย่างไรก็ตามระบบจำเป็นจะต้องมี Remarketing อย่างน้อย 1,000 ราย เพื่อที่จะเรียนรู้และค้นหากลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำ สามารถทำได้ทั้งแบบ Search, Display และ Video

8. Target audience แบบ Custom Audiences

การทำโฆษณาผ่านกลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดโดยระบุคีย์เวิร์ดหรือความสนใจที่กลุ่มเป้าหมายเคยค้นหา URL ของเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายเคยเข้าชม, แอปพลิเคชั่น, สถานที่ ที่กลุ่มเป้าหมายเคยไป ซึ่งสามารถใช้งานได้ผ่านช่องทาง Display, Video เพื่อให้วิดีโอสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

9. Target audience แบบ Custom Intent Audiences: auto-created (Display)

สามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้ผ่านทางช่องทาง Google Display เป็นกลุ่มเป้าหมายที่กูเกิลสร้างใหม่โดยอัตโนมัติ โดยดูจาก Keyword บน Headline, Title, Description ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา แต่ในปัจจุบันยังรอบรับเพียงแค่ภาษาอังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น สเปน รัสเซีย โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอิตาลี เท่านั้น 

สรุป

ถ้าหากเราสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Target audience) ได้เหมาะสมกับโฆษณาของเราได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งยังเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้นบน Google ด้วย ถ้าหากคุณสนใจทำการตลาดออนไลน์หรือโฆษณาบน Google นั้น Foretoday สามารถช่วยคุณได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ สนใจติดต่อเราได้เลย หรือถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่าการทำโฆษณาบน Google นั้นดียังไง ลองอ่านบทความนี้ดูรับรองว่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน 3 เหตุผลที่คุณต้องเลือกลงโฆษณาบน Google

“A better tomorrow starts today”

Line@ : bit.ly/ForeToday 

FB Chat: http://m.me/foretoday