Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

มารู้จักกับ Animal Marketing อัตลักษณ์สัตว์สะท้อนสู่แบรนด์กัน!

ทุกคนคงจะคุ้นเคยกับภาพและสัญลักษณ์เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่บนแบรนด์หลากหลายแบรนด์ในชีวิตประจำวัน แต่อาจไม่รู้ว่าเบื้องหลังแล้ว การนำอัตลักษณ์ของสัตว์เหล่านั้นมาประกอบแบรนด์ ช่วยส่งเสริมในด้านการตลาดด้วย วันนี้ทางเราจึงขอแนะนำให้รู้จักกับ Animal Marketing ว่าคืออะไร และช่วยส่งเสริมแบรนด์ได้อย่างไร พร้อมแล้ว ไปดูกัน!

Animal Marketing คืออะไร?

การสื่อสารทางการตลาดสัตว์เลี้ยง คือ กลยุทธ์อย่างหนึ่งที่นักการตลาดนำเอาสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์เพื่อสื่อ “ความเป็นตัวตน” หรือ “สร้างความทรงจำ” ให้กับแบรนด์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มบางอย่างเป็นพิเศษอีกด้วย โดยการนำมาใช้ มีได้หลากหลายรูปแบบมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น โลโก้แบรนด์ แมสคอต หรือ โฆษณา

แล้วทำไมถึงน่าดึงดูดใจกับผู้ชม?

เพราะธรรมชาติของมนุษย์มีความรักสัตว์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ป่า เราก็จะให้ความสนใจเช่นกัน จากการวิจัยพบว่าการตลาดที่ออกมาเล่นกับความรู้สึกผู้บริโภค มีประสิทธิภาพมากกว่าการตลาดปกติ เช่น 70% ของลูกค้าที่มีประสบการณ์ หรือมีการตอบสนองต่อโฆษณา มีแนวโน้มที่จะทำการซื้อ แบรนด์นั้น ๆ หรือ กว่า 71% ของผู้เลือกซื้อ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีอารมณ์ร่วมกับแบรนด์นั้น ๆ  มีแนวโน้มที่จะแนะนำสินค้าหรือบริการให้กับผู้อื่นต่อ ดังนั้นหลังจากผู้บริโภคเห็นโลโก้สัตว์ของแต่ละแบรนด์แล้ว ทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์ของเราและสร้างความแตกต่างกับแบรนด์คู่แข่ง รวมไปถึงดึงดูดและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น 

ประโยชน์จากการใช้สัตว์เป็นโลโก้แบรนด์ในการทำการตลาด

  • สร้างภาพจำให้แบรนด์ การที่เราใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์หรือโลโก้ของแบรนด์นั้น จะช่วยทำให้ผู้บริโภคนึกถึงธุรกิจของเราได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราเห็นโลโก้แบรนด์รูปจระข้ แบรนด์ที่เรานึกถึงอันดับต้น ๆ ก็ต้องเป็น Lacoste อย่างแน่นอน
  • สร้างภาพลักษณ์และคอนเทนต์ให้ต่างจากแบรนด์อื่น การที่เราจะเริ่มสร้างภาพลัษณ์และคอนเทนต์ให้ต่างจากแบรนด์อื่น ๆ นั้น เราต้องหาจุดแข็งของแบรนด์และนำจุดแข็งตรงนั้นมาพัฒนาเป็นโลโก้โดยใช้สัตว์เป็นตัวแทนของแบรนด์ 
  • ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจตรงกันง่ายขึ้น นอกจากจะดึงจุดแข็งของแบรนด์เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโลโก้แล้ว ธุรกิจสามารถเลือกสัตว์ที่มีความหมายแฝงเพื่อสื่อถึงแบรนด์ของตัวเองก็ย่อมได้ ยกตัวอย่างเช่น เวเบอร์ กาวซีเมนต์ปูกระเบื้องตราตุ๊กแก แบรนด์ได้ดึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในด้านของความติดทนออกมา และได้ใช้ตุ๊กแกที่ขึ้นชื่อเรื่องความเกาะติดนั้นมาเป็นสัญลัญษณ์ของแบรนด์นั่นเอง
  • สร้างปฏิสัมพันธ์ให้กับลูกค้า หลังจากที่แบรนด์นำสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์มาเป็นโลโก้แล้ว จะเห็นว่าหลายๆแบรนด์ นำสัตว์ที่เป็นโลโก้ไปทำเป็นแมสคอต และได้นำแมสคอตมาใช้ในด้านของการโปรโมท หรือแม้แต่ใช้เป็นแอดมินในการตอบแชท ยกตัวอย่างเช่น Bar B Q Plaza  ได้ใช้มังกรเป็นโลโก้ของแบรนด์ และได้นำมังกรที่ดูเป็นสัตว์ดุร้ายมาเพิ่มความน่ารักลงไป จนกลายเป็นแมสคอตที่ใช้แทนการสื่อสารของแบรนด์ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ Animal marketing 

มีแบรนด์มากมายที่นำสัตว์มาใช้ในการสื่อสารทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ของอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ต่าง ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม ก็ยังหยิบมาใช้กัน ตัวอย่างเช่น

  • สบู่นกแก้ว
    ที่ใช้สัตว์อย่างนกแก้วมาเป็นอัตลักษณ์ให้กับตัวแบรนด์ เกิดจากความที่เจ้าของแบรนด์ชอบเดินป่า และชื่นชมความงามของป่าไม้ พรรณไม้ต่าง ๆ รวมถึงประทับใจความงามของนกแก้วมาก อย่างนกแก้วก็จะสื่อสารถึงความสดใส ส่วนป่าไม้ สื่อถึงกลิ่นหอม และ ความธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดแบรนด์ อย่าง สบู่นกแก้วขึ้นมา นั่นเอง
  • WWF หรือ World Wildlife Fund
    องค์กรระดับโลกที่พิทักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธ์ุ และโปรโมทการอยู่อย่างยั่งยื่นของนานาสัตว์ ก็ได้เลือกใช้ “แพนด้า” เป็นสัญลักษณ์ประจำองค์กร และ สำหรับ สื่อสารไปยังช่องทางต่าง ๆ ด้วยความที่แพนด้านั่น เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธ์ุ ที่ต้องเร่งในการคุ้มครองอย่างด่วน อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ที่ น่ารัก น่าเอ็นดู เข้ากับคนได้ง่าย จึงเป็นที่มาขององค์กรนี้นั่นเอง
  • แป้งเย็นตรางู
    แบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน พอนึกถึงแป้งเย็น ใคร ๆ ก็นึกถึงแป้งตรางู แต่ที่มาของแบรนด์ที่ มีโลโก้งูที่ลูกศรปักบนหัวงู เนี่ย เพราะ “งู” เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง “โรคภัยไข้เจ็บ” และลูกศรที่ปักบนหัวงู สื่อถึง “การกำจัดหรือฆ่าโรคภัยไข้เจ็บนั้น ๆ ” จึงเป็นที่มาหรือความเชื่อของการรักษาโรคภัยเจ็บในสมัยก่อน นั่นเอง

สรุป

Animal Marketing เป็นการตลาดที่นำอัตลักษณ์ของสัตว์มาใช้ในแบรนด์ โดยช่วยส่งเสริมในเรื่องของภาพลักษณ์ ทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจในธุรกิจ จุดประสงค์และคุณสมบัติของแบรนด์ได้มากขึ้น และเกิดภาพจำเกี่ยวกับสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today”