โอ้ยโอ้ย ! คู่แข่งเต็มไปหมด ทั้ง Mega sale เอย D Day เอย ทำยังไงดีนะให้แคมเปญของเรา ชนะคู่แข่งได้ทันท่วงทีในช่วงเวลาสำคัญ แวะทางนี้เลยจ้า สำหรับเพื่อนๆที่เปิดร้านค้าออนไลน์บนลาซาด้าแล้วอยากจะงัดถั่งงัดให้แคมเปญปังปัง ยิ่งถ้าหากขายสินค้าในกลุ่มที่มีการแข่งขันสูงแล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาดหัวข้อในวันนี้
ในขั้นตอนการสร้างแคมเปญใน Lazada จะมีให้เลือก ประเภทของแคมเปญ จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบตั้งค่าด้วยตัวเอง (Standard) และตั้งค่าอัตโนมัติ (Automated) แต่สำหรับ Competitive bidding นั้นเราจะต้องเลือกประเภทแคมเปญ แบบ ตั้งค่าอัตโนมัติเท่านั้น (Automated)
หลังจากเราเลือกประเภทของแคมเปญเป็นแบบอัตโนมัติแล้ว จะมีการตั้งค่าราคาประมูลให้เราเลือก หรือ Maximum Bid Price จะแบ่งเป็น 3 แบบคือ
- แบบอัตโนมัติ (Cost-effective Bidding) – ระบบจะตั้งราคาประมูลแบบอัตโนมัติที่เหมาะสม
- กำหนดราคาประมูลสูงสุดด้วยตัวเอง – เราจะใส่เลขราคาประมูลสูงสุดลงไป เช่น ไม่เกิน 4 บาทต่อคลิก
- แบบไม่มีกำหนด (Competitive Bidding) – ระบบจะตั้งราคาประมูลเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะคู่แข่ง (ภายในงบประมาณรายวัน)
ข้อควรระวังในการใช้งาน เราควรใช้ Competitive Bidding เมื่อไหร่?
ตามที่อธิบายไปในหัวข้อก่อนหน้า การใช้ Competitive Bidding จะเป็นการ setting ให้แคมเปญพยายาม bid ให้ชนะคู่แข่ง โดยไม่สนใจว่าราคา bid จะอยู่ที่กี่บาท แพงแค่ไหนระบบก็พร้อมสู้จ้าาา ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ cpc จะสูงขึ้นมากๆ แบบมากๆๆๆๆ ดังนั้นเวลาใช้ Competitive Bidding เราจะต้องคอยเช็คแคมเปญอยู่แทบจะตลอดเวลาเลย ว่ามียอดขายเข้ามาไหม? ถ้าไม่มีก็ควรปิด แล้วกลับไปใช้ Manual Bid หรือ Cost-effective Bid แทน เพราะระบบจะสูบเงินเราไวมาก เรียกได้ว่าเกลี้ยงเลยทีเดียว
อ่านดูแล้ว การใช้ Competitive Bidding เหมือนจะมีแต่ข้อควรระวังเลยเนาะ แต่จริงๆแล้วเรามักจะใช้การ bid แบบนี้ในช่วงเวลาเที่ยงคืนของวัน D-Day นั่นเอง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ราคา bid จะพุ่งไปค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ในวัน D-Day จะเข้ามาในช่วงเวลานี้ ดังนั้นการใช้ Competitive Bidding ก็จะช่วยให้เราสามารถ bid ชนะแบรนด์คู่แข่งได้ รวมถึงช่วยลดค่าเสียโอกาสในการสร้างยอดขายในวัน D-Day ได้อีกด้วย
.
“A better tomorrow starts today”
Line@ : bit.ly/ForeToday
FB Chat : http://m.me/foretoday