การวัดผลการตลาดออนไลน์ ด้วย Matrics ที่ไม่ใช่ The Matrix Home / Articles / การวัดผลการตลาดออนไลน์ ด้วย Matrics ที่ไม่ใช่ The Matrix เกรินนำก่อนว่า เวลาเราทำการตลาดคือ การเอาสินค้าและบริการเราไปเจอกับลูกค้า และในบทความนี้เราจะพูดถึงการตลาดบนออนไลน์ซึ่งจุดเด่นคือการวัดผลที่วัดได้ตั้งแต่ ค่าการตลาดยันยอดขาย ดึงนั้น “สิ่งสำคัญที่ไม่ใช่เพลงดาเอ็นโดฟิน” คือการวัดผลหรือการ ตั้ง KPI การตลาดออนไลน์ อย่างตึง ใน 3 นาทีครับจารย์ ตามชื่อบทความจะแนะนำคุณดังนี้ 1. มารู้จัก Online Marketing Funnel ก่อนนะสู ทำไมต้องรู้จัก Online Marketing Funnel เพราะว่ามันคือเส้นทางของลูกค้าตั้งแต่เค้าเริ่มรู้จักสินค้าและบริการของเราจนกระทั้งเค้ามาซื้อสินค้าหรือมาใช้บริการไงละ หรือ แถวบ้านจะเรียนว่า Customer Journey Online Marketing Funnel ได้แก่อะไรบ้าง Awareness (การรับรู้ถึงแบรนด์) คือ การที่ลูกค้าเริ่มเห็นสินค้าและบริการของเรา ย้ำว่า “เห็นหรือจำได้” ขั้นนี้การทำการตลาดจะเน้นวัดผลที่การสื่อสารของเราเข้าถึงลูกค้าและ ย้ำว่า “เห็นหรือจำได้” เท่านั้น หลาย ๆ คนมักคิดว่าสินค้าใหม่ควรตั้ง KPI เป็น Awareness แต่ทางเราแนะนำว่าของบางอย่างที่เราใช้ในปัจจุบันเราก็ซื้อมาโดยที่เราไม่รู้จักหรือไม่ได้เชื่อเรื่อง Brand เลยแม้แต่น้อย เหมาะกับใครละ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้าง แบรนด์นะครับ ให้ลูกค้าเห็นและจำได้ ย้ำว่า “เห็นหรือจำได้” เท่านั้น Consideration (การเข้าถึงสินค้าและบริการ) คือ การที่ลูกค้าเราได้มีการเข้าถึงสินค้าและบริการอย่างเช่น Like, Comment, Share, Click, Views, etc. ขั้นตอนนี้ลูกค้าจะมีประสบการณ์ได้เข้าไปเห็น ไปอ่าน หรือรู้จักสินค้าค้าและบริการผ่านการมีส่วนร่วมกับสื่อทางการตลาด Conversion (การซื้อสินค้าหรือใช้บริการ) คือ การที่ลูกค้ามีการบรรลุเป้าหมายทางการตลาด โดยส่วนใหญ่เป็นการ การซื้อสินค้าหรือใช้บริการ แต่บางแบรนด์อาจคาดหวังเพียงมีคนกรอกข้อมูล สมัครสมาชิก หรือ อื่น ๆ ที่เป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการใช้วัดผลก็ได้เช่นกัน Retention (การซื้อสินค้าหรือใช้บริการอีกครั้ง) คือการที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งตัวนี้เราจะวัดที่การหาลูกค้าใหม่ด้วยเพราะการที่ลูกค้าใหม่มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ คนกลุ่มนี้ในอนาคตเค้าจะมาซื้อซ้ำกับเราได้สูง และหลาย ๆ ครั้งลูกค้าสามารถกลับมาในช่องทางที่เราไม่ต้องเสียเงินทำการตลาดด้วย 2. การวัดผลการตลาดออนไลน์ หรือ Online Marketing Metrics ในบทความนี้เราจะแบ่งการวัดผลตาม Online Marketing Funnel นะครับ เพราะ Stage ในการทำการตลาดของแต่ละคนขะไม่เท่ากัน แต่ย้ำว่าในการทำการตลาดออนไลน์ 1 ครั้งคุณสามารถเห็นตัวเลข หรือการวัดผล ทุกตัวตั้งแต่ Awarenss, Consideration, Conversion, และ Retention ทางเราแนะนำว่าการตั้ง KPI สามารถตั้งตามสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจคุณเคลื่อนไปข้างหน้า เช่น ยอดขาย, ยอดสมัคร, อื่น ๆ เริ่มละนะ Online Marketing Metrics คือ หน่วยที่ใช้ในการวัดผลลัพธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ การวัดผล เชิง Awareness Metricsความหมาย [สูตร]ประโยชน์Reach จำนวน users ที่ โฆษณาแสดงเน้นการตลาดที่เน้นเข้าถึงคนมาก ๆ ไม่เน้นการจดจำแบรนด์Impressionจำนวน ครั้ง ที่โฆษณาแสดงเน้นการแสดงผลโฆษณาที่บ่อยครั้ง เน้นการจดจำแบรนด์Frequencyจำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงต่อ 1 User [Impression ÷ Reach]ตัววัดผลด้านความถี่ของการแสดงโฆษณาSearch Impression Shareอัตราการแสดงผลบน Search [Impressionที่ได้ ÷ Impression ทั้งหมดที่มีคนเซิตจากคีย์เวิดนั้น x 100% ]ใช้เปรียบเทียบการแสดงผลบนหน้า Search เทียบกับปริมาณการเซิจทั้งหมดViewable Impressionจน ครั้ง ที่โฆษณาแสดง และ คนเห็น มากกว่า 50% ของ Banner และเห็นนานกว่า 2 secเน้นการแสดงผลโฆษณาที่บ่อยครั้ง เน้นการจดจำแบรนด์ และเน้นคุณภาพของการแสดงผลด้วย มีแค่บน Google Ads การวัดผล เชิง Consideration Metricsความหมาย [สูตร]ประโยชน์Clickการคลิกที่โฆษณาดูว่า กลุ่มเป้าหมายสนใจ AdsClick Through Rateอัตราการคลิกผ่าน [ Click ÷ Impression x 100% ]จะสูงเมื่อ Ads เราตรงกับกลุ่มเป้าหมายEngagementการมีส่วนร่วม เช่น Like, Comment, Share, View, Click, etc.ดูว่า กลุ่มเป้าหมายสนใจ AdsEngagement Rateอัตราการมีส่วนร่วม [ Engagement ÷ Impression x 100% ]จะสูงเมื่อ Ads เราตรงกับกลุ่มเป้าหมายViewการดู VDO ครบตามจำนวนวินาที ที่แต่ละ Platform กำหนดดูว่า กลุ่มเป้าหมายสนใจ AdsView Rateอัตราการดู VDO [ View ÷ Impression x 100% ]จะสูงเมื่อ Ads เราตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และ VDO ใน 3 วิแรกดึงดูด การวัดผล เชิง Conversion Metricsความหมาย [สูตร]ประโยชน์Conversionจำนวนครั้งที่ User มีการบรรลุเป้าหมายทางการตลาดใช้วัดผลทางตรงกับเป้าหมายทางการตลาดเช่น ยอดขาย หรือการใช้บริการConversion Rateอัตราการบรรลุเป้าหมายทางการตลาด[ Conversion ÷ Impression x 100% ]เป็นตัวตัดสินและตรวจสอบว่าช่องทางการปิดการขายเรามีคุณภาพพอหรือไม่Conversion Valueมูลค่าที่เกิดจากการบรรลุเป้าหมายทางการตลาด สามารถเป็นยอดขาย หรือ การประเมิณมูลค่าจากการได้ Leadใช้วัดผลทางตรงกับเป้าหมายทางการตลาดเช่น ยอดขาย หรือการใช้บริการAverage Order Value (AOV)รายได้ต่อการซื้อ 1 ครั้งใช้เปรียบเทียบมูลค่าที่ลูกค้าให้กับแบรนด์ต่อ 1 ครั้งBasket Sizeรายได้ต่อการซื้อ 1 ครั้งใช้เปรียบเทียบมูลค่าที่ลูกค้าให้กับแบรนด์ต่อ 1 ครั้ง การวัดผลแบบ Performacne Marketing Metricsความหมาย [สูตร]CPMค่าใช้จ่ายต่อ 1,000 ครั้งที่โฆษณาแสดง Cost per Milli [ Cost ÷ Impression x 1,000 ]CPCค่าใช้จ่ายต่อ 1 คลิกCost per Click [ Cost ÷ Click ]CPAค่าใช้จ่ายต่อ 1 การบรรลุเป้าหมายCost per Action [ Cost ÷ Conversion ]CACค่าใช้จ่ายต่อ 1 การเกิดลูกค้าใหม่Customer Acquisition Cost [ Cost ÷ New Customer ]ROIกำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้น ต่อต้นทุน 100 บาทReturn on Investment [ (Revenue – Cost) ÷ Cost x 100% ]ROASรายได้ที่เกิดขึ้น ต่อต้นทุน 100 บาทReturn on Ad Spent [ Revenue ÷ Cost x 100% ]COSต้นทุนที่เกิดขึ้น ต่อรายได้ 100 บาทCost of Sale [ Cost ÷ Revenue x 100% ]CIRต้นทุนที่เกิดขึ้น ต่อรายได้ 100 บาทCost Income Ratio [ Cost ÷ Revenue x 100% ]CLRมูลค่าที่ลูกค้าแต่ละรายใช้จ่ายไปกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้นๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นลูกค้าจนถึงวันที่เลิกเป็นลูกค้า.Customer LifeTime Value [มูลค่าเฉลี่ยของการซื้อ x จำนวนครั้งที่ลูกค้าซื้อในแต่ละปี x ระยะเวลาเฉลี่ยของความสัมพันธ์กับลูกค้า (ปี)] สรุป การวัดผลมีการและอยากให้รู้ไว้ว่า KPI ที่เราใช้ในการวัดผลสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาได้ และทุก Metrics ที่เห็นจะพบได้ในการทำการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Tiktok และ อื่น ๆ สำหรับความรู้ที่ต้องการอัพเดทในวันนี้ก็มีเท่านี้นะครับ ยังไงฝากกดไลค์ กดแชร์ และเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ และพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้หากมีตรงไหนที่สงสัยก็สามารถติดต่อมาได้เลยนะครับ “วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้” “A better tomorrow starts today” [email protected]: bit.ly/ForeToday FB Chat: http://m.me/foretoday “A better tomorrow starts today “ Digital Agency Digital Marketing digitalagency foretoday marketing Previous Next
Creative ความแตกต่างในการทำ Content marketing สำหรับ B2B และ B2C ที่ช่วยให้ธุรกิจคุณตอบโจทย์มากขึ้น! Supitcha|27 มี.ค. 2023