ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นทุกวัน การค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสสูงที่จะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ Google ได้พัฒนาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการขยายฐานลูกค้าด้วยแนวคิดคล้าย Lookalike Audience ที่รู้จักกันดีในแพลตฟอร์ม Facebook แต่มีความแตกต่างและจุดเด่นเฉพาะตัว
แนวคิดหลักของ Google ในการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึง
Google ใช้พลังของ AI และ Machine Learning วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมจาก Google Search, YouTube, Gmail, Google Display Network และ Google Ads เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะและพฤติกรรมคล้ายคลึงกับลูกค้าปัจจุบันของคุณ โดยนำเสนอผ่านเครื่องมือหลักสามประเภท ได้แก่ Similar Audiences, Custom Audiences และ Optimized Targeting
Similar Audiences: ค้นหาลูกค้าใหม่จากลูกค้าเดิม
Similar Audiences เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดของ Google สำหรับการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึง เริ่มต้นจากการใช้ข้อมูลลูกค้าที่คุณมีอยู่แล้ว (First-party data) ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อลูกค้าที่อัปโหลดผ่าน Customer Match หรือกลุ่ม Remarketing List ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณ
ระบบจะวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ และลักษณะของกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ แล้วค้นหาผู้ใช้ใหม่ที่มีรูปแบบพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายชื่อลูกค้าที่เคยซื้อรองเท้าวิ่งจากร้านของคุณ Google จะค้นหาผู้ใช้อื่นๆ ที่มีพฤติกรรมในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง หรือเคยรับชมวิดีโอเกี่ยวกับการวิ่งบน YouTube คุณสามารถใช้ Similar Audiences กับแคมเปญต่างๆ บน Google Display Network, YouTube, Gmail Ads และ Discovery Ads
Custom Audiences: กำหนดกลุ่มเป้าหมายเองตามพฤติกรรม
นอกจาก Similar Audiences แล้ว Google ยังเปิดโอกาสให้นักการตลาดสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยตนเองผ่าน Custom Audiences คุณสามารถระบุลักษณะของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึงได้ โดยใช้ปัจจัยต่างๆ เช่น คีย์เวิร์ดที่ค้นหา เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม แอปพลิเคชันที่ใช้งาน หรือหมวดหมู่ความสนใจ
ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจของคุณขายอุปกรณ์ทำกาแฟ คุณสามารถสร้าง Custom Audience โดยกำหนดให้ Google แสดงโฆษณาแก่ผู้ที่เคยค้นหาคำว่า “เครื่องบดกาแฟ” “เมล็ดกาแฟคั่วสด” หรือเคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกาแฟ
Optimized Targeting: ขยายกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ
Optimized Targeting เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยใช้ AI เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ แม้คุณจะไม่มีรายชื่อกลุ่มเป้าหมายเดิมก็ตาม
Google จะวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายปัจจุบันของคุณมีพฤติกรรมแบบใด และช่วยค้นหากลุ่มใหม่ที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณเช่นกัน เครื่องมือนี้สามารถใช้ได้กับแคมเปญ Performance Max, Display Ads และ Discovery Ads
ข้อดีและข้อควรพิจารณา
ข้อดีที่สำคัญของการใช้เครื่องมือเหล่านี้คือการเข้าถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ Google ที่รวบรวมจากหลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม ช่วยให้คุณขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม บริษัทรับทํา โฆษณา Google นักการตลาดควรเข้าใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้น การติดตามผล ทดสอบ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการใช้เครื่องมือเหล่านี้
การผสมผสานเครื่องมือทั้งสามประเภทเข้าด้วยกันในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพและมีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต