ในโลกของธุรกิจความงามที่แข่งขันสูง มีเรื่องราวหนึ่งที่โดดเด่นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย นั่นคือเรื่องราวของ “ซ้อการ์ด” หรือ คุณ ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนพร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Love Potion ที่ปัจจุบันอายุเพียง 27 ปี ก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงนักเรียนที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวหลังจากธุรกิจของพ่อแม่ล้มละลาย ซ้อก้าดได้เริ่มต้นด้วยการเคสมือถือเพื่อหารายได้เสริม ด้วยความมุ่งมั่นและความหลงใหลในด้านความงาม เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการสกินแคร์ด้วยการสร้างแบรนด์ Love Potion
Love Potion เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์แรกอย่างสบู่ Grape Soap และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจนมีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งเซรั่มบำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เครื่องสำอาง และล่าสุดคือน้ำหอม ความโดดเด่นของ Love Potion ไม่ได้อยู่เพียงแค่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดของซ้อก้าด การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ TikTok ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 9.8 ล้านคน ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็ว
ความสำเร็จของ Love Potion ไม่ใช่เพียงตัวเลขยอดขาย แต่ยังรวมถึงการสร้างปรากฏการณ์ทางการตลาด เช่น การไลฟ์ขายน้ำหอมและลิปออยที่สามารถทำยอดขายได้เกือบ 13 ล้านบาทในเวลาเพียง 33 นาที หรือการใช้ “พี่กร ไม้กวาด” เป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมที่สามารถขายหมดในเวลาเพียง 11 วินาที
เรื่องราวของซ้อการ์ดและ Love Potion ไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างของความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างธุรกิจของตัวเอง แสดงให้เห็นว่าด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ความฝันสามารถกลายเป็นความสำเร็จระดับพันล้านได้จริง
ประวัติซ้อก้าด
ซ้อการ์ด หรือ ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนพร เจ้าของแบรนด์ Love Potion ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจสกินแคร์ระดับพันล้าน และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามบน TikTok มากกว่า 9.8 ล้านคน
ซ้อการ์ดเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างในปี 2565 จากการทำคอนเทนต์แต่งตัวเซ็กซี่แล้วโดนเพื่อนด่า, ตามจีบ “ซุง ศตาวิน” แบบเล่นใหญ่ทุ่มสุดตัวเพื่อคนรัก และไลฟ์ขายของแบรนด์เนมในราคา 5 บาท 10 บาท จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียล โดยคลิปของซ้อก้าดยอดวิวทะลุหลักล้านทุกคลิป แมสสุดๆ
ใครอยากแมสแบบซ้อก้าดตามไปส่องกันได้ที่
ช่องทางส่วนตัวซ้อการ์ด
TikTok Account : Carddd
Instagram : carddd
ช่องทางแบรนด์ซ้อการ์ด
Love Potion
Cuddy.official
- จุดกำเนิด Love potionประวัติบริษัท
จากความท้าทายสู่ความสำเร็จ: การเดินทางของซ้อก้าดและแบรนด์ Love Potion
ทำไมต้อง “Love Potion”
ชื่อแบรนด์ Love Potion มาจากตอนที่คุณการ์ดเล่นเกม และเห็นไอค่อนรูป Potion ที่เป็นตัวแทนของยา และการเติมพลัง บวกกับคำว่า Love เพราะเธอชอบหัวใจมากจึงนำ 2 คำนี้มารวมกันเกิดเป็นชื่อแบรนด์ Love Potion
จุดเริ่มต้นที่ไม่ง่าย
เรื่องราวของ ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ซ้อการ์ด” เริ่มต้นจากการเป็นเด็กนักเรียนที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวหลังจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของพ่อแม่ประสบปัญหาล้มละลาย ซ้อก้าดเริ่มจากการขายเคสมือถือเพื่อหารายได้เสริม สิ่งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความพยายาม แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นนักธุรกิจของเธอด้วย
การก้าวเข้าสู่วงการความงาม
ด้วยความหลงใหลในความงามและการดูแลผิวหน้า ซ้อก้าดตัดสินใจเข้าสู่วงการความงามด้วยการผลิตสบู่ Grape Soap ผลิตภัณฑ์แรกของแบรนด์ Love Potion การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องทำให้เธอไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังสามารถขยายธุรกิจไปอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงใจผู้บริโภค
ซ้อก้าดใช้เทคนิค Storytelling ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนตัวและความท้าทายในชีวิตเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ความดังของเธอในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากมายยังช่วยเพิ่มพูนความน่าเชื่อถือ ทำให้เธอสร้างฐานแฟนๆ ที่มั่นคงได้ และช่วยให้แบรนด์เธอเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จสร้างได้ไม่รู้จบ
ปัจจุบัน Love Potion ไม่เพียงมียอดขายทะลุ 10 ล้านบาทในหนึ่งวันเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ ทีมงานของเธอที่มีความสามารถและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทำให้ Love Potion กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตและน่าติดตาม การเดินทางของซ้อก้าดเป็นหลักฐานว่าด้วยความพยายามและความคิดสร้างสรรค์ ใครๆ ก็สามารถก้าวผ่านความท้าทายและประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะยากเพียงใดก็ตาม
Ref1: https://www.dailynews.co.th/news/2872400/
Ref2:https://entertainment.trueid.net/detail/1r8nDWgq4wXJ
Ref3: https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2802884
Ref5: https://anyflip.com/rkvaz/kfen/basic
ข้อมูลสินค้า
โดยในปัจจุบัน Love Potion มีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งเซรั่มบำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าอย่างคลีนซิ่งและสบู่ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว รวมไปถึงหมวดเครื่องสำอางอย่างครีมกันแดด คอนซีลเลอร์ ลิปทิ้นน์ ลิปออย หรือสินค้าใหม่ล่าสุด น้ำหอมเลิฟโพชั่นเลิฟลี่
1.Love Potion Grape Soap
ไอเทมชิ้นแรกของแบรนด์ สบู่ทำความสะอาดผิวหน้า ที่อุดมไปด้วยสารสกัดต่างๆ จากธรรมชาติ ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส รอยแดงจากสิวดูจางลง
2.Love Potion Cactus Cream
ครีมแคคตัส มีส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำแลดูจางลง พร้อมปลอบประโลมผิว ล็อกความชุ่มชื้น
3.Love Potion Acne Serum Love
เซรั่มเนื้อแบบบางเบา ซึมไว ช่วยลดการอักเสบของสิว สิวดูแห้งไว พร้อมปรับผิวหน้าให้แลดูกระจ่างใส ดูสุขภาพดี ปราศจากสารก่อให้เกิดการแพ้ทั้ง 7 ประเภท ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
4.Love Potion Micellar Cleansing Water
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวสูตรน้ำ สัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ดูแลผิวได้อย่างอ่อนโยน พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
5.Love Potion Sunkiss
ครีมกันแดดผสมรองพื้น SPF 50 PA+++ เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ
6.IGHTLY COVER CONCEALER
คอนซีลเลอร์สูตรเบลอใต้ตา สูตรใช้กับใต้ตาโดยเฉพาะ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดแต่ง ไม่เป็นคราบ กันเหงื่อ คุมความมัน คงความชุ่มชื้น
7.BUDDY TATTOO TINT
ลิปทิ้นท์น้ำที่ให้ความกลอสฉ่ำวาว มีวิตามินบำรุงและทำให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น สี Food grade กันน้ำ ไม่ติดแมสก์
8.Love Potion SUPER WHITE SERUM
เซรั่มบำรุงผิวหน้า มีประสิทธิภาพ Whitening complex ช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำและการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ผิวหน้ากระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก เผยผิวกระจ่างใส และดูผิวสุขภาพดี
9.EYEBROW AUTO PENCIL ดินสอเขียนคิ้วบัดดี้
ดินสอเขียนคิ้วทรงหยดน้ำ โทนสีเป็นธรรมชาติ ขนแปรงทรงเกลียวเข้ากับรูปคิ้ว และยังช่วยปัดเบลนด์สีคิ้วอย่างเป็นธรรมชาติ
10.BUDDY! VELVET BLUR LIP TINT
ลิปทิ้นท์เนื้อแมทแบบกำมะหยี่ โทนสีตุ่น บางเบา สีชัด สามารถใช้ได้ทั้งปาก และแก้ม พร้อมสารสกัดบำรุงริมฝีปาก
11.MAGIC LIP OIL
ลิปออยล์ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น ต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ พร้อมทั้งช่วยให้ปากดูอิ่มฟู อวบอิ่มอย่างเห็นได้
12.LOVELY PERFUME น้ำหอมเลิฟโพชั่นเลิฟลี่ แพคเกจพกพาง่าย กลิ่นหอมติดทน
13.Milk Milk Nipple Covers ปิดจุกซิลิโคนเกรดการแพทย์จาก USA เข้าได้กับทุกสีผิว กันน้ำ กันเหงื่อ
วิเคราะห์การตลาด (กลยุทธ์ทางการตลาดของ love potion)
หลังจากได้ฟังประวัติของบริษัทกันแล้ว ทีนี้เรามาวิเคราะห์การตลาดของแบรนด์ love potion กันดีกว่าค่ะ ว่าทำไม love potion ถึงสามารถตีตลาดแบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางอย่าง และสามารถทำให้ ครีมแคคตัส ลิปออย และน้ำหอมให้แมสและเป็นที่รู้จักของวัยรุ่นไทยทุกคนได้ กลยุทธ์ที่ซ้อก้าดนำมาใช้มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
1.การสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์
โดยที่ซ้อก้าดเป็นอินฟลูให้กับแบรนด์ตัวเอง โดยทำคลิปในติ๊กต๊อก รีวิวเครื่องสำอาง เสื้อผ้าต่าง ๆ ต่อมาคุณซุง ที่ปรึกษาซ้อก้าดได้ให้คำแนะนำให้เปลี่ยนแนวคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น อย่างเช่น คลิปที่ซ้อก้าดบอกว่าหมอดูทักว่าคนที่เกิดวันพุธจะถูกโฉลกกับสีเขียวแล้วเขาก็ได้ Tie in ตัวครีมแคคตัสเข้ามาในคลิป และทำให้คนรู้จักซ้อก้าดและครีมของแบรนด์ love potion มากขึ้น และคอนเทนต์อื่น ๆ ที่แปลกออกไป เช่น ไลฟ์แจกของ และ ไลฟ์ขายของในราคาเพียง 5 บาท ที่สามารถเรียกคนให้เข้ามาดูไลฟ์เป็นจำนวนมาก รวมถึงนำเสนอเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจและชีวิตของซ้อก้าด ผ่าน Storytelling และ Personal Branding ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมโยงและเกิดความรู้สึกร่วมไปกับแบรนด์
2.ขายสินค้าในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
สาเหตุที่ซ้อก้าดขายสินค้าในราคาที่ทุกคนซื้อได้เพราะไม่มีการจ้างดาราหรืออินฟลูมารีวิวตัวสินค้า แต่ใช้เป็นการให้คนในบริษัททำคอนเทนต์และรีวิวสินค้านั้นแทน ซึ่งช่วยลดงบการตลาดไปได้มาก ตัวสินค้าที่ขายเลยสามารถตั้งราคาที่ถูกลงได้ ถ้าเปิดติ๊กต๊อกตอนนี้ เราจะเห็นได้ว่า คนในทีม love potion อย่างทีมงานและเพื่อน ๆ ของซุง ส่วนใหญ่ทำคอนเทนต์และ Tie in สินค้าเข้าไปในวิดิโอ เห็นได้ว่าเป็นการพีอาที่เน้นความสนุกสนานและสอดแทรกตัวสินค้าเข้าไปแบบเนียนๆอีกด้วย
3.การสร้างศูนย์รวม influencer ขนาดย่อม ด้วยการทำ Personal Branding ให้กับพนักงานในออฟฟิศที่คน
หลายๆคนคงจะรู้กันดี ว่าการทำ Personal Branding ในปัจจุบันนั้นเป็นเครื่องมือที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจเพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วและนำไปสู่ผลลัพท์ที่องค์กรคาดหวังไว้ได้ อย่างเช่นคำกล่าวของ Zig Ziglar นักสร้างแรงบันดาลใจระดับโลกที่กล่าวไว้ว่า “ถ้าคนชอบคุณ พวกเขาจะฟังคุณ แต่ถ้าพวกเขาไว้ใจคุณ พวกเขาจะทำธุรกิจกับคุณ” ซึ่งการทำ Personal Branding นั้นใช้หลักการเดียวกันนั่นก็คือ การทำให้ผู้คนเชื่อ แล้วเดี๋ยวความมั่นใจในตัวสินค้าที่ถูกพูดถึงก็จะตามมา ซึ่งในการทำแบรนด์ ซ้อก้าดได้มีการสนับสนุนที่จะปลุกปั้นพนักงานในบริษัทที่อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์อย่างเต็มที่ ด้วยการซัพพอร์ตและให้พนักงานสามารถถ่ายคลิปที่เกี่ยวกับสินค้าลงในช่องของตัวเองได้ โดยหลังจากที่มีการถ่ายแล้ว ทำให้ตัวพนักงานคนนั้นก็มียอดผู้ติดตามที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด และ กลายเป็นบุคคลที่มีตัวตันในโลกออนไลน์ทันที
และสิ่งเหล่านี้เองส่งผลให้เวลาโปรโมทสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องจ้าง Influencer หรือเสียเงินเพื่อทำโปรโมท ผลิตภัณฑ์มากมาย ผู้คนก็สามารถเข้าถึงแบรนด์ได้อยู่ดี เพราะว่ามี Influencer อยู่ในบริษัทของตัวเองที่ทำการโปรโมทไปในตัวอยู่แล้ว มีตัวอย่างพนักงานหลายคนในบริษัท Love Potion ที่ปัจจุบัน เป็น influencer ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น ซุง สตาร์วิน (sungstarwin), สาม (Sasam Sumday), บูม boomkrittin และอีกหลายคนค่ะ
จากกลยุทธ์ของซ้อก้าดข้างบน เราจะสามารถเอาไปปรับใช้กับบริษัทของเรายังไงได้บ้าง มาดูกัน
แบรนด์ Love Potion ประสบความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ การใช้สื่อออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แต่การสร้างแบรนด์ ก็ยังคงมีทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อน ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้
1.การสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์
ซ้อก้าดสร้างตัวตนที่โดดเด่นให้กับแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เรื่องราวส่วนตัวสร้างความผูกพันกับลูกค้า ทำให้แบรนด์มีชีวิตชีวาและน่าจดจำ
2.การใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด
ใช้ TikTok และ YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีส่วนร่วม ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
3.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า
ปรับปรุงสินค้าตามฟีดแบ็คของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทั้งด้านคุณภาพและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการได้ดี
4.กลยุทธ์การส่งเสริมการขายที่ฉลาด
เน้นการลงทุนในโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขาย แทนการใช้พรีเซนเตอร์ราคาแพง ช่วยเพิ่มยอดขายและการรับรู้แบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ
5.การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิดผ่านการไลฟ์สตรีมและการตอบคอมเมนต์ สร้างความรู้สึกเป็นชุมชนและความภักดีต่อแบรนด์
ประเด็นที่ควรระวัง
1.การพึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากเกินไป
ควรมีแผนสำรองหากเกิดปัญหากับแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ และพิจารณากระจายความเสี่ยงไปยังช่องทางอื่นๆ ด้วย
2.ความท้าทายในการขยายธุรกิจ
การขยายไปสู่ช่องทางค้าปลีกอย่าง 7-11 อาจมีความซับซ้อนในการจัดการและการรักษาคุณภาพสินค้า ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
3.การพึ่งพาภาพลักษณ์ของบุคคล
ความสำเร็จของแบรนด์ที่ผูกติดกับคุณซ้อก้าดอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว ควรสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่แข็งแกร่งด้วยตัวเอง
แนวทางการพัฒนากลยุทธ์การตลาดในอนาคต จาก กลยุทธ์ซ้อก้าด
1.กระจายความเสี่ยงทางการตลาด
ลองใช้กลยุทธ์การตลาดแบบอื่นเพิ่มเติม เช่น SEO, อีเมลมาร์เก็ตติ้ง หรือการทำ content marketing เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
2.พัฒนาความรู้ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ลงทุนในการเรียนรู้และฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะในการวิเคราะห์ตลาดและวางกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
3.วางแผนการขยายธุรกิจอย่างรอบคอบ
พัฒนาระบบการจัดการและควบคุมคุณภาพที่รัดกุมเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อขยายไปสู่ช่องทางใหม่ๆ
4.สร้างคุณค่าแบรนด์ที่ยั่งยืน
พัฒนาแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยตัวเอง นอกเหนือจากการพึ่งพาบุคลิกของคุณซ้อก้าด เน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
5.วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
ทำการวิจัยตลาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อเข้าใจเทรนด์และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์
ซ้อก้าดทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง เราจะมายกตัวอย่างให้ดูกัน!
ซ้อก้าดและซุง ไลฟ์ขายน้ำหอมและลิปออย 33 นาที ทุบสถิติยอดขาย เฉียด 13 ล้านบาท
วันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ซ้อก้าดไลฟ์สดขายน้ำหอมและลิปออย ที่ทำยอดขายได้มากถึง 12,935,749 บาท ภายในเวลาเพียง 33 นาที โดยเฉพาะน้ำหอมที่ขายหมดภายในเวลา 1 นาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนในทีมlove potion ดีใจเป็นอย่างมาก ซ้อก้าดได้กล่าวขอบคุณทีมงานและลูกค้าที่สนับสนุนแบรนด์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะพัฒนาสินค้าให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นที่ภาคภูมิใจ และทั้งคู่ยังได้แจ้งเพิ่มเติมว่าลูกค้าที่พลาดการสั่งซื้อในครั้งนี้ ไม่ต้องกังวลเพราะจะมีการรีสต๊อกสินค้าในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน โดยจะขายในไลฟ์สดเวลา 10 โมงเช่นเคย
Case success ของบริษัท Love Potion ที่สามารถสร้างรายได้ จากการทำ Personal Branding
“พี่กร ไม้กวาด” พรีเซนเตอร์คนใหม่ของน้ำหอม สร้างปรากฏการณ์ขายน้ำหอมหมดใน 11 วินาที ทำได้ยังไงมาดูกัน
ล่าสุด “ซ้อก้าด” และ “ซุง” เจ้าของแบรนด์ love potion ได้พา “พี่กร” พ่อค้าไม้กวาดมาสู่พรีเซนเตอร์น้ำหอม ผลลัพธ์คือการไลฟ์ขายของหมดใน 11 วินาที นี่เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเป็นพรีเซนเตอร์ที่ประสบความสำเร็จได้ ถ้ามีเรื่องราวและการตลาดที่ดี ซึ่งการใช้คนธรรมดาอย่าง “พี่กร ไม้กวาด” เป็นพรีเซนเตอร์ช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงและเป็นกันเองกับผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ Love Potion มีความจริงใจและเข้าถึงง่ายในสายตาของลูกค้า.
ในโลกแห่งธุรกิจความงามที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เรื่องราวของ Love Potion และซ้อก้าดได้จุดประกายแห่งแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เป็นบทพิสูจน์ว่าด้วยความมุ่งมั่น ความกล้าที่จะฝัน และกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด แม้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ก็สามารถเติบโตเป็นปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนวงการได้
จากเด็กสาวที่เริ่มต้นขายเคสมือถือเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ซ้อก้าดได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น แต่อยู่ที่หัวใจที่ไม่ยอมแพ้และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล การผสมผสานระหว่างคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด และการสร้างตัวตนที่แข็งแกร่งบนโลกออนไลน์ ได้หลอมรวมกันเป็นสูตรลับแห่งความสำเร็จของ Love Potion
แม้ว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่ซ้อก้าดได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย การสร้างทีมที่แข็งแกร่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Love Potion ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการความงาม
ในท้ายที่สุด เรื่องราวของ Love Potion ไม่เพียงแต่เป็นตำนานแห่งความสำเร็จ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เป็นบทเรียนที่แสดงให้เห็นว่าด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และความกล้าที่จะทำสิ่งแตกต่าง ทุกคนสามารถสร้างปรากฏการณ์ของตัวเองได้ Love Potion และซ้อก้าดไม่เพียงแต่สร้างแบรนด์ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจที่จะคงอยู่ในใจผู้คนอีกนานเท่านาน เป็นตำนานแห่งความสำเร็จที่จะถูกเล่าขานต่อไปในวงการธุรกิจไทย