Lead Form Extension คืออะไร ส่วนขยายโฆษณารูปแบบใหม่ของ Google Ads โดยให้ผู้ใช้งาน หรือผู้เห็นโฆษณาคลิกเพื่อลงทะเบียนฝากข้อมูลการติดต่อมาถึงผู้ลงโฆษณา
ข้อดีของ Lead Form Extension ช่วยให้ผู้ใช้ Google ที่เห็นโฆษณา เกิดความสนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อให้ข้อมูลการติดต่อได้ในทันที โดยไม่ต้องคลิกเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา เพิ่มโอกาสในการขาย และยังเป็นการเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มี quality สูงที่จะเข้ามากรอก lead นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการติดต่อกลับ ถือเป็นข้อดีที่ได้ทั้งผู้ที่สนใจ และผู้ที่ได้รับข้อมูล
การใช้งานจะคล้ายๆ Facebook Lead form แต่ที่แตกต่างคือ Google จะเป็นระบบ Auto fill ทั้งหมดตาม category ของคำถาม แต่ Facebook จะสามารถใส่คำถามเองได้ แต่ฟังก์ชั่นนี้จะไม่สามารถใช้งานได้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ธุรกิจที่นำเสนอสินค้า 18+ หรือเกี่ยวกับ Sexual
- ธุรกิจขายสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคาสิโนทุกชนิด
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภท Health Care และ Medicine
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
Lead Form Extension แสดงผลที่ไหนบ้าง
สำหรับ lead form extension ณ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะในแคมเปญ search, video, discovery และ display เท่านั้น โดยหน้าตาของ lead form ในแต่ละแคมเปญจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปดังนี้
Search
Video
Discovery
Display
ซึ่งฟีเจอร์ lead form extension รองรับการใช้งานในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ถ้าอยากรู้ว่ามีประเทศอะไรบ้างสามารถดูได้ที่นี่
Requirement
ข้อกำหนดในการใช้งาน lead form extension นั้นจะต้องผ่านเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ปฏิบัติตามนโยบายของ Google มาโดยตลอด
- บัญชีน้ันจะต้องไม่ประกอบธุรกิจที่ขัดตามนโยบายของ Google เช่น ธุจกิจที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอลล์หรือสิ่งมึนเมา ธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขอนามัยและยา และอื่นๆ ดูเพิ่มเติม
- ต้องใส่ url หน้านโยบายความเป็นส่วนตัวที่อยู่บนเว็ปไซต์ ซึ่งจะอยู่ที่ส่วนท้ายของ lead form
ขั้นตอนการสร้างแคมเปญ
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Ads เลือก Ads & extensions >> Extension
- กด + เลือก Lead form extension
- กดเข้ามาแล้ว ให้เลือก campaign
- ใส่ Headline / Business name / Description
เมื่อใส่เสร็จแล้วจะมี preview โชว์ตามนี้เลย
- มาถึงขั้นตอนของคำถาม
5.1. คำถาม information สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง
5.2. คำถามประเภท Qualifying เลือกประเภทของคำถามที่มีอยู่แล้วจาก google เท่านั้น ไม่สามารถพิมพ์คำถามเองได้
ส่วนคำตอบ มีให้เลือกทั้ง Short answer และ Multiple-choice (ตรงส่วนนี้เราสามารถพิมพ์ได้)
- ใส่หน้าเว็บไซต์ที่ลิงค์ไปที่หน้ารายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy policy URL) ด้วย
- ใส่ Headline / Description ในหน้า Thank you ในส่วนนี้สามารถ ใส่ URL เพื่อ link ไป website หน้าไหนก็ได้
- เลือก Call to action
- Get Quote
- Apply Now
- Sign Up
- Contact Us
- Subscribe
- Download
- Book Now
- Get Offer
- Get info
- Get started
- Join now
- Learn more
- Register
- Request a demo
Lead form optimization
เราสามารถเลือกรูปแบบของ Lead form optimization ได้ โดยอยู่ในหัวข้อ lead form type สามารถเลือก 2 รูปแบบ คือ
More volume
เป็นรูปแบบ default ที่ google ตั้งค่ามาให้ โดยเน้นปริมาณการเข้าถึง lead form ชองเรา ซึ่งการเลือกใช้ lead form optimization แบบ More volume จะส่งต่อ cost per lead ซึ่งจะทำราคาได้ต่ำกว่าอีกรูปแบนึง
More qualified
รูปแบบนี้จะเน้นไปที่คนที่มีความสนใจในตัวธุรกิจ สินค้า หรือบริการของเรา ซึ่งอาจจะจะทำให้ cost per lead พุ่งสูงขึ้นได้ และมีปริมาณการเข้าถึง lead form ของเราลดลง
ทั้งนี้เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบของ lead form optimization ได้ตลอดในขณะที่รันแคมเปญอยู่
วิธีการเก็บ lead
เราสามารถ download ข้อมูล lead ได้โดยตรงจากใน google ads โดยไปที่หัวข้อ ads & extensions > extensions ไปที่ lead form extension จะมีปุ่มให้ดาวน์โหลด โดยข้อมูลที่เก็บมาได้นั้นจะเป็นไฟล์ csv
หรือถ้าหากใครมีระบบหลังบ้าน CRM อยู่แล้วสามารถดาวน์โหลด csv for CRM ได้ โดยจะเป็นไฟล์ advance csv ที่สามารถ import เข้า CRM ได้
สำหรับใครที่มีระบบ CRM เรายังสามารถ set up เพื่อให้ข้อมูลจาก lead ส่งเข้าไปยัง CRM โดยตรงแบบ real time ได้ โดยภายใต้หัวข้อ lead delivery option ในฟอร์มของเรา จะมีให้ set up Webhook integration โดยการใส่ Webhook URL ลงไป