ทำเมนู Seasonal ให้เป็นไวรัล แค่เปลี่ยนรสก็ได้กระแส
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้ After You ประสบความสำเร็จแบบ “ไวรัล” อย่างต่อเนื่อง คือการสร้าง เมนู Seasonal (ตามฤดูกาล) ที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังมีกิมมิกทางการตลาดที่ “หยิบไปพูดต่อได้” ไม่ว่าจะเป็น Kakigori ทุเรียนในหน้าร้อน Toast ไข่เค็มช่วงกระแส หรือ Honey Toast ข้าวเหนียวมะม่วงที่เปิดตัวตามเทศกาล
จุดแข็งของ After You คือ “เข้าใจความไวของกระแส” แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นเมนูที่ “แชร์ได้ กินได้ และจดจำได้” การทำให้เมนู Seasonal กลายเป็นไวรัล ไม่ได้เกิดจากการโพสต์ภาพสวยอย่างเดียว แต่เกิดจากการเล่าเรื่อง (Storytelling) ที่เชื่อมโยงเมนูเข้ากับฤดูกาล เทรนด์ และวัฒนธรรมปัจจุบัน “After You” จึงถูกพูดถึงซ้ำ ๆ ไม่ใช่แค่เพราะรสชาติ แต่อยู่ที่ประสบการณ์และความไวในการทำให้ “สินค้า” กลายเป็น “คอนเทนต์”
ตัวอย่างความสำเร็จเช่น:
- Kakigori ข้าวเหนียวมะม่วง: เปิดตัวพร้อมกระแสเพลง Mango Sticky Rice จากศิลปิน MILLI บนเวที Coachella ทำให้ทั้งโลกพูดถึงข้าวเหนียวมะม่วง และ After You ใช้โอกาสนี้ปล่อยเมนูที่โดนใจคนไทยและต่างชาติทันที
- Honey Toast ไข่เค็มลาวา: ขานรับกระแสไข่เค็มในโลกโซเชียลช่วงปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่หลายแบรนด์หยิบไข่เค็มมาทำเป็นรสชาติในทุกหมวดหมู่ของอาหาร
ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการเป็นไวรัลไม่ใช่เพียงแค่การออก “รสชาติใหม่” แต่มันคือ “จังหวะเวลา การเล่าเรื่อง คอนเทนต์ที่แชร์ได้”

เล่าเรื่องเมนูให้เป็นอารมณ์ ไม่ใช่แค่โพสต์ แต่คือความรู้สึก
After You ไม่เคยขายแค่ “ของหวาน” แต่ขาย “ความรู้สึก” ทุกเมนูที่เปิดตัวมีคอนเซปต์เรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านภาพ วิดีโอ คำบรรยาย และบรรยากาศของร้านอย่างรอบด้าน ถ้าใครเคยดู IG หรือ Facebook ของ After You จะสังเกตว่าโพสต์ของพวกเขามักไม่ได้บอกแค่ว่า “มีเมนูใหม่” แต่จะเล่าเป็นเรื่อง เช่น:
- “เมนูนี้เราคิดถึงช่วงเวลาตอนเด็ก ที่คุณแม่ทำขนมทิ้งไว้ตอนเปิดเทอม…”
- “ความหวานนี้มาในช่วงที่คุณต้องการพักใจ”
รูปถ่ายใช้โทนอบอุ่น ภาพเคลื่อนไหวแบบ Cinematic เสริมอารมณ์ และข้อความสั้น ๆ ที่กระทบใจ สร้างความรู้สึกร่วมกับลูกค้าอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งยังใส่ใจในการ ออกแบบแพ็คเกจ และ Presentation ของเมนูให้เหมาะกับการถ่ายรูป ทำให้ลูกค้าอยากแชร์ต่อโดยไม่ต้องถูกกระตุ้นด้วยการโปรโมต

ใช้โซเชียลแบบรู้ใจลูกค้า – IG, TikTok, Story ก็จัดครบ
After You เข้าใจแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็น Instagram ที่ใช้ภาพเป็นหลัก TikTok ที่ใช้วิดีโอสั้นบอกเล่าเมนูใหม่ และ Facebook ที่เน้นการอัปเดตข่าวสาร โปรโมชั่น และรีวิวจากลูกค้า แต่สิ่งที่แบรนด์ทำได้เหนือกว่าคือ “การใช้แต่ละช่องทางอย่างตรงจุด” เช่น:
- IG Story และ Highlight ใช้ในการปักหมุดเมนูเด่นที่มีช่วงเวลาจำกัด
- TikTok ใช้ Influencer สร้างคอนเทนต์แนว Life-style เช่น “1 วันกินอะไรบ้าง?” แล้วแทรก After You อย่างแนบเนียน
- Facebook Page ใช้โพสต์แบบเล่าเรื่อง Emotional พร้อมทั้งแคปชันที่คนแชร์แล้วรู้สึก “ใช่เลย”
นอกจากนั้น ยังมีระบบ Line OA ที่ให้ข้อมูลสาขา, โปรโมชั่น และเมนูใหม่ ๆ พร้อมให้ลูกค้ากดสั่ง Delivery หรือจองคิวในช่วงเทศกาลได้ทันที นี่คือการตลาดแบบรู้ใจที่ไม่เพียงแต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ยัง “อยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าอยู่” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
โปรโมชันไม่ใช่แค่ลดราคา แต่คือ FOMO ที่แท้จริง
After You ไม่ได้เน้น “โปรโมชันลดราคา” แบบถล่มตลาด แต่เน้นสร้าง FOMO (Fear of Missing Out) หรือ “กลัวตกกระแส” แทน กลยุทธ์คือการทำให้เมนู Seasonal เป็นแบบ จำกัดเวลา เช่น “เฉพาะหน้าร้อนนี้เท่านั้น”, “มีขายถึงสิ้นเดือนนี้” หรือ “มีเฉพาะบางสาขา” ทำให้ลูกค้าอยากรีบไปลองก่อนที่เมนูจะหายไป
การโปรโมตลักษณะนี้เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะสร้างแรงจูงใจทันทีโดยไม่ต้องลดราคา นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์:
- Collaboration กับแบรนด์อื่น เช่น LINE Friends, Sretsis ฯลฯ
- Event เฉพาะกิจ เช่น Pop-up store ที่เปิดเฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ
- แจกของพรีเมียม เช่น Sticker, ถุงผ้า, กล่องของหวานแบบลิมิเต็ด
ทั้งหมดนี้คือการใช้ การตลาดแบบประสบการณ์ (Experiential Marketing) ที่เพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์มากกว่าการลดราคา
สรุป
After You ไม่ได้เป็นแค่ร้านของหวานที่ขาย “ความหวาน” แต่เป็นแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์ สร้างคอนเทนต์ และสร้างกระแสอย่างเป็นระบบ เคล็ดลับความไวรัลของ After You มีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ:
- จับกระแสด้วย Seasonal Menu ที่ไม่ใช่แค่รสชาติใหม่ แต่เป็นเรื่องราวใหม่
- เล่าเรื่องผ่านเมนู อย่างมีอารมณ์ เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพัน
- ใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้าใจแพลตฟอร์ม และไลฟ์สไตล์ลูกค้า
- โปรโมชันที่กระตุ้น FOMO ไม่ใช่แค่ลดราคา แต่กระตุ้นการมีส่วนร่วม
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารหรือแบรนด์เครื่องดื่มที่อยากนำแนวทางแบบ After You ไปปรับใช้ ลองพิจารณาการทำการตลาดด้วยเนื้อหาที่ “เล่าเรื่อง – เชื่อมโยง – กระตุ้นให้แชร์” มากกว่าการขายของตรง ๆ หากคุณอยากให้แบรนด์ของคุณ “โตแบบมีระบบ” เหมือนตี๋น้อย ทีม Foretoday พร้อมช่วยออกแบบกลยุทธ์ Branding และ Performance Marketing แบบครบวงจร
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่: https://foretoday.asia/