Campaign Structure แบบไหนกันที่ Apple Search Ads แนะนำ

อย่างที่รู้กันว่า Apple Search Ads คือ รูปแบบของโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Apple App Store จุดประสงค์หลักคือการติดตั้งแอปพลิเคชั่นบน App Store โดยแบ่งหลักๆเป็น2ประเภทคือ Search Result Campaign กับ Search Tab Campaign

เราอาจจะไม่คุ้นชินกับการรัน Apple Search Ads เท่าไหร่เพราะยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ดังนั้นทาง Apple ได้ให้ best practice สำหรับการรันโฆษณาบนแพลตฟอร์ม สรุปง่ายๆดังนี้

อย่างแรกเลย เนื่องจาก Apple Search Ads เป็นการยิงโฆษณาในรูปแบบของแอปพลิเคชั่น ดังนั้นถ้าหากต้องการเริ่มยิงโฆษณา เราจะต้องมีแอปพลิเคชั่นเป็นของตัวเองก่อน

แบ่งแคมเปญออกเป็น 4 ประเภท

Apple ได้แนะนำให้ผู้ที่รันโฆษณาแบ่งแคมเปญออกเป็น 4 ประเภท เพื่อจะช่วยให้เราสามารถ monitor ได้ง่ายขึ้น

Brand Campaign
แคมเปญนี้จะโฟกัสที่ตัวแบรนด์และแอปพลิเคชั่นของเราเป็นหลัก โดยKeywordที่เราเลือกจะเป็นชื่อแบรนด์หรือชื่อแอปพลิเคชั่นของเรานั่นเอง

Generic Campaign
ในส่วนของ Generic Campaign นั้น จะใช้ keyword ที่บ่งบอกถึงฟังก์ชั่นหรือสิ่งที่แอปพลิเคชั่นของเราสามารถทำได้

Competitor Campaign
แคมเปญนี้ตามชื่อของประเภทก็คือ การที่เราเลือกใช้ชื่อแบรนด์ของคู่แข่งในตลาดของเราที่มีลักษณะและฟังก์ชั่นคล้ายๆกับแอปพลิเคชั่นของเรา ไม่ว่าจะเป็น direct หรือ indirect competitors ก็ตาม

Discovery Campaign
แคมเปญประเภทนี้จะแตกต่างจากประเภทอื่นๆ เพราะ Discovery Campaign นั้นจะช่วยเราหา keyword ใหม่ๆให้เรา โดยการเปิด Search Match รวมถึงยังช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นโฆษณาของเราได้มากขึ้น

Search Match คืออะไร

Search Match เป็น feature ที่ช่วยเราหา keyword ใหม่ๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องใช้คู่กับ Discovery Campaign โดย keyword ที่เราได้มาจากการที่ Search Match แนะนำมา เราสามารถนำไปใช้เป็น keyword ในรูปแบบ Exact ได้ใน3 แคมเปญ (Brand Campaign, Generic Campaign และ Competitor Campaign)

แต่อย่างไรก็ตาม Best Practice ที่ทาง Apple Search Ads ให้มานั้น อาจไม่เหมาะกับทุกแบรนด์ เช่น ถ้าหากมีงบประมาณที่จำกัด อาจจะใช้ structure อื่นๆตามความเหมาะสม

“A better tomorrow starts today”

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

Apple Search Ads Digital Marketing