เมื่อเข้าช่วงปีใหม่ทั้งที ใครหลายคนคงจะมีการตั้งเป้าหมายหรือ New Year’s Resolution ของตัวเองกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของชีวิตส่วนตัว ความสัมพันธ์หรือแม้แต่การทำงาน และสำหรับคนที่เป็นนักอ่านแล้ว แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “จะอ่านหนังสือให้ได้กี่เล่มดีในปีนี้” แต่หากยังไม่รู้ว่าจะอ่านเล่มไหนดี ในบทความนี้จะมาแนะนำหนังสือที่น่าอ่านให้กับทุกคนกัน รับรองเลยว่าน่าสนใจจนอยากจะเก็บเป็นลิสต์เพิ่มเลยแหละ ไปดูกันเลย
หนังสือเล่มแรก เริ่มด้วย
ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ (Four Thousand Weeks) ของ Oliver Burkeman
เป็นหนังสือว่าด้วยเรื่องการบริหารเวลา มีความโดดเด่นจากเล่มอื่นๆ คือ จะฉีกกรอบแนวคิดการบริหารเวลาที่ทุกคนเคยอ่าน ไม่ได้มีการบอกให้ใช้เครื่องมือต่างๆ ในการจัดการเวลา แต่หัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้คือ ชวนให้เราคิดตามว่า เรามีชีวิตแค่ 4000 สัปดาห์บนโลกใบนี้ และตอนนี้เรากำลังเข้าใจเรื่องของการบริหารเวลาผิดไปหรือไม่ เรามีค่านิยมที่ว่าชีวิตต้อง productive ตลอดเวลา ต้องจัดการกับทุกอย่างให้เรียบร้อย ต้องหาเครื่องมือมาจัดการเวลากับทุกอย่างในชีวิตเพื่อให้มีเวลาอย่างเพียงพอที่จะทำทุกๆ อย่างที่เราวางแผนเอาไว้ แต่ในความเป็นจริงของชีวิตมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะชีวิตของเรามีข้อจำกัด เราไม่มีทางควบคุมเวลาในทุกเรื่องของเราได้
เล่มที่สอง
ซ่อมแซมสุขที่สึกหรอ (Emotional First Aid) ของ Guy Winch มาจากผู้เขียนเดียวกับ How to Fix a Broken Heart
เป็นหนังสือที่เหมือนเป็นคู่มือแนะนำวิธีการรักษาเยียวยาบาดแผลทางจิตใจที่เข้าใจง่ายและนำไปปรับใช้ได้จริง โดยจะแตกต่างจากบาดแผลทางกายที่เราสามารถมองเห็นได้และรู้วิธีการรักษามัน เช่น หากเกิดบาดแผลที่เข่า ก็ควรจะรีบทำความสะอาด ทายา แต่หากเราเกิดบาดแผลทางใจ เช่น การถูกปฏิเสธ คนเราแทบจะไม่รู้วิธีการรักษาการบาดเจ็บทางใจเหล่านี้เลย ในหนังสือเล่มนี้จะแนะนำให้รู้จักบาดแผลทางจิตใจที่แตกต่างกันทั้งหมด 7 แบบ 1.การถูกปฏิเสธ 2.ความเหงา 3.การสูญเสียและเหตุการณ์สะเทือนใจ 4.ความรู้สึกผิด 5.การครุ่นคิด 6.ความล้มเหลว 7.ความเคารพตัวเองต่ำ โดยจะอธิบายถึงสาเหตุการเกิด ความรุนแรงและวิธีเยียวยาเบื้องต้นก่อนที่มันจะส่งผลร้ายแรงต่อสภาพจิตใจของเราในระยะยาว
เล่มที่สาม
หนังสือเล่มหนา กาลเวลา และผู้คน ของ Mitsuyo Kakuta
เป็นนิยายที่เล่าเรื่องระหว่างผู้คน ที่ในหลายๆ ครั้งก็จะมีเหตุที่ให้ต้องหยิบหนังสือขึ้นมาเป็นเพื่อนในชีวิตเสมอ หัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือ เค้าจะบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่เชื่อมต่อกันและกันผ่าน “หนังสือ” ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เช่น คู่รักที่ตกหลุมรักกันผ่านหนังสือ, นักท่องเที่ยวที่มักจะอ่านหนังสือของผู้เข้าพักคนก่อนๆ แสดงให้เห็นว่าทุกคนล้วนเชื่อมต่อเข้าหากันคล้ายกับเพื่อนที่คุ้นเคย ในเล่มจะมีทั้งหมด 10 เรื่องราวที่บอกได้เลยว่าหากได้ลองอ่านแล้ว จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับควาสัมพันธ์ของตัวละครในเล่มอย่างแน่นอน
สรุป
จบไปแล้วกับ 3 หนังสือน่าอ่านในปี 2023 มีทั้งแนวจริงจัง จิตวิทยารวมไปถึงแนวนิยายที่อิ่มเอมหัวใจ เป็นยังไงกันบ้างมีเล่มไหนที่เล็งๆ ไว้รึเปล่า หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะชอบกันนะครับ ส่วนตัวชอบทุกเล่มเลยโดยเฉพาะ Emotional First Aid ที่อ่านซ้ำ 2 รอบแล้ว สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านหนังสือที่เราแนะนำและก็แฮปปี้กับปีกระต่ายทอง 2023 นะครับ !!
ติดต่อเราพวกเรา FORETODAY
Website: https://foretoday.asia/contact/
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A Better Tomorrow Starts Today”