ทำไม BTS ถึงดัง

ทำไม BTS ดัง? “BTS Marketing กลยุทธ์ครองตลาดโลก” เจาะลึก 4 เสาหลักความสำเร็จของหนุ่มๆ BTS

เจาะลึก 4 เสาหลักความสำเร็จของหนุ่มๆ BTS จากหนังสือ “BTS Marketing กลยุทธ์ครองตลาดโลก” จะใช่เสาหลักเหมือนใน ดาบพิฆาตอสูรรึป่าว อ่านกันเลย!

4 เสาหลักที่ทำให้หนุ่มๆบีทีเอสมีอะไรบ้าง ฟอร์ทูเดย์สรุปมาให้แล้ว

  • Timing : การเลือกช่วงเวลาในการพรีเซนต์ตัวเองจะทำให้เราถูกมองเห็นและโดนยอมรับได้มากยิ่งขึ้น
  • Targeting : การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เหมือนใคร และค่อย ๆ สร้างการรับรู้แบบทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยจนเกิดเป็นความชอบแบบไม่รู้ตัว!
  • Whole Product : สินค้าที่ดี ไม่ใช่สินค้าที่ Perfect แต่เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ และตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้เป็นอย่างดีต่างหาก!
  • Viral : การดึงดูดความสนใจจากลูกค้าถือเป็นการครองใจ และครอบครองเวลาของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

บังทันโซยอนดันวงไอดอลบอยแบรนด์จากเกาหลีใต้ที่มีสมาชิก 7 คน และเป็นวงแรกที่มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์ถึง 10 ล้านคน

“ในสังคมสมัยนี้ถ้าเราอยากทำตามความฝันก็ต้องอดทนรับความยากลำบากให้ได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ทำเงินก็ตาม และด้วยความคิดที่ว่า คุณจะประสบความสำเร็จจากการทำสิ่งที่รักนั่น ก็ไม่ใช่ความจริงเสมอไป” ข้อความจากหนังสือ BTS Marketing กลยุทธ์ครองตลาดโลก ที่ทำให้ตัวผู้เขียนได้เกิดความสงสัยว่า ถ้าแค่รักในสิ่งที่ทำ แค่นี้ยังไม่เพียงพอต่อการประสบความสำเร็จอีกหรอ? วันนี้เราจะมาพูดถึง 4 เสาหลักความสำเร็จ ที่นอกจากความรักแล้ว 4 เสาหลักที่ว่านั้นจะเป็นอะไรบ้างที่ทำให้หนุ่มๆ บีทีเอสของเราประสบความสำเร็จถล่มทลายไปทั่วโลกได้ถึงเพียงนี้

Timing : เลือกช่วงเวลาในการพรีเซนต์ตัวเองจะทำให้เราถูกมองเห็นและโดนยอมรับได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่นหนุ่มๆ BTS

ในทางธุรกิจการมีเป้าหมายทางการตลาดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีอัปเดตกันอยู่ชนิดที่เรียกว่านาทีต่อนาที  ในสถานการณ์อย่างนี้สิ่งที่ง่ายที่สุด คือการปรับตัวเราเข้าหากลุ่มตลาดที่เราได้ทำการศึกษามาแล้วว่าสินค้าเราเหมาะกับตลาดนั้น  เพราะเป็นเรื่องยากมากที่เราจะเปลี่ยนแปลงกระแสตลาดในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงฉับพลันอยู่บ่อยครั้งแบบนี้ ซึ่งระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านจากช่วงการเริ่มธุรกิจไปเป็นช่วงที่ธุรกิจกำลังเติบโต เราจะรู้สึกเหมือนธุรกิจของเราติดอยู่ในหุบเหว นั่นเพราะลูกค้าต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสินค้าและบริการของเรา ฉะนั้นเพื่อให้เราก้าวผ่านหุบเหวนั้นไปได้ เราควรพยายามสร้าง Branding เพื่อรอจังหวะให้ตลาดร้อนมากพอก่อนที่เราจะเริ่มรุกเข้าหากลุ่มลูกค้ากลุ่มแรกเพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับลูกค้าได้สำเร็จ

Targeting : การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เหมือนใคร และค่อยๆสร้างการรับรู้แบบทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยจนเกิดเป็นความชอบแบบไม่รู้ตัว!

เมื่อเปรียบเทียบความต้องการซื้อและเทคโนโลยีในอดีต เราจะเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างอดีตและปัจจุบัน เพราะในอดีตเราอาจจะไม่จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าให้ชัดเจน แต่ในปัจจุบันการที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และข้อมูลได้ง่ายขึ้น การที่เราทำการตลาดแบบคลำทาง และไม่กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตช้ากว่าคู่แข่งและตกกระป๋องไปในที่สุด เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ “ธุรกิจที่เสิร์ฟสินค้าและบริการที่เหมาะสมที่สุดให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีเท่านั้นถึงจะอยู่รอด” 

ฉะนั้นการกำหนดกลุ่มเป้าควรอิงตามสังคมโดยมีเหตุผลเชิงมานุษยวิทยาที่ว่า โดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์เป็นสัตว์สังคม และมักจะตัดสินใจตามสังคม เราจึงจำเป็นจะต้องพัฒนาสินค้าให้สังคมยอมรับ โดย BTS มีวิธียึดครองตลาดจากล่างขึ้นบน คือการที่คอยสร้างให้คนค่อย ๆ ทำความรู้จักไปเรื่อย ซึ่งคนที่เข้ามาเห็นตอนแรกจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ขอแค่ได้เข้ามาทำความรู้จักไปเรื่อยก็จะกลายเป็นความชอบไปโดยปริยาย

Whole Product :สินค้าที่ดี ไม่ใช่สินค้าที่ Perfect แต่เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ และตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้เป็นอย่างดีต่างหาก!

BTS ไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะความสมบูรณ์ฉันใด ไอดอลวงอื่น ๆ ก็ไม่ได้ล้มเหลว เพราะความไม่สมบูรณ์ ฉันนั้น ฉะนั้นแสดงว่าสินค้าที่สมบูรณ์นั่นก็คือ สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งหมดตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่ง BTS ก็เป็นเช่นนั้น เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเติบโตและก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งหุบเหวได้ ผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นจะต้องดีที่สุดแต่จะต้องเป็นสินค้าที่ไม่มีข้อจำกัดกับลูกค้า หรือการเอาความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้งนั่นเอง

ซึ่งแนวเพลงเคป็อบในอดีตเป็นเพลงที่ไม่ซ้ำแบบใคร แต่ BTS กลับทดลองเพลงที่เข้ากับกระแสในอเมริกาบวกกับพื้นฐานของเพลงเคป็อบที่ที่คุ้นเคยจึงทำให้เพลงของ BTS ตอบโจทย์กับฐานแฟนคลับอเมริกามากเลยทีเดียว 

ซึ่งคำแนะนำจากหนังสือคือ เมื่อเราถึงช่วงที่ธุรกิจของเรากำลังเติบโตและมีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าสินค้าในอนาคตของเราอาจจะไม่ต้องแตกต่างมาก แต่ต้องเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น

Viral :การดึงดูดความสนใจจากลูกค้าถือเป็นการครองใจและครอบครองเวลาของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

BTS ทำหน้าที่นั้นด้วยการโพสต์เนื้อหาฟรีมากมายบนโลกออนไลน์ที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและสื่อสารกับแฟน ๆ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีคอนเทนต์มากมาย แฟน ๆ ก็รู้จักสนิท และเข้าถึง BTS ได้ดียิ่งขึ้น นี่เป็น กรณีตัวอย่างที่เมื่อเปรียบเทียบ BTS เป็นสินค้าแล้ว การที่ทำให้สินค้าของเราเข้าถึงได้ง่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ จะทำให้ลูกค้าเข้าถึง และรู้สึกผูกพันกับสินค้าได้ง่ายขึ้น  และด้วยการที่ BTS มุ่งเป้าไปยังฐานลูกค้าที่เขาได้สร้างไว้ตั้งแต่แรกแล้ว BTS จึงได้ข้ามหุบเหวของธุรกิจ ขยายฐาน และขยายตัวไปสู่ประชาชนทั่วไปได้สำเร็จ 

ซึ่งมุมมองระยะยาว  BTS ได้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และทางสังคมด้วยปรัชญา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า เมมเบอร์ในวงบางคนได้ออกมาแนะนำหนังสือ หรือแม้แต่เนื้อเพลงของ BTS ที่สร้างแรงบันดาลใจคอยเป็นเพื่อนให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดวัฒนธรรมร่วมที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกให้เกิดการสื่อสารออกมา ทำให้ BTS เหมือนเป็นจุดรวมใจของผู้ที่รู้สึก วิตกกังวล ถูกกีดกัน ถูกต่อต้าน และถูกดูถูก เป็นต้น โดย BTS มีผลงานเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมากมายที่เป็นเพลงฮิตอย่างเพลง Answer : Love Myself, Magic Shop, Never Mind, Outro wings (ไปตามฟังกันได้นะคะ) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หนุ่มๆ ถูกพูดถึงและเป็นกระแส Viral ในสังคม และมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของหลาย ๆ คนเช่นกัน และหลังจากนี้เคป็อบหลายวงคงได้เข้าสู่กระแสตลาดโลกเช่นเดียวกันกับหนุ่มๆบีทีเอสอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้ว โลกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนที่ทำให้คนประสบความสำเร็จได้ คือการขวนขวายหาความรู้ให้เท่าทันโลกอยู่ตลอด และต้องมีความมั่นคง และซื่อสัตย์ต่อความฝันตัวเอง ไม่ว่าเราจะทำอะไร ชีวิตมักจะส่งอุปสรรคหรือที่ในหนังสือเรียกว่า หุบเหว นั่นแหละ เพื่อเข้ามาทดสอบว่าเราคู่ควรกับสิ่งที่จะได้มารึยัง ซึ่งหากเรามุ่งหน้าทำตามความฝันและรู้จักสิ่งที่ทำมากพอ ช่วงเวลาของหุบเหวนั่นก็จะผ่านไปได้แน่นอน และเมื่อเราสามารถผ่านหุบเหวนั่นไปได้แล้วใช่ว่าเราจะไม่เจอมันอีก เราก็คงอาจจะยังเจอมันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉะนั้นการเรียนรู้ การปรับตัว การเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำจะเป็นเกราะป้องกันชั้นดีที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้ และเป็นทางเชื่อมที่ทำให้เราผ่านหุบเหวนั้น เพื่อไปสู่ภูเขาลูกต่อไปได้อย่างสวัสดิภาพอย่างแน่นอน ฉะนั้นอย่างกรณีตัวอย่างของวง BTS เป็นตัวอย่างชั้นดีของ ”ศิลปินสร้างค่าย” ที่เริ่มจากวงไอดอลค่ายเล็ก ๆ สู่ค่ายใหญ่ภายในเวลา 10 ปี และในหนังสือยังมีเนื้อหาที่ลงรายละเอียดมากกว่านี้อีกนะคะ นี่เป็นแค่บางหัวข้อที่ผู้เขียนยกมาสรุปให้ทุกคนได้อ่าน ถ้าใครสนใจสามารถตามไปอ่านต่อได้ที่หนังสือ “BTS Marketing กลยุทธ์ครองตลาดโลก” ได้เลยค่ะ หวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ไป ไม่มากก็น้อยค่ะ แต่อย่างน้อยทุกคนก็ได้รู้จัก BTS มากขึ้นนะคะ

“A better tomorrow starts today”
Line@ : bit.ly/ForeToday 
FB Chat : http://m.me/foretoday

Story by
Pensiri C. – Writer