พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ที่กำลังสงสัยหรือมีคำถามเกี่ยวกับการตั้งเพจ Facebook ต้องมาทางนี้ วันนี้จะมาตอบคำถาม คลายข้อสงสัยของใครหลายคน “อยากสร้างเพจ Facebook ต้องเตรียมอะไร ทำยังไงถึงจะดี”
ก่อนอื่นเลย Facebook Page ต่างกับ Facebook Profile ยังไงนะ?
Facebook Profile วัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ ตัวบุคคลที่ต้อง add friend ถึงจะเห็นความเคลื่อนไหว เพิ่มเพื่อนได้สูงสุด 5000 คน ส่วน Facebook Page มีไว้ใช้ในเชิงธุรกิจ องค์กร บุคคลสาธารณะ สามารถเพิ่มfollowerได้ไม่จำกัด และยังมีเครื่องมือในการเก็บสถิติต่างๆอีกด้วย
สิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมในการเปิด Facebook Page
1. ตั้งชื่อเพจ
การตั้งชื่อเพจถือเป็นด่านแรกที่ทำให้ลูกค้าค้นหาร้านเรา ดังนั้นเราจึงต้องตั้งชื่อให้การค้นหาง่ายและตรงกับความของลูกค้ามากที่สุด ยิ่งถ้าลูกค้าเสิร์ช Search แล้วเจอเราง่ายเท่าไร ยิ่งทำให้เรามีลูกค้าเข้าร้านเยอะเท่านั้น เทคนิคง่ายในการตั้งชื่อเพจ คือ
- ชื่อร้านต้องอ่านง่าย
- ลูกค้าต้องรู้ว่าขายอะไร
- ใส่สินค้าที่คุณขายเข้าไปด้วย โดยนำคำKeyword ที่คิดว่าลูกค้าจะใช้ค้นหาสินค้าของคุณนะคะ เช่น เพิ่มคำว่า “รองเท้าเพื่อสุขภาพ” ต่อจากชื่อแบรนด์
นอกจากนี้ ควรเลือกประเภทหรือหมวดหมู่เพจ และใส่ short description ให้สมบูรณ์ด้วย
2. ข้อมูลสำหรับติดต่อ
- เบอร์โทรศัพท์
- Website URL
- ตำแหน่งที่ตั้ง และ ที่อยู่
- เวลาทำการ
การระบุข้อมูลใน ABOUT (เกี่ยวกับ) หรือข้อมูลติดต่อ
ควรใส่รายละเอียดที่ตรงกับคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าจะพิมพ์ค้นหาให้มากที่สุด ซึ่งจะสามารถใส่ได้เพียง 150 ตัวอักษรเท่านั้น ตรงส่วนนี้ก็ให้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า นอกจากนั้นการอธิบายเกี่ยวกับสินค้าที่คุณขาย โดยพยายามใช้คำที่คิดว่าลูกค้าน่าจะใช้ค้นหาสินค้า เช่น “ผลิตภัณฑ์” หรือ “เสื้อผ้าเกาหลี” ถ้าอยากให้ลูกค้าค้นหาเราเจอง่ายยิ่งขึ้น
3. ภาพ Profile และ ภาพ Cover
หลังจากเข้ามาในเพจสิ่งเเรกที่ลูกค้าเข้ามาเเล้วจะเห็นในเพจของเราก็คือ ตัวภาพ Cover และ ภาพ Profile ของเรานั้นเอง เพราะฉะนั้นทั้ง 2 ภาพนี้ควรจะโดดเด่นและถูกจดจําได้ง่าย โดยเฉพาะภาพ Cover ที่จะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดบนหน้าบนหน้าแฟนเพจของแบรนด์
ขนาดภาพที่เหมาะกับภาพทั้ง 2 ภาพนี้คือ
- Profile picture size 180×180 pixels (display 160×160 pixels)
- Cover picture size 820×312 px
ดังนั้นภาพ Cover นั้นควรจะมีดีไซน์ที่ดี ตัวภาพควรจะมีภาพที่แสดงตัวตนหรือสินค้าของแบรนเพื่อกระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อสินค้า และยังสามารถใส่ข้อความสั้นๆ ที่จะบอกว่าแบรนคุณเป็นอย่างไร หรือ อัพเดทโปรโมชั่นปัจจุบัน
4. ปุ่ม Call to Action ช่วยบอกลูกค้าถึงธุรกิจคุณ
ปุ่ม Call to Action (CTA) นั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบมาก และมันก็เป็นอีก 1 เครื่องมือของ Facebook ที่จะช่วยให้ลูกค้า รับรู้ถึงสิ่งที่เราอยากนําพาเค้าไป
ปุ่ม Call to Action นั้นสามารถกําหนดได้หลายรูปและรูปแบบที่เราเเนะนําจะมีดังนี้
- Follow – กดติดตามเพื่อให้ข้อมูลเพจคุณขึ้นไปหน้า New Feed ของลูกค้า
- Start order – ช่วยให้ลูกค้าสั่งอาหารกับคุณเช่นเข้าไปที่หน้า Grab ของคุณ
- Book now – ช่วยให้ผู้คนจองการเดินทางหรือทำรายการนัดหมายเวลาเข้าใช้บริการ
- Call now – เพื่อให้คนโทรติดต่อคุณผ่าน คลิกเดียว
- Contact us – พาให้คนเข้าเว็บไซต์ของคุณ
- Send Message – ให้ผู้คนส่งข้อความสอบถามรายละเอียดสินค้าหรือบริการ
- Learn more – คล้ายกับ contact us เพื่อพาคนเข้าเว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
- Sign up – เพื่อให้คนลงทะเบียนฟอร์มต่างๆ หรือ subscribe ข่าวสารใหม่ๆจากคุณ
- Shop now – พาลูกค้าเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์เพื่อมาดูและซื้อสินค้าบนเว็บไซต์
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลพื้นฐาน ที่ต้องใส่สำหรับการเริ่มต้นสร้างเพจ นอกจากนั้น ยังมีoptionalอีกหลายอย่าง ที่สามารถใส่เพื่อให้เพจมีความน่าสนใจและยังเป็นการ add value ให้กับเพจได้อีก เช่น ข้อความทักทาย หรือ Greeting message การลิงก์บัญชี instagram กับเพจ หรือการใส่ภาพรวมของธุรกิจ รวมไปถึงรางวัลต่างๆที่อาจใส่ไปเพิ่มเติม ก็จะเป็นการเพิ่ม value ให้กับเพจได้นะคะ
สำหรับท่านที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทความหรือการเปิด Facebook Page สามาถติดต่อ Foretoday ผ่านช่องทาง
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “
#Foretoday #digitalagency #marketing #Ecommerce
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today