Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

Easy E-Receipt บน Marketplace: วิธีใช้ช้อปดีมีคืน 2568 ให้คุ้ม

“ช้อปดีมีคืน 2568” หรือ Easy E-Receipt เป็นโครงการใหม่ที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์จากการช้อปปิ้งผ่านร้านค้าที่ออก ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนที่นิยมซื้อของผ่าน Marketplace อย่าง Shopee และ Lazada อาจสงสัยว่าจะใช้สิทธิ์นี้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

Easy E-Receipt คืออะไร?

Easy E-Receipt เป็นมาตรการที่ช่วยให้ผู้ซื้อสินค้าและบริการสามารถนำ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท ในปีภาษี 2568 โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ร้านค้าที่ซื้อสินค้าต้องสามารถออก e-Tax Invoice ได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินทั่วไปมาขอลดหย่อนได้

มาตรการนี้ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการวางแผนการซื้อสินค้าพร้อมประหยัดภาษี แต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านค้าที่เลือกซื้อสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ระยะเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์ได้

โครงการ Easy E-Receipt เปิดให้ใช้สิทธิ์ในช่วง 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้น ผู้ที่สนใจควรวางแผนการซื้อสินค้าให้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อไม่พลาดสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากซื้อสินค้านอกช่วงเวลาที่กำหนด จะไม่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีในโครงการนี้ได้

ประเภทสินค้าที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้

กรมสรรพากรได้กำหนดรายการสินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไว้ดังนี้:

  • สินค้าประเภทสุรา เบียร์ ไวน์ และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด
  • น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
  • ค่าบริการด้านการสื่อสาร ทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
  • กรมธรรม์และค่าเบี้ยประกันวินาศภัยทุกประเภท
  • บริการท่องเที่ยวและที่พัก รวมถึงแพ็คเกจทัวร์ต่างๆ

วิธีการคำนวณภาษีที่จะได้รับคืน

การคำนวณภาษีที่จะได้รับคืนจาก Easy E-Receipt ขึ้นอยู่กับ ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยคำนวณตามอัตราภาษีแบบขั้นบันได ดังนี้:

  • รายได้ 150,001 – 300,000 บาท ได้รับคืน 5% ของยอดซื้อ
  • รายได้ 300,001 – 500,000 บาท ได้รับคืน 10% ของยอดซื้อ
  • รายได้ 500,001 – 750,000 บาท ได้รับคืน 15% ของยอดซื้อ

ตัวอย่างการคำนวณ: หากท่านมีรายได้อยู่ในช่วง 300,001 – 500,000 บาท และซื้อสินค้ามูลค่า 30,000 บาท จะได้รับเงินภาษีคืน 3,000 บาท (คำนวณจาก 30,000 × 10%)

วิธีเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt สำหรับร้านค้าใน Shopee

เงื่อนไขที่ร้านค้าต้องมี

  • ต้องเป็นร้านค้าที่ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมี เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก
  • สามารถออก ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้
  • ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับ Shopee เพื่อเปิดใช้ระบบ Easy E-Receipt

ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วม Shopee Easy E-Receipt

  1. ลงทะเบียนกับกรมสรรพากร เพื่อใช้ระบบ e-Tax Invoice (สมัครที่นี่)
  2. ใช้ซอฟต์แวร์ที่รองรับ เช่น Leceipt เพื่อช่วยออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
  3. แจ้งเข้าร่วมโครงการผ่าน Shopee โดยแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ภ.พ. 20 และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  4. เปิดใช้งานระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน Shopee Seller Centre

วิธีเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt สำหรับร้านค้าใน Lazada

เงื่อนไขที่ร้านค้าต้องมี

  • ต้องเป็นร้านค้าที่ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมี เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก
  • สามารถออก ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้
  • เปิดใช้งานฟีเจอร์ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใน Lazada Seller Center

ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วม Lazada Easy E-Receipt

  1. ลงทะเบียนเป็นร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีได้ โดยแจ้งให้ Lazada ทราบผ่าน Seller Center
  2. เปิดใช้งานระบบออกใบกำกับภาษี โดยเข้าไปที่ “คำสั่งซื้อ” → “การออกใบกำกับภาษี”
  3. ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านซอฟต์แวร์ที่รองรับ และอัปโหลดไปยังระบบของ Lazada
  4. ให้ลูกค้าดาวน์โหลดใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ Lazada

วิธีการค้นหาร้านที่เข้า Easy E-Receipt 

 วิธีการดูร้านสัญลักษณ์ร้านค้าที่เข้าร่วมใน Shopee 

เครดิต รูปจาก Shopee

Table of Contents

1.จะมีคำว่า Easy E-receipt สีแดงอยู่ที่ด้านล่างสินค้า

2. ใช้วิธีตัวกรอง

2.1) พิมพ์ชื่อสินค้าที่ต้องการที่ช่องค้นหาที่ช่อง

2.2) คลิก “ตัวกรอง”

2.3) ใต้หัวข้อบริการและโปรโมชั่น เลือก “Easy E-Receipt”

2.4) คลิก “ตกลง”

เครดิต รูปจาก Shopee

 วิธีการดูร้านสัญลักษณ์ร้านค้าที่เข้าร่วมใน Lazada

1.จะมีคำว่า Easy E-receipt สีแดงอยู่ที่ด้านล่างสินค้า

เครดิต รูปจาก Lazada

2. .ใช้วิธีตัวกรองจากหน้าแรกของแอพพลิเคชัน

เครดิต รูปจาก Lazada

วิธีขอใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) สำหรับ Easy E-Receipt 2.0

วิธีขอใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) Shopee

1. คลิก “ขอใบกำกับภาษี” ที่หน้าทำการสั่งซื้อ

2. กรอกข้อมูลที่ต้องการออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขได้หลังจากยืนยันการชำระเงินสำเร็จ

3. คลิก “ส่งคำขอ”

4. คลิก “สั่งสินค้า” เพื่อทำการยืนยันการชำระเงิน

เครดิต รูปจาก Shopee

  หลังจากนั้นสามารถทักแชทไปที่ร้านค้าได้เลย โดยร้านค้าจะขอข้อมูลดังนี้ 

  1. ชื่อบริษัท/องค์หรหรือชื่อบุคคล
  2. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  3. ที่อยู่ตามที่จดทะเบียนภาษี
  4. เบอร์โทรศัพท์
  5. อีเมลที่ใช้รับ E-Tax Invoice

วิธีขอใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) Lazada

  1. ขั้นตอนการสั่งซื้อสามารถคลิกที่ “ใบกำกับภาษีและข้อมูลติดต่อ”

เครดิต รูปจาก Lazada

  1. กรอกข้อมูลส่วนตัวและกดยืนยันได้เลย

เครดิต รูปจาก Lazada

 หลังจากนั้นสามารถทักแชทไปที่ร้านค้าได้เลย โดยร้านค้าจะขอข้อมูลดังนี้ 

3.ชื่อบริษัท/องค์หรหรือชื่อบุคคล

4. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี

5. ที่อยู่ตามที่จดทะเบียนภาษี

6. เบอร์โทรศัพท์

7. อีเมลที่ใช้รับ E-Tax Invoice

ช่วงนี้หลาย ๆ ร้านค้าไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ก็เข้าร่วม Easy E-Receipt กันเพราะว่าการเข้าร่วมก็ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งสำหรับการเลือกซื้อสินค้าสำหรับลูกค้าแล้ว ดังนั้นถ้าหากว่าร้านค้าไหนที่มองว่าวิธีทำการตลาดในช่วงนี้ก็สามรถกดลงทะเบียนตามวิธีด้านบนได้เลย และสำหรับตัวลูกค้าเองที่เป็นผู้ซื้อก็สามารถสังเกตจากเครื่องหมายที่ทางทีมแนบไว้ให้หรือหากไม่แน่ใจก็สามารถทักแชทไปหาร้านค้าแต่ละแพลตฟอร์มได้เลย

สนใจปรึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์กับทีมผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อทีมงาน ForeToday ได้ตาม contact ทางด้านล่างได้เลย!

Line@ : bit.ly/ForeToday 

FB Chat : http://m.me/foretoday 

“A better tomorrow starts today”