ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่เริ่มทําการตลาดออนไลน์ใน Facebook ก็มักจะมีคําถามมากมายกับปุ่มหลายๆ ปุ่มบน Facebook Ads ซึ่งในหนึ่งใน Function ที่ง่ายและมีประโยชน์มาก ซึ่งหลายๆคนยังไม่รู้ก็คือการตั้ง Bid Strategy เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาทําความรู้จัก Facebook Bid strategy เเต่ละประเภทว่ามันทํางานยังไง และเราจะให้วิธีใช้ที่เราใช้กันจริงๆและทริคเล็กๆน้อยในการใช้งาน

Facebook Bidding Strategies คืออะไร
หลักๆเลยมันคือตัวช่วยที่มากําหนดวิธีการและจํานวนเงินที่ Facebook จะนําโฆษณาของคุณขึ้นไปประมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนอื่นเรามาทําความรู้จัก Bid strategy แบบต่างๆและวิธีการใช้งานกันครับ

  1. Lowest Cost

กลยุทธ์การ bid เพื่อให้ต้นทุนของคุณต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในงบประมาณที่กำหนดไว้

Lowest cost เหมาะสำหรับการเริ่มรันโฆษณาผ่าน facebook หรือการรันโฆษณาที่ไม่ได้กำหนดเป้าหมาย (KPI) และไม่ได้เข้มงวดกับค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

นอกจากนี้ Lowest cap ทำให้คุณรู้ถึงค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อสังเกตุการณ์ในการคอยปรับ bid ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไปอีกด้วย เมื่อได้ค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์แล้ว ลองปรับลด bid ด้วยการ bid แบบอื่นๆ ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดออนไลน์ใช้เช่นกัน 

  1. Cost Cap 

กลยุทธ์การ bid แบบควบคุมต้นทุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามคุณที่ต้องการ

การใช้ Cost cap เป็นการควบคุมต้นทุนของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ หรือ Cost per action (CPA) ตามที่คุณกำหนดเอาไว้ โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยการตลาดอื่นๆ  การทำงานของ Cost cap จะใช้เงินของคุณค่อนข้างน้อย และมีระยะการเรียนรู้ของระบบนาน (มากกว่า 1 อาทิตย์ขึ้นไป) เมื่อเทียบกับการ Bid  แบบอื่นๆ 

ระวังอย่างหนึ่งคือ ในช่วงระยะเวลาเรียนรู้ของระบบ ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (CPA) มีแนวโน้มว่าจะเกินกว่าที่คุณกำหนดเอาไว้ และอาจมีความผันผวนของค่าใช้จ่ายหลังหลุดจากระยะเวลาเรียนรู้ 

ช่วงแรกแนะนำให้ตั้ง CPA สูงๆ ไว้ก่อน คอยติดตามผลเป็นระยะๆ เพราะหลังจากระบบสามารถเรียนรู้และหากลุ่มเป้าหมายได้แล้ว ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ก็จะมีประสิทธิภาพแล้วเสถียรขึ้น จากนั้นค่อยปรับลดลงตามเป้าที่กำหนดไว้

  1. Bid Cap

กลยุทธ์การตั้งราคา Bidding เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์เอง

เป็นกลยุทธ์การตั้ง Bid ที่ใช้ได้ยากที่สุด แต่มีข้อดีเลยคือ ค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (CPA) จะคงที่ และสามารถควบคุมตามกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งตามที่เราได้แนะนำคือลองใช้ Lowest Cost เพื่อให้รู้ค่าใช้จ่ายก่อน แล้วค่อยปรับมาเป็น Bid Cap 

หรือหากต้องการจะใช้ Bid Cap เลย ก็แนะนําให้ตั้ง CPA เป็นอย่างน้อย  3-5 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ก่อน คอยควบคุมผลลัพธ์ แล้วค่อยปรับลดลงมาเรื่อยๆ 

แต่ก็มีข้อแม้สำหรับกลยุทธ์การ Bid นี้เพราะสามารถใช้ได้กับวัตถุประสงค์เหล่านี้เท่านั้น

การใช้กลยุทธ์การ Bid เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย

สรุป


สิ่งที่สําคัญมากสําหรับ Bid Strategy ก็คือเราจะต้องรู้ว่าเราควรจะใช้อันไหนที่เหมาะกับเเคมเปญของคุณและตัว KPI ที่คุณต้องการคืออะไร คําแนะนําสุดท้ายของผมก็คือเราจะต้องคอยมาทดลองและตามประสิทธิภาพของเเคมเปญนั้นเพื่อที่เราจะสามารถปรัปตามไปได้

หวังว่าผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้และนําไปปรัปใช้จริงในโฆษณาของคุณให้ประสิทธิภาพดีขึ้น

สําหรับผู้อ่านท่านใดสนใจจะได้ความรู้ใหม่ๆเช่นนี้ก็สามารถติดตามเราที่ช่องทางต่างๆ ตามนี้ได้เลย หรือถ้าสงสัยหรือสนใจที่จะทําโฆษณากับเราก็สามารถทักมาสอบถามทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตามช่องทางด้านล้างนี้เลย

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

#Ad #Facebook #Bid Strategy