กลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience เป็นตัวแปรสำคัญลำดับต้นๆ ในการทำธุรกิจและนักการตลาดไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ ว่าจะต้องใช้ช่องทางไหนกับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยแต่ละเจนเนอเรชั่นนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งความสนใจ และไลฟ์สไตล์ รวมถึงพฤติกรรมการใช้สื่อ ดังนั้น เราไปทำความเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละเจนเนอเรชั่นกันเถอะ!
Baby boomer ( 2489 – 2507) หรือกลุ่มวัย 57-75 ปี คนในเจนนี้ส่วนมากเป็นคนรุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย หรือคนวัยเกษียณ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องราคาเป็นที่ตั้งเพราะไม่ได้มีรายได้แล้ว แต่มีเงินจากการเกษียณ และมีเงินจากลูกหลาน จึงจะเลือกซื้อสินค้าที่ถูกและเหมาะสมกับคุณภาพเท่านั้น
ในด้านของ Lifestyle จะเน้นสุขภาพเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับการอยู่บ้านกับลูกหลาน หรือ ใช้เวลากับครอบครัว และยังชื่นชอบการแชร์ข้อมูลผ่าน Line โดยจะใช้มือถือเป็นหลัก จะไม่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยจะชอบเปิดรับสื่อแบบ VDO เน้นตัวอักษรใหญ่ๆ และไม่มีศัพท์สแลงในการสื่อสาร
โดยสินค้าหรือบริการที่ค้นแบรนด์นี้สนใจจะเป็นในกลุ่มของการดูแลสุขภาพ เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ บริการท่องเที่ยว หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ
Generation X (1965 – 1980) กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 41 – 56 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคที่มีการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจสูง ในช่วงวัยนี้จะเป็นกำลังหลักของครอบครัว ทำให้มีความกังวล เพราะ เป็น Gen ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพ่อแม่ และ ลูกหลานช โดยพฤติกรรมการเปิดรับสื่อจะนิยมใช้ใช้ Facebook และ Youtube เป็นหลักเพราะชอบค้นหาข้อมูลจากช่อง YouTube หรือค้นหาในอินเตอร์เน็ต และ ตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาจาก Facebook โดยจะชอบสะสมของสมนาคุณ การ์ดสะสมคะแนน หรือการเป็นสมาชิกพรีเมียมของแบรนด์ เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์ที่ใช้มายาวนาน (Brand Loyalty) และมักจะเขียนชอบรีวิวสินค้า
โดยคนเจนนี้จะชอบอ่านรีวิว ดังนั้นนักการตลาดควรต้องให้ข้อมูลเยอะที่สุด เพื่อประกอบการตัดสินใจ และยังยึดถือแบรนด์โปรดเป็นตัวตัดสินใจ ดังนั้นสำหรับการทำตลาดกับกลุ่ม Gen X การสร้าง Brand Royalty นั้นมีความสำคะญอย่างมาก
Generation Y (1981 – 1996) กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 25 – 40 ปี สามารถเรียกได้ว่า Millennials หรือ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในยุคของการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และเติบโตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต Gen Y จึงเป็น Gen ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ Gen อื่น ๆ โดยจะนิยมใช้สื่อคมออนไลน์เป็นหลัก คือ LINE, Facebook, Youtube
โดยคนเจนนี้จะชอบความรวดเร็วทั้งในด้านของการบริการหรือการใช้ชีวิต และเป็นเจนที่ได้สะสมความเครียด โดยจะสนใจในคาเฟ่ และ ชานม การออกไปท่องเที่ยวพักผ่อน อาหารคลีน หรือสินค้าสไตล์มินิมอล
Generation Z (1997- 2012) กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 9 – 24 ปี เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีเจริญแล้ว โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นดิจิทัล คนเจนนี้จึงถนัดการดำเนินชีวิตในรูปแบบดิจิทัล
Gen Z จะยังไม่ได้มีกำลังซื้อมากนักแต่ก็ถือว่ามีอำนาจในการตัดสินใจซื้อสินค้าภายในบ้าน เพราะเติบโตมาพร้อมกับโซเชียลมีเดีย โดยจะเปิดรับสื่อที่ YouTube , Blogger , Vlogger , E-sport ผลิตมาให้ในทุกๆวัน โดยจะใช้เวลาในการใช้งานอินเทอร์เป็นอันดับ 2 รองจากเจน Y และสามารถเข้าถึงสื่อได้ทุกแพลตฟอร์ม และคนGen Zชอบเสพประสบการณ์ตรง การสื่อสารกับคนเจนนี้ ต้องใช้ Influencer เพื่อนำเสนอสินค้าแทนการนำเสนอแบบตรงๆ เพราะGen Z จะชอบความความเรียลและน่าเชื่อถือ
Generation Alpha (2010 – 2024) กลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 11 ปีลง เติบโตมาบนโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีรอบตัว เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
คนเจนนี้เติบโตมาพร้อมกับ Tablet และ ระบบ AI มีการเรียนรู้จาก YouTube เป็นโอกาสของธุรกิจต่าง ๆ ที่มีช่อง Youtube และทำเนื้อหาสำหรับเด็ก หรือสินค้าหรือบริการที่เป็นออร์แกนิค ก็จะตอบโจทย์กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครอง (Gen X, Gen Y) ที่สนใจใรการดูแลสุขภาพของลูกน้อย
โดยแต่ละ Gen จะมีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ทำให้แต่ละ Gen นั้นมีความต้องการและการเปิดรับสื่อแตกต่างกัน โดยแต่ละแบรนด์จะต้องศึกษาและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแต่ละ Gen ให้ดีเพื่อที่จะได้นำข้อมูลในส่วนนี้มาทำการตลาดให้แก่แบรนด์ให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น
“A better tomorrow starts today”
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “