แชร์เทคนิค การวางโครงสร้าง ของ Google Ads ให้ยอดขายเป๊ะปังปั๊วะ

การทำโฆษณาไม่ง่ายนะแม่ แต่ก็ไม่ยากถ้าเราได้อ่านบทความนี้ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการวางโครงสร้างแคมเปญของ Google Ads เมื่อเราวางดีก็จะง่ายต่อการวัดผล ง่ายต่อการปรับปรุงแคมเปญ ง่ายต่อการต่อยอด และมากกว่านั้นจะช่วยให้เงินทุกบาทสร้างผลลัพธ์ได้อย่างเป๊ะปังปั๊วะ แบบไม่มีอะไรมาหยุด แม่สิตางค์มาก็ไม่หยุด

3 มุมที่ต้องรู้ ที่ต้องปรับ สำหรับ การวางโครงสร้าง ของ Google Ads

1. พื้นฐานโครงสร้าง ของ Google Ads

  • ระดับ Google Ads Account เราจะใช้ในการบริหารบัญชีผู้ใช้ การจ่ายเงิน การตั้งค่า Time Zone และ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของบัญชี
  • ระดับ Campaign จะเกี่ยวกับการวางงบประมาณ เน้นเลย เราจะจัดการเรื่องงบประมาณที่ระดับแคมเปญ เช่น วันนี้จะใช้เงินวันละกี่บาท นอกจากนั้นแคมเปญจะใช้เลือก Demographic, Location, Bidding Strategies, Ad schedule, ประเภทของแคมเปญด้วย สรุปง่าย ๆ คือ เบสิคของ Targeting เลือกที่นี่ได้
  • ระดับ Ad Group จะเป็นกล่องที่ใส่ 3 อย่างคือ Keywords, Ads, มูลค่าการประมูล (Max. CPC) ที่นี่คือที่ใส่กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ โฆษณา ทั้งหมดจะอยู่ในนี้ครับ

2. การจัด โครงสร้าง ของ Google Ads อย่างไรถึงจะดี

วลีนี้คนในทีมเราท่องได้หมดเลย

แยกงบ แยกเป้าหมาย แยกที่ Campaign. แยกกลุ่มลูกค้า แยกโฆษณา แยกที่ Ad Group

ตัวอย่างการแยกแคมเปญ เราขาย Electronic นะครับ มีสินค้าสองตัวคือ ทีวี และ กล้อง ซึ่งผมเองแบ่งงบให้ ทีวี 10,000 บาท และ กล้อง 50,000 บาทในการลงโฆษณานะครับ แบบนี้เราจะแบ่งเป็นสองแคมเปญเพราะเราแยกงบครับ

แยกเป้าหมายคือ ผมอาจมีแคมเปญเป็น Search Ads ตัวนึง อีกตัวทำเป็น VDO Ads หรือ แคมเปญนึงวัดผลเรื่องยอดขาย อีกแคมเปญวัดผลเรื่องการโทรออก หรือแม้แต่การทำ AB Test เราก็แยกได้ครับ

ตัวอย่างการแยก Ad group เข้าในว่ากล่องเน้นเรื่องความสัมพันธ์ของ กลุ่มเป้าหมาย และ Ads ถ้าเราจัดการดีจะส่งผลกับเรื่องของ Ad Rank ด้วยซึ่งจะทำให้เรามีค่าใช้จ่ายต่อคลิกที่น้อยลง เช่น ผมขายทีวี ก็จะมีทีวีแบบจอแบน และแบบพลาสม่า ซึ่งก็จะใช้ Keywords และ Ads ที่เป็นเฉพาะของแต่ละแบบมันก็เข้าใจได้ถ้าผมจะแยก Ad Group แต่ชัดเจนกว่านั้นคือ ถ้าหน้า Landing page แตกต่างกันก็ควรแยกแล้วครับ

http://searchengineland.com/figz/wp-content/seloads/2014/09/acct-structure-03.png

3. การทำ AB Test

เมื่อเราทำออนไลน์ เราจะเริ่มทำการเทส เพื่อวัดผลว่าการทำออนไลน์แบบไหนได้ผลดีสุด แต่มันเป็นดาบสองคมนะครับ เพราะถ้าเราจัดการผิดได้ผลผิดเราก็จะเชื่อในสิ่งที่ผิด มารู้อีกทีตอนเราคุยกับเพื่อนแล้วหน้าแตก หรือ เราพลาดอะไรบางอย่างไปแล้ว

การจัด Structure ของ Google Ads สำหรับการทำ AB test นั้นส่วนใหญ่จะใช้ Experimental Campaign มันจะสร้าง Draft Campaign หรือแคมเปญจำลองให้เราจากแคมเปญหลักที่เราจะทำเทสนะครับ โดยระบบจะทำการแบ่งคนที่เห็นโฆษณามาลงทั้งสองแคมเปญ เท่า ๆ กันเพื่อลดการ Bias ของข้อมูลครับ อ่านเพิ่มเติมที่นี่. https://support.google.com/google-ads/answer/6318732?hl=en

แต่ถ้าใครคิดว่า มันยากทำแล้ว งง ขอวิธีชาวบ้าน ก็ให้เราตั้งเป้ากับตัวเองก่อนนะครับว่าจะทดสอบอะไร สมมติว่า เราต้องการทดสอบประเภทของ Bid Strategies ก็ควรแบ่งแคมเปญ หรือ ถ้าต้องการทดสอบโฆษณาก็จะแบ่งที่ Ad Group นะครับ โดยเราต้องคุมปัจจัยอื่น ๆ ให้เหมือนกัน เช่น ทดสอบโฆษณา พวกคีย์เวิร์ดก็ควรจะเหมือนกันครับ เป็นต้น

มาถึงตรงนี้เราก็จะได้ความชัดเจนของโครงสร้าง Google Ads แล้วครับ เราจะต่อยอดเรื่องการปรับปรุงแคมเปญอื่น ๆ มันจะทำได้ง่ายขึ้นและไม่มีการทับซ้อนกันของกลุ่มเป้าหมายครับ และยอดขายจะพุ่งจริงหรือไม่ ไม่ใช่ก็ลองทำดูครับ ทำแค่นี้ละไม่ยากแต่คนส่วนใหญ่จะงงกัน ถ้าถึงตอนนี้แล้วยังคิดว่ายากก็ติดต่อมาได้เลยนะครับ ทางเรายินดีให้คำปรึกษา