แอปพลิเคชั่นเป็นอีกช่องทางที่คุณจะสามารถโปรโมท Ads ให้ลูกค้าของคุณเข้าถึงสินค้าและบริการ ข้อดีของการมีแอปพลิเคชั่นคือ ลูกค้าคุณสามารถเรียกใช้สินค้าและบริการคุณได้ตลอดเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่อง Responsive เหมือนตัวเว็บไซต์เมื่อเรามีแอปพลิเคชั่น สิ่งที่เราต้องทำเพิ่มก็คือทำอย่างไรให้คนเข้าถึงแอปพลิเคชั่นคุณได้ เหมือนคุณมีร้านแต่คุณต้องทำถนนพาคนมายังร้านด้วย ซึ่งจะแบ่งแารทำโฆษณาออกเป็น 3 ช่วง นั่นก็คือPre-Launch, Launch, และ Post-Launch แต่ละช่วงจะมีการทำโฆษณาแตกต่างกันรวมถึงการใช้แพลตฟอร์มในการลงโฆษณาด้วย
ช่วงแรก Pre-Launch หรือช่วงก่อนการปล่อย App
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ App จะยังไม่สามารถดาวน์โหลดได้ แต่ตัว App สามารถทำการ Pre-Register ก่อนได้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่ Application พร้อมจะมีการแจ้งเตือนไปยังคนที่ทำการ Register ไว้เพื่อทำการดาวน์โหลดสิ่งที่ควรทำในช่วงนี้คือ อาจมีการใส่โปรโมชั่นเพื่อทำการเรียกลูกค้า เครื่องมือที่ควรใช้มีดังนี้
- Facebook Ads : Objective Click to website แล้วให้ใช้ Landing page เป็นตัว App
- Google Ads: Universal App Campaign
ช่วงนี้ควรเริ่มมีการเตรียมระบบ Tracking ทั้งหลายให้พร้อมในการเข้าใจ พฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาในแอปพลิเคชั่น มีการเตรียมเป้าหมายต่าง ๆ ใน App หรือที่เรียกกันว่า In-app actionเครื่องมือที่แนะนำเนื่องจากฟรีคือ Firebase แต่ถ้าคุณมีงบประมาณก็แนะนำให้ไปใช้ Appflyer หรือ Adjust ที่จะสามารถให้ข้อมูล Analytics ได้เยอะกว่าและง่ายต่อการเข้าใจเครื่องมือพวกนี้สนับสนุนคุณในการทำโฆษณาด้วยไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียม Tracking
ช่วง Launch หรือช่วงที่คนสามารถดาวน์โหลด App คุณได้
ช่วงนี้สิ่งที่คุณควรต้องอยากได้มากที่สุดคือจำนวนผู้ใช้ใหม่ หรือการเพิ่มยอดการ Install คุณจะดึงดูดด้วยโปโมชั่นต่าง ๆ หรือจะใช้ เพื่อนแนะนำเพื่อนก็ได้ ถ้ามีการแนะนำก็จะได้ส่วนลดให้กับผู้เอาไปบอกต่อ เครื่องมือที่แนะนำคือ
- Facebook Ads: Objective คือ App Install
- Google Ads: Universal App Campaign for Install
- Apple App Search
- Incentivise: เป็นอีกหนึ่งการโฆษณาที่มักใช้ในการหาคนมา Install โดยโฆษณาแสดงใน App อื่น และยื่นข้อเสนอว่าถ้าคุณดาวน์โหลดแอปนี้คุณจะได้เหรียญ ได้ส่วนลด หรือ อื่น ๆซึ่งคุณภาพของคนดาวน์โหลกก็จะไม่สูง และมีโอกาส Uninstall สูงมาก
- Ad Network อื่น ๆ ก็จะเป็นอีกช้อยส์สำหรับคุณในการหา Install ซึ่งมีหลายเจ้ามาก คุณอาจต้องเลือกโดยดูในเรื่องของกลุ่ม Audience ที่คุณจะได้
เมื่อคุณนำคนเหล่านั้นเค้ามาแล้วสิ่งที่คุณควรรู้คือ Metrics ต่างๆ ที่ใช้ในการวัดผล เช่น CPI (ค่าใช้จ่ายต่อการ Install), DAU ( Daily Active Users ), MAU( Monthly Active Users ) เป้นต้น
ช่วง Post-Launch หรือช่วงที่คนสามารถดาวน์โหลด App คุณได้
หลังจากที่คุณได้ลูกค้าที่ Install เข้ามาแล้วก็ถึงเวลาที่คุณต้องรู้ว่าเค้าพร้อมที่จะมาเป็นลูกค้าตัวจริงของคุณหรือไม่ช่วงนี้เป็นช่วงที่สำคัญกับธุรกิจคุณมากถ้าลูกค้าไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณ คุณเองก็จะอยู่ได้อีกไม่นานเนื่องจากไม่มีเงินมาต่อยอด ในช่วงนี้สิ่งที่ต้องมีคือเครื่องมือที่ใช้วัดผลว่า ลูกค้าคุณเค้ามาใช้ App จริงหรือไม่ เครื่องมือที่ใช้คือ
- Analytics Platform: Firebase, Appflyer, or Adjust ที่จะใช้เป็นตัวกำหนดเป้าหมาทางธุรกิจ
- Facebook Ads: Objective คือ Conversion โดยใน Part นี้ต้องมีการใช้ Pixel สำหรับApp ที่เรียกว่า SDK (Software development kit) ใช้ในการกำหนดเป้าหมายของคนที่เข้าไปใน App
- Google Ads: Universal App Campaign for Engagement (In-app action) สำหรับGoogle Ads นั้นทำเช่นเดียวกันกับ Facebook ในการส่ง Pixel ไปติดใน App หลังจากที่ทำการติดแล้วคุณสามารถเลือก Action ได้ว่าให้เครื่องมือหาคนที่จะมา Engage กับ Action เหล่านั้น เช่น หาคนมาซื้อของ กรอกลีด หรือ แม้แต่สั่งอาหาร
- Google Ads: Universal App Campaign for Install and Engagement รูปแบบของการโฆษณานี้คือจะหาคนใหม่ที่จะมา Install และ ทำ In app action พร้อมกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แนะนำให้ทำการทดสอบดูว่าการสร้างแคมเปญแบบไหนได้ผลที่ดีกว่ากัน
- Incentivise: เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มักใช้กันแต่การให้คนมาทำ Action บน App จะแพงและไม่คุ้ม
- App notification: เป็นอีกตัวนึงที่ให้คุณได้สื่อสารกับคนที่เคยดาวน์โหลดไปแล้วโดยจะเป็นการแจ้งข่าวสารให้กับลูกค้าคุณ ส่วนจะใช้เครื่องมือไหน ก็แล้วแต่คุณเลย
- Email Direct Marketing: เป็นการส่งอีเมลเพื่อแจ้งข่าวสารและโปรโมชั่น อย่าดูถูกเครื่องมือเหล่านี้ เพราะการส่งอีเมลคือการทำ Retargeting อย่างนึง
- Referral Program: เป็นการให้ลูกค้าคุณไปบอกเพื่อนว่าแอปคุณดีแค่ไหนมาดาวน์โหลดดูซิ แต่เบื้องหลังแล้วคนที่แนะนำจะได้ส่วนลดเป็นการตอบแทน
- Affiliate: เป็นการทำตลาดแบบการจ่ายค่า Commission เมื่อคนที่เอาของคุณไปขาย ขายของคุณได้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งพรุ้งนี้เครื่องมือหรือวิธีการเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตาพฤติกรรมของผู้ใช้แอป ทางคน โปรโมทแอพอาจต้องทำการตัดสินใจตามเป้าหมายของธุรกิจใจแต่ละช่วงว่า เรา
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”