Keyword ที่ใช้ในการทำ SEO คืออะไร มีกี่ประเภทและวิธีเลือกใช้

Keyword ที่ใช้ในการทำ SEO คืออะไร มีกี่ประเภทและวิธีเลือกใช้

รู้จักประเภทของคีย์เวิร์ดในการทำ SEO 

ในการทำ SEO (Search Engine Optimization) หรือที่เรารับทำ SEO การเลือกใช้คีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคีย์เวิร์ดเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ค้นหากับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ การเข้าใจว่าคีย์เวิร์ดคืออะไรและการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าผลการค้นหา (SERP) ของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ในปี 2025 การทำความเข้าใจประเภทของคีย์เวิร์ดและการนำไปใช้ให้ถูกต้องยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จ

คีย์เวิร์ดคืออะไร?

คีย์เวิร์ดคือคำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์ลงในเครื่องมือค้นหาหรือ Google เมื่อเค้ากำลังมองหาข้อมูล สินค้า หรือบริการบางอย่าง การเลือกแทรกหรือใส่ Keyword ที่สอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถจับคู่และแสดงผลเว็บไซต์ของคุณให้กับผู้ค้นหาได้อย่างถูกต้อง

ประเภทของคีย์เวิร์ดในการทำ SEO

เมื่อเข้าใจว่า keyword คืออะไรแล้ว เรามาทำความเข้าใจประเภทของคีย์เวิร์ดจะช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ในการรับทำ SEO หรือการทำ SEO  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคีย์เวิร์ดสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามความเข้มข้นของ Intent หรือความตั้งใจจะค้นหา กับ search volume ได้ดังนี้:

ประเภทของคีย์เวิร์ดในการทำ SEO
  1. คีย์เวิร์ดทั่วไป (Generic Keywords)

คีย์เวิร์ดทั่วไปที่เรียกกันว่า Big head Keyword หรือ Keyword แบบกว้าง เป็นคำหรือวลีสั้น ๆ ที่มีความหมายกว้างและมีปริมาณการค้นหาสูง เช่น “รองเท้า” หรือ “โทรศัพท์มือถือ” แม้ว่าคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะมีการค้นหามาก แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน ทำให้การติดอันดับในผลการค้นหาเป็นไปได้ยาก

  1. คีย์เวิร์ดเฉพาะกลุ่ม (Niche Keywords)

คีย์เวิร์ดเฉพาะกลุ่มที่เรียกกันว่า Middle Keyword หรือ Keyword แบบเจาะจงเป็นคำหรือวลีที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น “รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง” หรือ “โทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกม” คีย์เวิร์ดเหล่านี้มีปริมาณการค้นหาน้อยกว่าคีย์เวิร์ดทั่วไป แต่มีโอกาสในการติดอันดับสูงกว่าเนื่องจากการแข่งขันน้อยลง

  1. คีย์เวิร์ดหางยาว (Long-Tail Keywords)

คีย์เวิร์ดหางยาวหรือว่า Long-Tail Keywords เป็นวลีที่มีความยาวและเฉพาะเจาะจงมาก เช่น “วิธีเลือกรองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงที่มีเท้าแบน” หรือ “โทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมในปี 2025” แม้ว่าคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะมีปริมาณการค้นหาต่ำ แต่ผู้ค้นหามักมีความตั้งใจจริงและพร้อมที่จะดำเนินการ เช่น การซื้อสินค้า หรือสมัครบริการ

คีย์เวิร์ดตามวัตถุประสงค์การค้นหา (Intent-Based Keywords)

หลังจากที่เรามีการแบ่งคีย์เวิร์ดตามความเข้มข้นของ Intent หรือความตั้งใจจะค้นหา กับ search volume แล้วเราก็จะต้องมาดูว่า Intent ของ Keyword ที่เราจะเลือกนั้นตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการทำการตลาดของเราหรือไม่ โดยเราสามารถแบ่ง Keyword ไปตามตามความตั้งใจของผู้ค้นหา ดังนี้:

  1. คีย์เวิร์ดแบรนด์ (Branded Keywords)

คีย์เวิร์ดแบรนด์คือคีย์เวิร์ดที่มีชื่อแบรนด์รวมอยู่ด้วย เช่น “iPhone 13” หรือ “รองเท้า Nike” ผู้ค้นหาที่ใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้มักมีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์และมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์นั้น ๆ

  1. คีย์เวิร์ดเชิงข้อมูล (Informational Keywords)

ผู้ค้นหาต้องการข้อมูลหรือความรู้ เช่น “วิธีผูกเชือกรองเท้าวิ่ง”

  1. คีย์เวิร์ดเชิงพาณิชย์ (Commercial Keywords)

ผู้ค้นหากำลังพิจารณาซื้อสินค้าแต่ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เช่น “รีวิวโทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกม” , “โทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกม ราคา”

  1. คีย์เวิร์ดเชิงธุรกรรม (Transactional Keywords)

ผู้ค้นหาพร้อมที่จะซื้อสินค้า หรือสมัครบริการ เช่น “ซื้อ iPhone 13 ราคาถูก”

  1. คีย์เวิร์ดเชิงนำทาง (Navigational Keywords)

ผู้ค้นหาต้องการไปยังเว็บไซต์หรือหน้าที่เฉพาะเจาะจง เช่น “เข้าสู่ระบบ Facebook”

การเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้เหมาะสม

หลังจากที่เรารู้ว่าประเทภของ Keyword มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร ตอนนี้เรามาดูกันว่าแล้วธุรกิจของเราควรเลือกใช้ Keyword แบบไหนให้เหมาะสมเพื่อให้มีโอกาสที่จะติดอันดับและเห็นผลลัพธ์ ซึ่งการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้:

  • ความเกี่ยวข้อง (Relevance): คีย์เวิร์ดควรสอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • ปริมาณการค้นหา (Search Volume): ควรเลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาพอสมควร เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ค้นหา
  • การแข่งขัน (Competiton): ควรพิจารณาความยากง่ายในการติดอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ โดยคีย์เวิร์ดหางยาวหรือคีย์เวิร์ดเฉพาะกลุ่มมักมีการแข่งขันน้อยกว่า
  • ความตั้งใจของผู้ค้นหา (Intent): ควรเลือกคีย์เวิร์ดที่สอดคล้องกับความตั้งใจของผู้ค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้า

แจกเครื่องมือสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ด

การใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดจะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือที่แนะนำ ได้แก่:

  • Google Keyword Planner: เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้คุณค้นหาและวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
  • Ahrefs: เครื่องมือที่มีฟังก์ชันหลากหลายสำหรับการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดและการแข่งขัน
  • SEMrush: เครื่องมือที่ช่วยในการวิจัยคีย์เวิร์ดและวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่ง
  • Ubersuggest: เครื่องมือฟรีที่ช่วยในการค้นหาคีย์เวิร์ดและแสดงปริมาณการค้นหา

เลือกคีย์เวิร์ดให้ถูกต้องเพื่อ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

การเข้าใจและเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรับทำ SEOและการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ การวิเคราะห์และวางกลยุทธ์การใช้คีย์เวิร์ดที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรากฏบนหน้าผลการค้นหา และนำไปสู่การเพิ่มยอดผู้เข้าได้