กรณีศึกษาน้องหมีเนย ButterBear และ Mascot อื่น ๆ ในประเทศไทย
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ Foretoday จะมาแชร์เรื่องราวสุดว้าวเกี่ยวกับพลังของ Mascot Marketing ที่เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ อย่างน้องหมีเนย ButterBear มาสคอตหมีน้อยสุดน่ารัก ที่ทำให้ห้างแตกได้ ! ราวกับดารามาเอง ด้วยคาแรคเตอร์ที่แสนตะมุตะมิ
โดยเราจะพาทุกคนไปวิเคราะห์การทำ Mascot Marketing ที่ช่วยให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ ผ่านน้อง ๆ Mascot ชื่อดังอย่างน้อยหมีเนย และอีกมากมาย โดยเราจะมาดูกันว่าน้อง ๆ มาสตอตเหล่านี้ใช้เทคนิคอะไรบ้างในการมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด และหันมาใช้บริการของร้านให้มากขึ้น
1. มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ด้วยเพลงฮิตติดหู
ในเรื่องนี้เราขอยกตัวอย่างเป็น น้องหมีเนย ButterBear และน้องกล้วยกรุงศรี มาสคอตที่เต้นเก่งไม่เกรงใจใคร มาวิเคราะห์ให้ฟังครับ
น้องหมีเนย ButterBear ที่มีคาแรคเตอร์ที่แสนจะน่ารัก แถมยังชื่นชอบการเต้นเป็นชีวิตจริงใจ ช่วยให้ร้านขนมหวาน ButterBear ในเครือ Coffee Beans by Dao เป็นที่รู้จักด้วยคาแรคเตอร์ที่น่าเอ็นดู กับการเต้น cover เพลง K-pop ชื่อดังอย่าง Magnetic จากวง ILLIT (ไอลิท) ทำให้ตกใครหลาย ๆ คนได้และเป็นกระแสมาจนถึงตอนนี้
กับน้องกล้วยกรุงศรี เจ้ากล้วยสุดกวนที่จะมอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน กับสไตล์การเต้นที่ใส่สุด ไม่เก็บทรง จ้างร้อยเต้นล้าน โดยมีแนวเพลงคู่ใจเป็นเพลงโจ๊ะ หรือ EDM ที่เรียกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ขั้วตรงข้ามกับน้องหมีเนยก็ว่าได้
จะเห็นได้ว่าทั้งน้องหมีเนย และน้องกล้วย ต่างก็มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และยังมีการใช้เพลงฮิตกับการเต้นมาช่วยให้ผู้คนต่างพูดถึงเป็นจำนวนมาก และเป็นที่จดจำมาจนถึงปัจจุบัน
2. สม่ำเสมอ ไปที่ไหนก็ต้องเจอ
การจะทำมาสคอตให้ประสบความสำเร็จจะต้องพยายามสร้างตัวตนให้กับมาสคอตในทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นบนโซเชียลมีเดีย หรืองานอีเวนต์ต่าง ๆ ยิ่งคนเห็นมากก็ยิ่งจดจำได้มาก
ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักมาสคอต ลุงโจนส์ จาก Jones Salad ที่คอยให้ความรู้ในทุกเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เรื่องสุขภาพ หรือความรู้รอบตัว บนสื่อออนไลน์ทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้ และเมื่อไปที่หน้าร้านก็จะมีหน้าลุงโจนส์ให้ทุกคนเห็น เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะนำมาสคอตไปใช้กับทุกช่องทาง และทุกผลงานที่คุณจะทำเพราะมันจะช่วยสะท้อนภาพจำของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
3. เชื่อมโยงกับลูกค้า ผ่านเรื่องราว
ดูหนังสั้นได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=QciKdnGSczA&t=79s
Storytelling เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบในยุคนี้ เรามักจะยอมจ่ายเงินมากขึ้น เมื่อรู้ถึงเรื่องราวหรือที่มาของสินค้าที่ตนเองสนใจ ตัวมาสคอตเองก็เช่นกัน หากเราสามารถสร้างเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าได้ แบรนด์หรือมาสคอตของเราก็จะเป็นที่น่าจดจำ และเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้มากขึ้น
ในประเด็นนี้ของยกตัวอย่างจากมาสคอต พี่ก้อน จากแบรนด์ Bar B Q Plaza แบรนด์หมูกระทะที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก แต่เวลาเรียกชื่อทีไรก็จะเผลอเรียก “บาบีกอน” ทุกที นี่ก็ถือเป็นจุดนึงที่การรันตีว่ามาสคอตทำให้เราจดจำภาพลักษณ์แบรนด์ได้มากแค่ไหน เพราะพี่ก้อนกลายเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการเล่าเรื่องราวให้กับลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างการทำหนังโฆษณา เรื่อง “The Secret Tale เรื่องเล่ามังกรเฝ้าร้าน” ที่เป็นการพูดถึงภูมิหลังของพี่ก้อน
อย่างไรก็ตามการสร้าง Mascot Marketing ให้กลายเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่ไม่เพียงแต่น่ารักและจดจำได้ง่าย แต่ยังต้องสร้างการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภคนั้นเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิผลสูงในการตลาดสมัยใหม่ให้ประสบความสำเร็จ
สรุป
เทคนิคการทำ Mascot Marketing ให้ประสบความสำเร็จจากในฉบับของ
1.การออกแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ และจดจำได้ง่าย
2.ความเชื่อมโยงกับแบรนด์ สื่อทุกคุณค่าของแบรนด์ รวมถึงการใช้สี โลโก้ และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ไปในทิศทางเดียวกัน
3.การสร้างเรื่องราว (Storytelling) สร้างเรื่องราวหรือบุคลิกภาพให้กับมาสคอต และเชื่อมโยงกับความสนใจของลูกค้
4.การใช้ในทุกช่องทาง และความสม่ำเสมอ การใช้มาสคอตต้องใช้อย่างต่อเนื่องในทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้คนจดจำได้
- ความสม่ำเสมอช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความจดจำในระยะยาว
- การติดตามและประเมินผล
- การวัดผลการตอบรับจากลูกค้าเกี่ยวกับมาสคอต
- ใช้ข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนามาสคอตให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
#Marketing #Mascot #ButterBear #Barbqplaza #ธนาคารกรุงศรี #ForeToday
ขอบคุณภาพจาก
https://www.instagram.com/butterbear.th
https://www.facebook.com/JonesSaladThailand
อ้างอิงเนื้อหา