การเปลี่ยนแปลงใหม่ในปี 2021 ที่ Google Ads อัพเดทเกี่ยวกับ การรวม Match Types ของ Keyword ประเภท Broad Match Modifier (BMM) กับ Phrase เข้าด้วยกัน
โดยการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลอย่างไร เมื่อไหร่ และนักการตลาดจะมีผลกระทบอย่างไร ในบทความนี้จะมาเจาะลึกเรื่องนี้กัน
Google Ads รวม Broad Match Modifier เข้ากับ Phrase Match
จากภาพ Google ใช้ Keyword คำว่า moving service NYC to Boston หรือ +moving +services +NYC +to +Boston ซึ่งแบบเดิมถ้าเป็น Phrase match “moving service NYC to Boston” จะต้องเป็นคำนี้ทั้งคำ แทรกอยู่ในประโยค อาจจะขึ้นต้น หรือท้ายประโยค แต่หากเป็น Broad match modifier สามารถสลับที่คำ หรือ แทรกคำอื่นๆระหว่าง +moving +services +NYC +to +Boston
สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ การรวม Broad match modifier ไว้กับ Phrase match เพื่อให้คีย์เวิร์ดตรงกับความต้องการผู้ใช้งาน และลดจำนวนคำที่ไม่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น โดยในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นอกจากจะยุติการตั้งค่า Broad match modifier แล้ว ยังจะเปลี่ยนหน้าที่ของ Phrase match คือสามารถนำคำอื่นๆมาแทรกระหว่างประโยค เช่น การเพิ่มคำว่า corporate ระหว่างคำ หรือจะเป็น affordable ที่สามารถวางไว้หน้าหรือหลังประโยคก็ได้ แต่จะไม่สามารถสลับที่คำในประโยคนั้นๆได้ เหมือนอย่าง Broad match modifier
ภาพจาก : Google
Google จะเริ่มปรับใช้การเปลี่ยนแปลงของ Keyword นี้ ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยระบบจะค่อยๆเปลี่ยนจาก Broad match modifier ไปเป็น Phrase match ให้เอง ซึ่งเราต้องเข้าไปปรับอะไรเลย และยังคงสามารถใช้งานและสร้าง Match Type ประเภทนี้ได้อยู่ จนถึงเดือนกรกฏาคม Google จะปิดรูปแบบการสร้าง Keyword แบบ Broad match modifier แต่ตัวเดิมที่เคยเปิดไว้จะยังคงใช้งานได้เหมือน Phrase match ตัวใหม่นั่นเอง
แผนการรับมือ การเปลี่ยนแปลงของ Keyword match type ที่นักการตลาดต้องรู้
1.แนะนําว่าหลังจากนี้การซื้อ keyword ภาษาอังกฤษให้สร้างเเค่ Phrase Match ก็พอ
ตอนนี้ภาษาที่เริ่มใช้งานการเปลี่ยนแปลงนี้เเล้วจะมีเพียงแค่ 8 ภาษา และภาษาหลักที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเราจะมีเเค่ ภาษาอังกฤษ และการเปลี่ยนแปลงที่เหลือนั้นจะมาภายในเดือน กรกฎาคม เพราะฉะนั้นตอนนี้เราไม่ควรสร้าง Broad match modifier ที่เป็นภาษาอังกฤษเเล้ว ควรสร้างเเค่ Phrase match ก็พอ เพราะเเม้ว่าเราจะยังสามารถสร้าง BMM ได้เเต่ว่า Function ของทั้งสองอันนี้มันกําลังจะเหมือนกันเเล้วอย่างที่อธิบายไปด้านบน
2.ซื้อ Phrase match สลับหน้าหลัง
ในกรณีที่ Keyword ของเรานั้นจําเป็นต้องมีซื้อคําที่มีการสลับหน้าหลังกัน เช่น ขนส่งจากจีนมาไทย และมี ขนส่งจากไทยมาจีน ปกติแล้วเราก็จะซื้อเเค่ +ขนส่ง +จีน +ไทย โฆษณาก็จะสามารถขึ้นเเสดงกับการค้นหาทั้ง 2 แบบ แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ทําให้เราต้องซื้อ phrase match ทั้ง 2 แบบเเทน
3.ใช้ Broad Match คู่กับ Smart bidding
เป็นอีกคําแนะนําหนึ่งจากทาง Google ที่อยากเเนะนําด้วย คือการใช้ Broad match เข้ามาเเทน แต่ต้องเปิดคู่กับ Smart Bidding ด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นคําที่ค้นเจอจะเยอะเเละไม่ตรงจุดอย่างที่เราต้องการ และการทําแบบนี้เราก็ยังต้องที่จะคอยเข้ามาทํา negative keyword เอาไว้ และโน๊ตไว้ด้วยว่าตัว negative keyword นั้นยังจะเหมือนปกติ และไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ครับ
โดยสรุปคือ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้จริงๆเเล้วไม่ได้จําเป็นจะต้องมี immidiate action เพราะทาง google ก็จะค่อยๆปรัปเปลี่ยน รวมทั้ง การที่ phrase match กับ BMM นั้นเหมือนมารวมกัน แต่ถ้าให้เเนะนําเลยก็คือ หลังจากนี้เราแนะนําให้สร้าง keyword โดยใช้เเค่ Phrase match ไปก็พอ เเละถ้ากังวลว่า traffic และ engagement นั้นจะลด ก็ให้ เพิ่ม phrase match ที่มีการสลับหน้าหลังไป และก็ยังสามารถเปิดใช้งาน Broad แบบปกติคู่กับ Smart bidding ที่จะช่วยทําให้ตัว keyword optimize ได้ดีเเละเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายอีกด้วย
สำหรับความรู้ที่ต้องการอัพเดทในวันนี้ก็มีเท่านี้นะครับ ฝากไลค์ ฝากแชร์ และเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ และพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้หากมีตรงไหนที่สงสัยก็สามารถติดต่อมาได้เลยนะครับ
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “
#Foretoday #digitalagency #marketing #Ecommerce