ปัญหาโลกแตกสำหรับคนที่เริ่มต้นอยากจะขายของออนไลน์ เห็นคนนั้นคนนี้ขายกัน แต่เราไม่รู้จะขายอะไรดี ?
เรียกได้ว่าเป็นเหมือนด่านแรก ที่เขาว่ากันว่าหากผ่านด่านนี้ไปได้ ด่านอื่นๆก็จะง่ายไปเลย วันนี้แอดมินก็ได้รวบรวมเว็บแหล่งไอเดียสำหรับสินค้าที่น่านำเข้ามาขาย ช่วยให้ด่านแรกนี้ง่ายขึ้นไปอีก
1.KickStarter
เว็บไซต์ระดมทุน สำหรับคนที่มี Project มีไอเดียแปลก ไม่ใช่ว่ามีไอเดียแล้วเอาไปขายนะครับ แต่ต้องมีแพลนการผลิตเรียบร้อย พร้อมที่จะผลิตแล้ว ติดต่อ Supplier เรียบร้อย ขาดแค่เงินที่จะเอามาลงทุน
คนที่มาลงทุนจริงๆ ไม่ได้ลงทุนหรอก มันคือคนที่จะมาซื้อของนี่แหละ แต่คนซื้อจะรู้ว่า เค้าจ่ายเงินให้เราวันนี้ แต่อาจจะได้ของ 1 เดือน 3 เดือน หรืออีก 1 ปี ขึ้นกับแผนการผลิต ที่เราต้องระบุไปด้วยว่าจะผลิตเสร็จพร้อมส่งเมื่อไหร่
ข้อดี
- สินค้าก็จะไม่ใช่ประเภท เอาของจีนสั่งมาขาย แต่มันต้องมาพร้อมไอเดียใหม่ๆ ดีไซน์ใหม่ๆด้วย
- สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้า innovation เป็นสินค้าที่ไม่เคยมีขายมาก่อน หากมองในมุมมองของพ่อค้า/แม่ค้าออนไลน์อย่างเราๆ แล้วนี้คือโอกาสเป็นผู้บุกเบิกสินค้านี้เขามาขายในไทยเป็นเจ้าแรกๆ
ข้อเสีย
- อย่างที่ทราบว่าหลังจากที่เราจ่ายเงินซื้อของไปอาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะได้นำเข้ามาขายจริง
- เราต้องแบกรับความเสี่ยงเองหากเกิดกรณีที่ project ที่เราลงทุนไปนั้นเกิดขาดทุนหรือไม่สามารถดำเนินการจัดส่งได้ทันตามเวลา
2.Alibaba
เรียกได้ว่าคนที่ขายของออนไลน์คงไม่มีใครไม่รู้จักเว็บไซต์นี้ เพราะ Alibaba คือแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสแบบ B2B ที่มีผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านคน เป็นเว็บไซต์ขวัญใจพ่อค้า/แม่ค้าออนไลน์ที่นำสินค้าเข้ามาขายจากจีน เพราะนอกจากจะราคาถูก แล้วหลาย supplier ยังสามารถเป็น OEM ติดแบรนด์ทำ packaging ให้สำเร็จรูปพร้อมขาย เรียกได้ว่าครบจบที่เดียว
ข้อดี
- สินค้าหลากหลายมีให้เลือกตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ แม้แต่สินค้าแบบเดียวกันก็มี suppliers ให้เลือกดูหลายเจ้า สามารถต่อรองราคาหรือขอสินค้า sample ได้
- ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโกงหรือไม่ได้ของเพราะ มีตัวกลางเป็น Alibaba ตัวกลางดูแลเงินเราไว้
ข้อเสีย
- คุณภาพก็ตามราคา ตามสไตล์พี่จีนเขาแหละ ต้องเลือกดีๆ เปรียบเทียบดูหลายๆเจ้า
- มี MOQ หรือการสั่งจำนวณขั้นต่ำ ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองขายก่อน ถ้าทุนน้อยแนะนำ Aliexpress
3. Taopao.com
ถ้าพูดกันง่าย Taobao ก็คือ Lazada ในจีนนี้แหละ อยู่ภายใต้เครือของ Alibaba Group ซึ่งเป็น Mobile Commerce ภายในประเทศจีน จุดกำเนิดมาจากกลุ่มคนจีนรวมตัวกันเปิดร้านชื่อว่าหมู่บ้านเถาเป่า เพื่อต้องการขายสินค้าแข่งขันกันใน digital economyในปัจจุบันมีคนสมัครสมาชิกใน Taobaoมากกว่า 120 ล้านคน และมีสินค้ามากกว่าพันล้านชิ้น มียอดการซื้อขายแล้วมากกว่า 1.5 ล้านล้านครั้ง
ข้อดี
- สินค้าราคาถูกมาก แถมยังสามารถซื้อปลีกได้ด้วยไม่เหมือน Alibaba เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ยังมีทุนไม่มากนัก
ข้อเสีย
- ภาษาที่ใช้ 80% เป็นภาษาจีนต้องอาศัย google translate ในการสื่อสารกับ supplier และการหาสินค้า เนื่องจากผู้ขายเป็นชาวบ้านชาวจีนทั่วไป
2. ไม่มีบริการจัดส่งถึงประเทศไทย ต้องสั่งสินค้าผ่านตัวแทน shipping ในไทย
สุดท้ายนี้การหาสินค้ามาขายสั่งอย่างหนึ่งก็คงไม่ต่างกับการเลือกหารองเท้าดีๆสักคู่ ต้องอาศัยการลองแล้วลองอีก ดูหลายๆที่ ยิ่งดูเยอะยิ่งเลือกเยอะมีโอกาสเจอกับสินค้าคุณภาพในราคาที่ดี ต้องอาศัยเวลา, ประสบการณ์และความชำนาญในการต่อรองกับ supplier หากใครเจอสินค้าที่โดนใจพร้อมนำมาขายออนไลน์ ก็สามารถมาติดตามวิธีการทำการตลาดออนไลน์ทาง Foretoday ได้ทุกวัน
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”