สรุป Digital Personalized Marketing การตลาดในยุคปัจจุบัน มีความทันสมัย เเละถูกพัฒนามาไกลพอสมควร เเละด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงส่งผลกระทบต่อหลายๆอย่างบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เเค่การตลาด การประชาสัมพันธ์ หรือเเค่การขายของออนไลน์เท่านั้น  เเละ Digital เอง จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน ระบบสาธารณสุข  สังคม การท่องเที่ยวเเละการบริหารระหว่างประเทศอีกด้วย

วันนี้เราจะมาพูดสรุปถึงคำว่า Digital Personalized Marketing กัน

ส่วนมหญ่ผู้ที่กำลังศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ Digital Marketing จะเข้าใจว่า หัวใจหลักของการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ คือ Content Marketing ให้ฮิต น่าสนใจ เเต่เป็นเรื่องที่ยากที่จะเขียนให้กระชับ เเละเข้าใจได้  เหมาะสม เเละสามารถเเก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ได้ เเละสิ่งสำคัญที่สุดคือการหาบุคลากรสำหรับงานสาย Content Marketing เป็นเรื่องที่ค่อนข้าง ลำบาก เเละต่อให้หาได้ ก็คงต้องใช้เวลาซักพักให้คนของเราเข้าใจในธุรกิจที่เรากำลังทำ

เพราะงั้น การเขียนคอนเทนส์ ซัก 1 หัวข้อ ต้องไม่ให้เสียเปล่า เราต้องทำให้คอนเทนส์เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้ ในช่วงเเรกๆเราอาจเขียนคอนเทนส์เเนว Value Content ให้ ผู้ที่ติดตามเราอยู่ได้ลองอ่าน เพื่อเก็บสถิติว่าผู้ติดตามของเราเเต่ละกลุ่ม ชอบคอนเทนส์เเนวไหน เมื่อเรารู้เเล้วว่าผู้ติดตามเราเเต่ละกลุ่มเป้าหมายชอบคอนเทนส์ประเภทไหน เราเเค่ต้องทำคอนเทนส์เเต่ละเรื่องให่ถูกกลุ่ม

การออกเเบบคอนเทนส์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคคือหัวใจหลัก เพื่อให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ ตอบโจทย์ความชอบของเขา เเละเขาจะได้ติดตามเพจเรากันต่อๆไป

รูปเเบบ Design บนโลกออนไลน์กำลังเปลี่ยน ด้วยการใช้ข้อมูลมาประมวลผลต่างๆก่อนออกเเบบ เริ่มได้ตั้งเเต่ ลูกค้าเลย ลูกค้าจะเจอเราได้ยังไง หลังจากนั้นเขาเข้ามาในเว็ปไซต์เรา ลูกค้าสนใจส่วนไหนของเว็ปไซต์เรามากที่สุด ลูกค้าชอบสีอะไรมากที่สุด ลูกค้าจะอยู่ในเว็ปไซต์กันที่หน้าไหน  เพราะการออกเเบบถูกใจผู้บริโภคอย่างไร  การเก็บข้อมูลรายละเอียด  เล็กน้อยพวกนี้ บางคนอาจมองว่าไม่ได้สำคัญต่อการขายของเราเท่าตัวสินค้า  เเต่ความจริงเเล้วรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้จะช่วยยกระดับความรู้สึกให้ผู้บริโภครู้สึกเป็นคนที่พิเศษ เวลาเข้าชมเว็ปไซต์ของเรา รวมถึงสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันธ์กับเเบรนด์มากยิ่งขึ้น

คำว่า User Experience Design  ไม่ได้หมายถึงเเค่เรื่องของเว็ปไซต์อย่างเดียว เเต่หมายถึงการออกเเบบได้ตอบโจทเเละ โดนจุดทุกจุดที่ผู้บริโภคไป เเต่ไม่ใช่ว่าทำเเบบเหมือนตามตื้อ จนเหมือนไปคุกคามผู้บริโภคนะครับ  เราเเค่ต้องทำให้เหมือนเป็นเรื่อง เซอไพรส์ ! เจอเราอีกเเล้ว อะไรทำนองนี้ คล้ายๆทำให้ลูกค้ารู้สึกเเค่บังเอิญเจอเเบรนด์เราอีก จนเกิดความผูกพันธ์ต่อเเบรนด์ไปเอง

คือการทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนคนพิเศษอยู่ตลอดเวลา เเต่การจะทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ใช่ว่าเกิดได้จากช่องทางใดช่องทางเดียว เเต่จะเกิดขึ้นได้จากการที่เราใส่ใจผู้บริโภคผ่านทุกๆช่องทางต่างหาก ตัวอย่างง่ายๆเช่น การใส่ใจในชื่อของลูกค้าเวลาเข้าสู่ระบบ เเละเข้าใจว่าลูกค้าชอบสินค้าอะไรในเเบรนด์ของเรา รวมถึงรายระเอียด วัน เดือน ปีเกิดของลูกค้าเพื่อส่งของขวัญไปให้ ( ในกรณีที่เป็นลูกค้าประจำหรือลูกค้าคนพิเศษที่ทำตามเงื่อนไขหรืออะไรก็ได้ที่เราสร้างเงื่อนไขขึ้นมา ) หรือเเค่ส่งข้อความทางช่องทางออนไลน์ สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษไปกับเเบรนด์ของเรา

“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”

“A better tomorrow starts today”