ในฐานะที่เราคือ ForeToday เอเจนซี่ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่มีประสบการณ์ทำงานกับหลากหลายอุตสาหกรรม และเคยดูแลลูกค้าหลากหลายประเภท รวมถึงธุรกิจในกลุ่ม Sensual Marketing ด้วย ให้เข้าใจง่าย ๆ คือกลุ่มธุรกิจที่มีสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นคลินิกความงาม คลินิครักษาสมรรถภาพทางเพศ ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น ถุงยางอนามัย หรือแม้กระทั่งสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายวาบหวิวที่เกี่ยวกับความสุขทางอารมณ์ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าการตลาดสายนี้ต้องการความละเอียดอ่อน สร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดต้องสื่อสารอย่างมีจรรยาบรรณเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์และความไว้วางใจของผู้บริโภค ซึ่งในหลายแพลตฟอร์มเองก็มีนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ทำให้การโฆษณาโดยตรงเป็นไปได้ยาก หรืออาจถูกจำกัดการเข้าถึง
แล้วทำอย่างไรจึงจะทำการตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?
1. เคล็ดลับการเขียนการตลาดสายเสียวให้มีรสนิยม
การเขียนการตลาดในสายเสียวหรือการใช้การตลาดที่เน้นเรื่องเร้าอารมณ์ (Sensual Marketing) อย่างมีรสนิยม คือการสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและมีอารมณ์ร่วมโดยไม่ล่วงเกินหรือไม่ให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่ยังคงรักษาความมีสไตล์และความเป็นมืออาชีพไว้
การใช้แนวทางนี้สามารถปรับให้เข้ากับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยมีเคล็ดลับ ดังนี้
1.1 ใช้คำที่สื่อความเซ็กซี่แบบมีคลาส เช่น สัมผัส, ความสุข, ความมั่นใจ
การเลือกใช้คำที่ฟังดูนุ่มนวลและเซ็กซี่โดยไม่โจ่งแจ้งเกินไป ช่วยสร้างความรู้สึกที่หรูหราและน่าสนใจ คำเหล่านี้มักสะท้อนถึงประสบการณ์ที่มอบความสุขและความมั่นใจให้แก่ลูกค้า โดยเน้นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและทรงพลังในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่าง: “ปล่อยให้ทุกสัมผัสเป็นเหมือนการเดินทางไปในโลกที่เต็มไปด้วยความงาม และให้คุณดื่มด่ำในความรู้สึกที่ไม่อาจลืม”
1.2 เน้น Storytelling เชื่อมโยงสินค้าเข้ากับประสบการณ์ที่คนอ่านอินได้
การสร้างเรื่องราวที่สามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์ของผู้อ่านได้อย่างมีพลัง จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับสินค้าและบริการนั้นมากขึ้น การใช้ Storytelling ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัวหรือสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ผู้บริโภคสามารถเข้าใจและเชื่อมโยงได้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง: “หลังจากวันอันยาวนาน เมื่อคุณได้ล้างออกทุกความเหน็ดเหนื่อย และปล่อยให้ผิวของคุณสัมผัสกับความชุ่มชื้นจากครีมบำรุงที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ความรู้สึกที่เหลืออยู่คือความสดชื่นและความรักที่คุณมีให้กับตัวเอง”
1.3 สร้างความรู้สึกเชิงบวก เช่น ความมั่นใจ, การดูแลตัวเอง, และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การใช้การตลาดที่เน้นไปที่ความรู้สึกดีและเชิงบวก จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ยังมอบการดูแลที่ดี และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ การตลาดเชิงบวกช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์ได้
ตัวอย่าง: “การดูแลตัวเองไม่ใช่แค่การเลือกสินค้าที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นการเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณรู้สึกมั่นใจในทุกๆ วัน ผลิตภัณฑ์ของเราออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ และช่วยให้คุณรู้สึกดีจากภายในสู่ภายนอก”
1.4 ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ แทรกความรู้ด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์
การให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า แต่ยังทำให้แบรนด์ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ การใส่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือคำแนะนำที่ช่วยเสริมสุขภาพจะทำให้สินค้าไม่น่าจะเป็นแค่ของใช้ทั่วไป แต่เป็นสิ่งที่ดูแลและส่งเสริมคุณภาพชีวิตลูกค้า
ตัวอย่าง: “ปลดปล่อยความสดชื่นให้ผิวคุณสัมผัสได้ในทุกการใช้ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัย ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ พร้อมให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 12 ชั่วโมง #สุขภาพผิวดีเริ่มจากการดูแล #วิทยาศาสตร์เพื่อความงาม”
1.5 ออกแบบภาพลักษณ์ให้ดูพรีเมียมและมีเสน่ห์ เพื่อให้สินค้าโดดเด่น
การออกแบบภาพลักษณ์ของสินค้าให้มีความพรีเมียมและมีเสน่ห์ จะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้า การเลือกสีและฟอนต์ที่หรูหรา รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความสง่างามจะทำให้สินค้าดูมีความน่าสนใจและมีมูลค่า
ตัวอย่าง: “ขวดผลิตภัณฑ์ของเราออกแบบด้วยความพิถีพิถัน ใช้วัสดุพรีเมียมที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา และดึงดูดทุกสายตาที่สัมผัส การออกแบบที่ทันสมัยแต่ไม่ลืมความคลาสสิก ทำให้ทุกครั้งที่ใช้คุณรู้สึกพิเศษ”
2. ยกระดับการตลาดออนไลน์สายเสียวโดยไม่ละเมิดกฎหมายและนโยบายชุมชน
การทำการตลาดสายเสียวหรือ Sensual Marketing บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่เพียงแต่ต้องสร้างสรรค์และน่าสนใจ แต่ยังต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและกฎชุมชน (Community Guidelines) ของแต่ละแพลตฟอร์มด้วย ความเข้าใจในกฎเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องแบรนด์จากปัญหาด้านกฎหมายแล้ว ยังช่วยรักษาความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในสายตาของผู้บริโภคอีกด้วย
ตัวอย่างกฎชุมชนของแพลตฟอร์มออนไลน์
1. Facebook และ Instagram
- ข้อกำหนดเกี่ยวกับเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ: Facebook และ Instagram มีกฎที่เข้มงวดเกี่ยวกับเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ เช่น ห้ามโพสต์เนื้อหาที่มีภาพเปลือยหรือสื่อที่มีการสื่อถึงเรื่องเพศโดยตรง แม้ว่าจะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา หรือศิลปะก็ต้องมีการชี้แจงอย่างชัดเจนและอยู่ในบริบทที่เหมาะสม
- คำต้องห้าม: ห้ามใช้คำหรือสำนวนที่มีความล่อแหลม เช่น “เร้าอารมณ์” หรือ “เสียวสุดขีด” หากไม่ได้มีการชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเหมาะสม เช่น การพูดถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางเพศ
2. TikTok
- ข้อกำหนดเกี่ยวกับการโฆษณา: TikTok มีข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางเพศ การใช้ภาพประกอบหรือคำพูดที่แสดงถึงการกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างโจ่งแจ้งถือเป็นสิ่งต้องห้าม
- คำต้องห้าม: หลีกเลี่ยงการใช้คำที่สื่อถึงความล่อแหลมโดยตรง เช่น “อารมณ์เร่าร้อน” หรือ “สัมผัสที่ลึกซึ้ง” หากไม่มีการนำเสนอในบริบทที่เหมาะสม
3. YouTube
- การควบคุมเนื้อหา: YouTube อนุญาตให้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศในเชิงการศึกษา แต่ต้องไม่มีภาพหรือเสียงที่สื่อถึงความล่อแหลมในลักษณะที่เป็นการกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างตรงไปตรงมา
- คำต้องห้าม: ห้ามใช้คำที่ทำให้เกิดการตีความผิด เช่น “เสพสม” หรือ “เติมเต็มอารมณ์” โดยเฉพาะในบริบทที่ไม่เหมาะสม
4. Twitter (ปัจจุบันเป็น X)
- ความยืดหยุ่นและความเสี่ยง: แม้ว่าแพลตฟอร์มนี้จะมีความยืดหยุ่นสูงในการโพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่การโฆษณายังคงต้องปฏิบัติตามนโยบายโฆษณาที่เข้มงวด โดยห้ามโปรโมตเนื้อหาที่มีความล่อแหลมเกินไปหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
เทคนิคหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎชุมชน
- ใช้ภาษาที่เป็นมิตรและสร้างแรงบันดาลใจ โดยเน้นถึงความสำคัญของสุขภาพ ความสุข และความพึงพอใจส่วนบุคคลมากกว่าการสื่อถึงความล่อแหลม
- ใช้ภาพและสัญลักษณ์ที่มีความสร้างสรรค์ โดยหลีกเลี่ยงภาพที่มีลักษณะโจ่งแจ้ง เช่น การเน้นส่วนของร่างกายมากเกินไป
- ทำการตรวจสอบเนื้อหาก่อนโพสต์ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาไม่ละเมิดกฎชุมชนของแต่ละแพลตฟอร์ม
4. การหากลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ แชร์แบบไม่หมกเม็ดตามฉบับบที่เอเจนซี่ใช้
กลุ่มเป้าหมายสำหรับ Sensual Marketing ขึ้นอยู่กับ Product แต่ละเบรนด์ ซึ่งมีการนำเสนอที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่คล้ายกันคือการเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ลึกขึ้นโดยเน้นไปที่ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และอะไรที่สามารถดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายให้สามารถอยู่ในหน้าโฆษณาได้นานขึ้น และอาจสามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจในขั้น Consideration ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้อาจจะต้องมีความสอดคล้องกับ Social Media Policy หรือเรียกอีกอย่างว่ากฎหมายและนโยบายชุมชน โดยสามารถยกตัวอย่างได้ ดังนี้
1. Brand : ชุดชั้นใน
Audience : เพศชาย หรือ เพศหญิง ช่วงอายุ 25-45 ปี
Interest : กลุ่มคนที่ต้องการซื้อชุดชั้นใน หรือ กลุ่มคนที่สนใจคอนเทนท์ที่เป็น Sensual ที่แสดงให้เห็นถึง Body ของแต่ละเพศ ซึ่งสามารถดึงดูดได้โดยการทำ Content ให้มองเห็นสรีระที่ชัดเจนของนายแบบและนางแบบ สิ่งนี้จะสามารถแสดงให้เห็นภาพของ Product ได้ชัดเจน และทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
2. Brand : คลินิคเสริมความงามที่มีบริการด้านการกำจัดขนใต้ร่มผ้า
Audience: เพศชาย หรือ เพศหญิง ช่วงอายุ 25-50 ปีInterest : กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนทั่วไป ที่มีความสนใจในด้านของความสะอาดใต้ร่มผ้า หรืออาจจะมีความสนใจในเรื่องของความสวยงามใต้ร่มผ้าเป็นพิเศษ แต่อุปสรรคของการนำเสนอ Content มักจะมีความเสี่ยงในเรื่องของ Social Media Policy ของหลายๆ Platform ทำให้ต้องใช้วิธีการนำเสนอโดยการใช้รูปภาพต่างๆ ที่สื่อให้เห็นความหมายของตัว Product แบบอ้อมๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ของ Social Media Policy เช่น กล้วย ลูกพีช หอย หัวใจ มาใช้ทดแทนในการสื่อความหมายในตัว Product
นี่คือสิ่งที่เราอยากมาแชร์ในบทความนี้ ตั้งแต่เคล็ดลับการปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น ไปจนถึงวิธีการสื่อสารที่ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคโดยไม่ละเมิดกฎระเบียบของแพลตฟอร์ม และคำนึงถึงความเหมาะสมทางสังคมและวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านหรือภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อแบรนด์ ทำให้การทำการตลาดสายเสียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำ ไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจในระยะยาวให้กับแบรนด์ด้วย