จากร้านเล็กสู่เชนซูชิระดับประเทศ: จุดเริ่มต้นของ Shinkanzen Sushi

          Shinkanzen Sushi เริ่มต้นจากร้านซูชิขนาดเล็กที่ตั้งใจนำเสนอซูชิคุณภาพดีในราคาที่ไม่แพงมาก เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเชนร้านซูชิที่รู้จักกันทั่วประเทศ ด้วยคอนเซปต์ “ราคาเบา แต่โตแรง” ที่จับใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม

          จุดเด่นของ Shinkanzen คือการรักษาคุณภาพวัตถุดิบและความสดใหม่ในทุกชิ้นซูชิ พร้อมทั้งคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ และข้าวซูชิที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การทานซูชิพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงง่าย

กลยุทธ์ราคาและคุณภาพ: ซูชิพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้

          หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Shinkanzen เติบโตเร็วคือการตั้งราคาให้เหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยยังคงคุณภาพระดับพรีเมียมไว้ได้อย่างไม่ลดทอน ราคาที่ไม่แพงเกินไปช่วยให้ลูกค้ากล้าที่จะลองและกลับมาซื้อซ้ำ นอกจากนี้ Shinkanzen ยังออกแบบเมนูให้หลากหลาย ครอบคลุมทั้งซูชิแบบดั้งเดิมและเมนูฟิวชันที่ตอบโจทย์รสนิยมคนไทย เช่น ซูชิแซลมอนย่างซอส หรือข้าวปั้นหน้าต่าง ๆ ที่ถูกใจทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่

          การรักษาคุณภาพวัตถุดิบถือเป็นหัวใจของธุรกิจ ด้วยการร่วมมือกับซัพพลายเออร์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล เช่น Seafood Suppliers ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points) และ GAP (Good Agricultural Practices) ซึ่งช่วยรับประกันความปลอดภัยและความสดใหม่ของอาหาร 

         นอกจากนี้การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถตั้งราคาที่จับต้องได้ โดยไม่ต้องลดคุณภาพ ทำให้ Shinkanzen กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของลูกค้าที่ต้องการอาหารญี่ปุ่นคุณภาพในราคาย่อมเยา

ขยายสาขาเร็วแต่มั่นคง: โมเดลธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืน

          Shinkanzen ใช้โมเดลธุรกิจที่เน้นการขยายสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากพื้นที่ที่มีความต้องการสูง เช่น ย่านสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และย่านชุมชนที่มีคนเดินพลุกพล่าน การขยายสาขาไม่ได้ทำแบบรีบร้อน แต่เลือกทำเลที่เหมาะสมเพื่อให้สาขานั้น ๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและมีกำไร จากนั้นจึงใช้ข้อมูลจากสาขาเดิมในการปรับปรุงเมนูและการบริการก่อนขยายสาขาใหม่

          อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ Shinkanzen เติบโตอย่างยั่งยืน คือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบ POS (Point of Sale) ที่ช่วยติดตามยอดขายและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า รวมถึงระบบสต็อกสินค้าอัตโนมัติ เพื่อลดความสูญเสียจากวัตถุดิบเสียหาย และการฝึกอบรมพนักงานให้มีมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขา ช่วยรักษาคุณภาพการบริการและรสชาติของอาหารไม่ให้แตกต่างกันมากเกินไป ส่งผลให้ลูกค้ามีความมั่นใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ

การตลาดที่เข้าใจคนรุ่นใหม่: ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึง Shinkanzen

         หนึ่งในความสำเร็จของ Shinkanzen คือการเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ชอบแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ผ่านโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ TikTok

         Shinkanzen ใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่เน้นการสร้างคอนเทนต์น่าสนใจ เช่น คลิปทำซูชิ เทคนิคการทานซูชิ หรือโปรโมชั่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมรีวิวหรือแจกของรางวัลผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง Shinkanzen ยังใช้ Influencer Marketing ร่วมกับบล็อกเกอร์และยูทูบเบอร์ชื่อดังในวงการอาหาร เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างรวดเร็ว การตอบรับจากลูกค้าอย่างรวดเร็วและใส่ใจบริการหลังการขาย ทั้งในร้านและช่องทางออนไลน์ สร้างความประทับใจและช่วยเพิ่มความภักดีของลูกค้าได้ดีมาก

สรุป

          ​​Shinkanzen Sushi คือกรณีศึกษาที่ดีของร้านอาหารที่เริ่มจากร้านเล็ก ๆ ด้วยกลยุทธ์ราคาเบาแต่คุณภาพสูง ขยายสาขาอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมกับใช้การตลาดยุคดิจิทัลที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ จึงไม่แปลกใจที่ Shinkanzen จะเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเชนซูชิระดับประเทศในเวลาไม่นาน หากคุณอยากให้แบรนด์ของคุณ “โตแบบมีระบบ” เหมือน Shinkanzen ทีม Foretoday พร้อมช่วยออกแบบกลยุทธ์ Branding และ Performance Marketing แบบครบวงจร

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่: https://foretoday.asia/