การใช้ Storytelling คือหลักการและวิธีสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์และผู้ชมผ่านการเล่าเรื่องราวที่จับใจ การเล่าเรื่องที่ดีสามารถเพิ่มยอดขาย สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ และทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับสินค้าหรือบริการได้ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับเทคนิคการสร้าง Storytelling ที่ช่วยให้การตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพและเข้าถึงหัวใจผู้ชมได้มากที่สุด
Table of Contents
ToggleStorytelling กลยุทธ์การตลาดด้วยการเล่าเรื่อง
Storytelling Marketing คือศาสตร์การเล่าเรื่องราวโดยยึดหลักความคิด ความเชื่อ และแนวคิด โยงเข้ากับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน สร้างความน่าสนใจกับความสงสัยใคร่รู่ชวนตั้งคำถามในสิ่งที่ผู้ชมล้วนได้สัมผัส แล้วส่งต่อเรื่องราวเหล่านั้นออกไป ซึ่งในปัจจุบัน การ Storytelling ได้แฝงอยู่ในชีวิตของเราอย่างแนบเนียน ตัวอย่างเช่นโฆษณาบนทีวี ละครซีรีย์ ภาพยนตร์ หรือวิดีโอเกมเป็นต้น และเป็นทักษะที่มนุษย์เราทุกคนมีกัน อย่างการเล่าเรื่องที่เจอในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียนก็ถูกนับเหมือนกัน แล้วจะต้องเล่าอย่างไรให้สามารถสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายสินค้าบริการของธุรกิจ พร้อมกับเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความลึกซึ้งน่าสนใจ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการรับทำ SEO โดยใช้หลักการ Storytelling รวมถึงการเขียน Storytelling ให้สามารถเข้าถึงหัวใจของผู้คนได้ต้องทำอย่างไร
ทำไม Storytelling คือสิ่งที่มีความสำคัญกับธุรกิจในยุคสมัยนี้ ?
ปัจจุบัน Storytelling ได้เข้ามามีส่วนช่วยส่งเสริมในการขายเป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบการขายสินค้าสองแบบ โดยที่แบบแรกคือการตั้งแผงแล้ววางของไว้เฉย ๆ พร้อมกับป้ายราคาหรืออาจใส่สรรพคุณลงไปเล็กน้อย กับแบบที่สอง คือการนำเสนอสรรพคุณของสินค้าว่ามีความเป็นมาอย่างไร สามารถช่วยแก้ไขปัญหาอะไรในชีวิตของผู้ซื้อได้ คิดว่าแบบไหนน่าสนใจกว่า แน่นอนว่าก็คงไม่พ้นแบบที่สองใช่ไหม เพราะการเล่าเรื่องสามารถเชื่อมโยงเข้ากับความรู้สึกได้ดีกว่าการวางและโชว์ให้เห็นเฉย ๆ นอกจากเพิ่มยอดขายแล้ว ก็ยังเพิ่มความมีเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ด้วย
5 องค์ประกอบของ Storytelling
มีผู้เล่าย่อมต้องมีผู้ฟัง และเนื้อหาสาระที่สำคัญไม่แพ้กันไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เลย แล้วในการสร้างเรื่องราวให้ลื่นไหลและสวยงามขึ้นมาได้หนึ่งเรื่องนั้นจะมีองค์ประกอบอะไรบ้างมาดูกัน
- Character
ในทุกเรื่องเล่าจะต้องมีตัวละครเป็นอย่างน้อยหนึ่งตัวขึ้นไปในการดำเนินเรื่องราว เช่นเดียวกันกับภาพยนตร์หรือละครซีรีย์ที่ต้องมีตัวเอกในการนำทางเราไปสู่จุดจบ สำหรับการทำ Digital Marketing ตัวละครในเรื่องมักจะเป็นตัวเจ้าของกิจการเอง หรือเป็นคนธรรมดาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบางอย่าง - Plot
มีแต่ตัวละครแล้วก็ยังคงไม่เพียงพอ การมีโครงเรื่องช่วยในการกำหนดทิศทางของเรื่องเล่าจะทำให้เกิดความลื่นไหลในการเล่าเรื่องมากยิ่งขึ้น ลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังแต่ไม่จำเป็นต้องเล่าแบบ 1-2-3 เป็นเส้นตรงเสมอไป แล้วสร้างสถานการณ์ที่ทำให้ตัวละครเกิดการเปลี่ยนแปลง - Conflict
หากตัวละครเดินไปในเส้นตรงอย่างสะดวกราบรื่นมากเกินไปมันก็คงจืดซืดน่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้น่าลุ้นน่าติดตามให้กำลังใจ ไร้คำว่ารสชาติของชีวิต ดังนั้นการมีจุดหักเหเป็นปมปัญหาและอุปสรรคให้กับตัวละคร จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือกับความประทับใจ เป็นอารมณ์ร่วมเมื่อตัวละครประสบความสำเร็จ - Theme
โครงเรื่องที่ไร้ซึ่งแก่นสาร หรือไม่มีความโดดเด่นมากพอ อาจทำให้ผู้ชมไม่สามารถจับใจความในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อออกไปได้ จึงควรที่จะกำหนด Theme หรือแนวคิดของเรื่องราวให้ชัดเจน แล้วขับออกมาให้เด่นชัดที่สุด ผ่านเรื่องที่เล่าออกไปเช่น การทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งโดยใช้หลัก “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” - Setting
การกำหนดฉากทั้งเวลาและสถานที่ ที่ทำให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวาและจับต้องได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งเลือกใช้ฉากที่สามารถช่วยขับเอกลักษณ์ของ Theme ได้ ก็ยิ่งจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อได้ดียิ่งขึ้น
เคล็ดลับการตลาดออนไลน์แบบ Storytelling
พอรู้จักกับองค์ประกอบทั้ง 5 เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการเขียน Storytelling แล้ว มาดูกันดีกว่าว่าเราจะสร้างความประทับใจผ่านการเล่าให้แก่ผู้ชมได้อย่างไร และนี่คือเทคนิคที่จะช่วยให้การ Storytelling ของแบรนด์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- อ่านกลุ่มเป้าหมายให้ออก
ก่อนที่จะเริ่มร่างโครงเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ระดับการศึกษา ความสนใจ รวมทั้งพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เพื่อให้รุ้ว่าควรที่จะเล่าออกมาในทิศทางไหนจากความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย หรืออาจเป็นการนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่พวกเขาเจอกันในทุกวัน - กำหนดเป้าหมายในการเล่าเรื่อง
หลังจากวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็วางแผนในการเล่าเรื่องต่อ เช่นเล่าเรื่องประวัติผู้ก่อตั้งธุรกิจว่าก่อนที่จะมีมาแบบทุกวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคแบบไหนมาบ้าง รวมถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ หรืออาจเป็นการเล่าเกี่ยวกับขั้นตอนการความเป็นมาของสินค้าและบริการ - วางโครงเรื่อง เนื้อหา และกำหนดช่องทางการสื่อสาร
เมื่อมีเป้าหมายแล้ว การเตรียมเนื้อหาที่จะเล่าออกไปยังผู้ชมก็จะมีความง่ายขึ้น ลองกำหนดโครงเรื่องและเนื้อหาที่ต้องการเล่าออกมา อย่าลืมวางแผนว่าจะสื่อสารกับกลุ่มผู้ชมผ่านช่องทางไหน เพราะแต่ละช่องทางก็จะมีประเภทของคอนเทนต์ที่ต้องการนำเสนอแตกต่างกันไป - วัดผลเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเล่าเรื่อง
การทำ Digital Marketing ทุกรูปแบบจำเป็นต้องมีการวัดผล และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เราสื่อสารออกไปนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าต้องการเพิ่มตรงจุดไหนก็จะสามารถปรับแต่งแนวทางการทำโฆษณาในครั้งต่อไปได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ตัวอย่างเทคนิค Storytelling Marketing ที่น่าสนใจ
- แบบ Before – After – Bridge
คือการแสดงปัญหาให้ผู้ชมรับรู้ แล้วแสดงให้เห็นต่อว่าหลังก้ปัญหาแล้วผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน พร้อมทั้งสื่อว่าต้องทำอย่างไรถึงจะไปจุดนั้นได้ เปรียบเสมือนกับการสร้างสะพานเชื่อน จากปัญหาไปสู่ผลลัพธ์หลังจากแก้ไขในระหว่างทางเดินบนสะพาน - แบบ Problem-Agitate-Solve
เป็นการเล่าเรื่องที่เน้นไปในด้านการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่กำลังกวนใจรวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ซึ่งสามารถใช้นำเสนอในส่วนของสินค้าได้เป็นอย่างดี และทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นว่าสิ่งที่เรากำลังจะขายนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง - แบบ Three – Act Structure
จะเป็นรูปแบบการเล่าเรื่องที่มีอยู่ 3 เสต็ป เริ่มจากการที่แนะนำตัวละครกับประเด็นที่เกิดขึันในเรื่อง จากนั้นก็มาที่ฉากที่ 2 จะเป็นการสู้ฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาของตัวละคร จบด้วยฉากที่ 3 ที่ยืนหยัดในการต่อสู้กับปัญหาจนก้าวข้ามไปได้ในท้ายที่สุด
ร่วมรังสรรค์เรื่องราวด้วยการเล่าเรื่องไปด้วยกันกับพวกเรา
การทำ Storytelling Marketing คือสิ่งสำคัญในการช่วยเพิ่มผลักดันยอดขายให้ไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น หากเล่าได้อย่างตรงจุด โดนใจกลุ่มเป้าหมายอย่างมีกลยุทธ์ นอกจากจะช่วยสร้างผลกำไรแล้ว ก็ยังสามารถที่จะทำให้ผู้ชมอินไปกับตัวตนและความเป็นมาของแบรนด์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น มากพอที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการในอนาคตได้ และแน่นอนว่าที่ ForeToday ของเราสามารถทำคอนเทนต์และออกแบบไอเดียด้วยการผสานการตลาดแบบเล่าเรื่องลงไป ไม่ว่าจะเป็นการรับทำ SEO การทำกราฟิก และคอนเทนต์วิดีโออย่างมีประสิทธิภาพ และไว้มาร่วมขีดเขียนเรื่องราวของวันพรุ่งนี้ไปด้วยกันกับพวกเรา