ROI หรือ Return on Investment คืออัตราส่วนการหาค่าผลตอบเเทนจากการลงทุน ที่เปรียบเทียบระหว่างเงินทุน กับ กำไรที่ได้กลับมาจากการลงทุน ซึ่งจะเป็นอัตราส่วนค่าทางการเงินสีใช้เเสดงความสามารถในการหากำไรจากเงินทุน ว่าการลงทุนของคุณ ได้ผลตอบเเทนกลับมากี่เปอเซ็นต์
นอกจากนี้ การใช้ค่า ROI อีกเเบบ คือการนำไปใช้ในการวางเเผนเลือกการลงทุนใน Project ต่างๆ ว่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้
วิธีหาค่า ROI จากการลงทุน
สามารถหาได้จากกำไรเเละเงินทุนด้วยสูตร ROI = ( กำไร หาร เงินทุน )x 100สำหรับกำไร จะมาจากรายได้เเละหักออกด้วยเงินต้นทุน ( กำไร = รายได้ – ต้นทุน )ค่า ROI ที่ได้จะมีหน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์ซึ่ง ค่าที่ได้ควรจะมีผลออกมาเป็นบวกเเละมีค่าที่มากค่า ROI ที่มาก หมายความว่าสามารถสร้างกำไรได้มากจากเงินทุนก้อนนั้นๆ หรือเรียกว่าใช้เงินทุนสร้างกำไรได้คุ้มค่า เเต่ในทางกลับกัน ค่า Roi ที่น้อยกว่า จะหมายความว่าการลงทุนครั้งนี้สร้างกำไรได้น้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นของการลงทุนนั่นเองเเละนอกจากนี้ ในกรณีที่ค่า ROI ออกมาติดลบ จะหมายความเงินทุนก้อนนั้นๆ ไม่สามารถสร้างกำไรได้ หรือเรียกง่ายๆว่าขาดทุนนั่นเเหละ
ยกตัวอย่าง การคำนวณค่า ROI
บริษัท XXX ซื้อโฆษณาจากสื่อ เป็นมูลค่า 1 ล้านบาทไทยในระยะเวลา 1 เดือน โดยการลงโฆษณาดังกล่าว ค่าจากสถิติคือโฆษณาสามารถทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าได้ประมาณ 20เปอร์เซ็นต์ ของคนทั้งหมดที่เห็นโฆษณา ซึ่งสามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้เป็นเงินจำนวณ 1 ล้าน 9 เเสนบาท
จากตัวอย่างข้างต้น สูตร ROI จะออกมาเป็น ROI = ( 1,600,000/1,000,000 ) = 160% ค่า ROI จะเท่ากับ 160 % นั่นหมายความว่าบริษัทจะทำกำไรได้ 160% จากการลงโฆษณาดังกล่าว หรือพูดง่ายๆ คือในการลงทุน ทุกๆ 100 บาท จะส่งผลให้บริษัทได้กำไร 160 บาท นั่นเอง
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”