ปัจจุบัน โฆษณาของ Google นั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก และแบบนึงที่ทุกคนน่าเคยจะเห็นกันประจําเเต่อาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันเหมือนโฆษณามากเท่าไหร่ นั้นเพราะจุดเด่นของตัวโฆษณาที่เราจะเเนะนํากัน คือการที่มันแนบเนียนไปกับ content ซึ่งการโฆษณาตัวนี้เรียกว่า Goolgle Discovery Ads
ซึ่งวันนี้เราจะมาทําความรู้จักเจ้าโฆษณาตัวนี้กัน พร้อมทั้งวิธีสร้าง campaign และ การ set up กลุ่มลูกค้าที่ต้องการให้โฆษณาเข้าถึงกันครับ
Discovery Ads คืออะไร
Discovery ad เป็นโฆษณารูปแบบนึงที่มีลักษณะคล้าย Facebook Feed มีภาพและข้อความอธิบายที่ดึงดูดลูกค้าและแนบเนียนไปกับเนื้อหาต่างๆ และสามารถเลือกกลุ่มลูกค้า (Audience) ที่เราต้องการให้เห็นโฆษณาได้โดยอ้างอิงจากความสนใจ หรือ สิ่งที่ลูกค้าค้นหาในส่วนของการกำหนด Targeting กลุ่มเป้าหมายที่อิงจากความสนใจ จาก In-Market และ Custom-Intent หรือการทํา Re-marketing (เช่น กลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บเรา) ซึ่งจะมีความคล้ายกับการทํา Facebook ads ที่ใช้การ targeting ด้วย interest ของคน
Discovery Ads จะไปแสดงผลที่ไหนบ้าง
หลักๆ แล้วตัว Discovery Ads จะแสดงผลใน 3 ที่
1. หน้า Homepage ของ Youtube ที่เป็น Feed
2. ใน Application Google ในมือถือจะอยู่ในหน้า Discover
3. ใน Gmail จะอยู่ในแท็บ Promotions และ Socials
วิธี Set up แคมเปญ Discovery Ads
1. การ Set up แคมเปญ discovery สามารถกดเครื่องหมาย “+” ใน Google Ads เพื่อสร้างแคมเปญได้เลย โดย objective ที่สามารถเลือกใช้ discovery campaign ได้คือ Sales, Leads และ Website traffic หรืออาจจะยังไม่เลือก goal เลยก็ได้ หลังจากนั้นกด continue เพื่อไปตั้งค่าหน้าถัดไปได้เลย
2.ตั้งชื่อแคมเปญแล้ว set up
– locations
– languages
– Bidding สามารถเลือกbidding ได้เป็น Maximize conversions หรือ Target CPA
– Budget
นอกจากนั้นยังสามารถ set Additional Settings ad schedule, start and end dates, URL ฯลฯ
3. Set up ad group โดย Audiences ที่เลือกได้มีทั้ง Demographics และ Detailed targeting รวมถึง Remarketing Audiences
4. Create ads ได้ทั้งแบบ single image และ carousel ใส่รูปภาพ, Logo, Headline, Description และ Final URL เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
สรุป
Google Discovery Ads นั้นมีประโยชน์มากในการทําโฆษณาที่เน้นสร้าง Awareness เพราะ โฆษณาอันนี้ถูกเเสดงไว้ในหลายๆที่ที่มีคนเห็นค่อนข้างเยอะ โดยทาง Google นั้นเคลมว่ามันสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานมากกว่า 3,000 ล้านคน และมันยังสามารถเลือก targeting คนตามความสนใจ หรือ เเม้เเต่คนที่ค้นหาสินค้าของเราโดยตรงเลยก็ได้ พร้อมทั้งรูปและ call to action ที่จะดึงลูกค้าเข้ามาสู่สินค้าของเรา
ถ้าใครชอบบทความแบบนี้ก็ฝากติดตามทาง Foretoday กันด้วยนะครับ และพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้หากมีตรงไหนที่สงสัยก็สามารถติดต่อมาได้เลยนะครับ
“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”
“A better tomorrow starts today”
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “