Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

Cha Tra Mue ครองใจคนรุ่นใหม่ ด้วยชาไทยสูตรคลาสสิก

ชาตรามือครองใจคนรุ่นใหม่ ด้วยชาไทยสูตรคลาสสิก

ชาไทยไม่เชย ถ้ารู้จักรีแบรนด์ให้เท่ทันยุค

          เมื่อผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจกับเครื่องดื่มสุขภาพที่มีสไตล์และนวัตกรรมมากขึ้น เช่น กาแฟ Third Wave ที่เน้นคุณภาพและความพิถีพิถันในการชง ชาเขียวมัทฉะแท้จากญี่ปุ่นที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติทางสุขภาพ และน้ำผลไม้ Cold Pressed ที่รักษาสารอาหารครบถ้วนโดยไม่ผ่านความร้อน แบรนด์เครื่องดื่มดั้งเดิมของไทยอย่าง “Cha Tra Mue” หรือ “ชาตรามือ” สามารถปรับตัวอย่างชาญฉลาดทั้งในด้านการรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมและการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แบรนด์นี้ยังคงครองใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องและกลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในด้านกลยุทธ์การตลาดและการรีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในยุคปัจจุบัน

          แบรนด์ใช้กลยุทธ์รักษา “แก่นแท้” ของผลิตภัณฑ์คือรสชาไทยดั้งเดิมที่เข้มข้น หวานมัน กลมกล่อม ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้มีความร่วมสมัย โดยเฉพาะการออกแบบแพ็กเกจใหม่ การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล และการขยายไลน์สินค้าให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มเป้าหมายใหม่อย่าง Gen Z และ Millennials

โลโก้แดงในตำนาน กลายเป็นไอคอนใหม่ของ Gen Z

          โลโก้สีแดงทองที่เคยสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าแบบ “บ้าน ๆ” หรือภาพจำในอดีตที่ดูเรียบง่ายและไม่โดดเด่น กลับกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกตีความใหม่ในมุมมองของสไตล์วินเทจ (Vintage Style) ที่มีความเก๋ไก๋และแตกต่างอย่างมีรสนิยมสูง ในกระบวนการรีแบรนด์นี้ แบรนด์ได้เลือกใช้แนวคิด “Retro Authenticity” ซึ่งมุ่งเน้นการรักษาอัตลักษณ์และความคลาสสิกดั้งเดิมไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้นำเสนอผ่านการปรับเปลี่ยนและตีความใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัยสมัยใหม่อย่างลงตัว ผ่านการวางแผนและจัดวางคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทันสมัย มีสุนทรียภาพ และตอบโจทย์รสนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมป๊อปที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ทั้งน่าสนใจและสร้างความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

          การเลือกแพลตฟอร์มก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการปรับกลยุทธ์ของชาตรามืออย่างมาก เช่น การสร้างชาเลนจ์ชาไทยใน TikTok ที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความนิยม แต่ยังทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ผ่านการทำคลิปสั้น ๆ ที่สร้างสรรค์และสนุกสนาน การออกแบบร้านให้มีมุมถ่ายรูปที่โดดเด่นและอินเทรนด์สำหรับลง Instagram ช่วยให้แบรนด์กลายเป็นจุดเช็กอินที่คนรุ่นใหม่ต้องมาเยือนและแชร์ประสบการณ์ อีกทั้งการทำคลิปเบื้องหลังการผลิตใน YouTube Shorts ยังช่วยเล่าเรื่องราวความใส่ใจในกระบวนการผลิต และความเป็นเอกลักษณ์ของชาไทยซึ่งเชื่อมโยงอารมณ์และประสบการณ์ของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและแยบยล การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมนี้ทำให้ชาตรามือสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและซับซ้อนได้มากขึ้น ทั้งในแง่ของความรู้สึกและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

จากถุงฟอยล์สู่ซอฟต์เสิร์ฟ: ชาตรามือไม่ได้ขายแค่ชา

          หนึ่งในหัวใจสำคัญของความสำเร็จที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย คือการเข้าใจลึกซึ้งถึงบทบาทของ “ประสบการณ์การบริโภค” ที่มีอิทธิพลมากยิ่งกว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว Cha Tra Mue ได้ขยายขอบเขตความนิยมของชาไทยให้ก้าวไกลออกไปอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน แต่ยังสร้างความตื่นเต้นและแรงดึงดูดในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสชาไทยที่ผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมกับความนุ่มละมุนของซอฟต์ครีม ชานมไข่มุกสูตรเฉพาะที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากตลาดทั่วไป ชามัทฉะที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากฟาร์มญี่ปุ่นชั้นนำ รวมไปถึงเบเกอรี่และขนมหวานฟิวชันที่ผสมผสานองค์ประกอบของชาไทยเข้ากับวัฒนธรรมการกินสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าและขยายกลุ่มเป้าหมายของ Cha Tra Mue เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรและมีความหมายสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม

          การขยายไลน์เช่นนี้ไม่เพียงเพิ่มยอดขายจากหลายหมวดหมู่ แต่ยังช่วยขยายตลาดไปสู่ผู้บริโภคใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการ “Taste of Thailand” ในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย และกลุ่มคนเมืองที่มองหาความแปลกใหม่ในรูปแบบครีเอทีฟ

เมื่อรสชาติคลาสสิกผสมกับไลฟ์สไตล์ใหม่ได้ลงตัว

          แม้จุดแข็งของ Cha Tra Mue จะอยู่ที่รสชาติชาไทยสูตรดั้งเดิมที่คุ้นเคยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แบรนด์จึงได้ตอบสนองด้วยการพัฒนาเมนูทางเลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น สูตรหวานน้อยที่ลดปริมาณน้ำตาลลงอย่างเหมาะสม เครื่องดื่มน้ำตาลต่ำที่เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ นมทางเลือกที่หลากหลาย เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง และนมออร์แกนิก รวมถึงการใช้ใบชาที่คัดสรรจากฟาร์มที่มีแนวทางการปลูกแบบยั่งยืน (Sustainable Farming) ซึ่งคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติชาไทยที่คงความคลาสสิก พร้อมทั้งตอบสนองไลฟ์สไตล์และค่านิยมใหม่ในยุคปัจจุบันอย่างครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

          พร้อมกันนั้นยังเสริมความสะดวกในการเข้าถึงแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี เช่น Grab, LINE MAN, Robinhood และ Foodpanda ควบคู่กับการทำแคมเปญโปรโมชั่นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้แบรนด์สามารถขยายฐานลูกค้าโดยไม่ต้องลงทุนในหน้าร้านเพิ่มเติม

สรุป                   

การเปลี่ยนผ่านของ Cha Tra Mue สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ไทยในการ “สร้างคุณค่าจากรากเหง้า” โดยไม่ทิ้งรสชาติดั้งเดิม แต่กลับนำเสนอผ่านบริบทใหม่ที่ทันสมัย เชื่อมโยงกับผู้บริโภคในระดับลึก ทั้งเชิงอารมณ์ พฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ หากคุณกำลังมองหาการรีแบรนด์หรือวางกลยุทธ์การตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ Foretoday คือพันธมิตรที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง ด้วยบริการครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล การออกแบบ UX/UI การวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค การวางแผนแคมเปญคอนเทนต์ รวมถึงการทำการตลาดไวรัลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://foretoday.asia/