Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

การวาง Positioning ของธุรกิจ ให้ลูกค้าเลือก ด้วย Digital Marketing

Positioning ของธุรกิจคุณคือการวางตำเเหน่งของ Digital Marketing ในสิ่งที่คุณต้องการให้ลูกค้ารับรู้ในสายตาของตัวลูกค้าและมองเห็นคุณค่าของสินค้านั้นๆ การทำ Positioning ที่ดี จะระบุกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณอย่างชัดเจนและระบุความต้องการเฉพาะที่พวกเขามี (ที่สินค้าของคุณสามารถเติมเต็มได้) เพื่อให้สินค้าของคุณมีจุดเดนและเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆได้ เรียกได้ว่าการวาง Positioning ถือเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเลยทีเดียวหนึ่งในประโยชน์ของ การ Positioning เลยก็คือทำให้สินค้าของเราเข้าไปอยู่ใน Consideration Set ของลูกค้าคือการที่ทำให้ลูกค้านึกถึงสินสินค้าหรือแบรนของเราตอนที่เค้าคิดถึงหรือต้องการซื้อสินค้านั้นๆ เช่น สมมุติว่าเราต้องการที่จะซื้อโทรศัพท์ ที่มีฟังชั่นที่ดีที่สุดในตลาดและแบรนที่น่าเชื่อถือได้ เราก็คงนึกถึง โทรศัพท์อย่าง iPhone หรือ Samsung Galaxy เป็นต้น

แต่สิ่งที่บทความนี้จะพูดถึงคือเราต้องการขยายความการใช้หลักการของการ Positioning ควบคู่ไปกับการใช้หนึ่งในเครื่องมือหลักของ Digital Marketing โดยบทความนี้อ้างอิงจากหนังสือ “Keyword: Positioning – How Search Proves the Principles of Brand Positioning ที่เขียนโดย Mark Vandergrift กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Innis Maggiore ในหนังสือได้พูดถึงในการใช้ Google Adwords หรือ การโฆษณาผ่านตัว search engine ของ Google กับการ Position ของตัวธุรกิจเพื่อที่จะเจาะเข้าไปในความคิดของลูกค้าและทำให้เราเป็นสินค้าที่เค้าจะนึกถึงเมื่อมีความต้องการ

Digital Marketing และ Positioning ทำงานร่วมกันอย่างไร?

Positioning เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสินค้าที่ทําให้คนจําได้ อย่างเช่นที่เราได้ยกตัวอย่างไปใรเรื่องของโทรศัพท์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดก็มักจะนึกถึง Apple iPhone หรือ Samsung Galaxy หรือถ้าเป็นร้านสะดวกซื้อเราก็คงจะนึกถึง 7-11ส่วน Google Search นั้นก็คล้ายกันตรงที่ เมื่อคนมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าใดๆแล้วค้นหาใน Google มันก็จะมีเว็บของสินค้านั้นๆ มาเป็นตัวเลือกให้เรา และรวมไป การศึกษาของ Chitika ในปี 2013 ที่ว่าหน้าแรกของผลการค้นหานั้นจะมีคนกด เข้าไปเป็น 91.5% ของการค้นหาทั้งหมด มากกว่าการแสดงในหน้าที่ 2 เกือบ 20 เท่า!

เพราะฉะนั้นสิ่งการที่เราได้เข้าไปอยู่ในตัวเลือกแรกๆในหน้าแสดงผลการค้นหาของคีย์เวิร์ดที่แสดงถึงสินค้าของเรา มันก็คล้ายกับว่าสินค้าของเรานั้น เข้าไปอยู่เป็นจัวเลือกอันดับต้นๆของคนที่ทำการค้นหาคีย์เวริดที่เกี่ยวกับเรา สรุปก็คือการที่เราจะทำให้สินค้าของบริการเรานั้นได้เข้าไปเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆนั้น จะต้องทำให้ได้ 2 อย่างคือ

  • สร้างคีย์เวิร์ดที่สื่อถึง Position ของเราในความคิดของลูกค้า และมีอันดับในการค้นหาที่ดี
  • การที่เราจะทำให้เว็บไซต์ เว็บเพจ หรือร้านค้าออนไลน์ ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของหน้าแสดงผลการค้นหา

แล้วทำยังไงละให้เราได้เป็น ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของหน้าแสดงผลการค้นหา

จะมีหลักๆอยู่ 2 วิธีที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราเข้าไปติดอยู่อันดับต้นๆของหน้าแสดงผลการค้นหา

1.   Search Engine Optimization (SEO) – เป็นวิธีการปรัปแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้มันมีคุณภาพมากขึ้น โดยที่วิธีนี้มีข้อดีตรงที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาแต่จะทำได้ค่อนค้างยากและต้องใช้เวลา คีย์เวิร์ดและเนื้อหาที่ดีเพื่อที่จะทำออกมาให้ได้อันดับต้นๆ

2.   Search Engine Marketing SEM -คือการทำการตลาดในรูปแบบของการโฆษณา โดยที่จะมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาตามเป้าหมายที่เรากำหนด โดยตัวผลลัพธ์จะอยู่ในอันดับต้นๆของหน้าแสดงผลการค้นหา พร้อมกับคำว่า “Ads” อยู่ในมีช่องเล็ก ๆด้านข้าง โดยจะมีข้อดีคือ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว แต่ก็จะต้องแลกกับการที่เราจะเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและตัวราคาจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันด้วยเราแนะนำทั้ง 2 วิธีนี้นั้นควรจะถูกทำควบคู่กันไป พร้อมกับการสร้างคีย์เวริดที่ดีที่มีคนค้นหาเป็นจำนวนมากและเป็นคำค้นหาที่มันจะตอบโจทย์ การวาง Position ของเราที่ลูกค้ารับรู้

สรุป

หน้าแสดงผลการค้นหาใน Google มันก็เหมือนกับความคิดในหัวของเรา เวลาเราคิดถึงของที่เราอยากจะซื้ออย่างนึงเราใส่รายละเอียดที่อยากได้ลงไปแล้วก็กด Enterและเมื่อธุรกจิของคุณ มีพร้อมด้านสินค้าและบริการที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การที่ทำ Digital Marketing นั้นก็จะสามารถทำให้เราถูกรู้จัก จดจำและเกิดการซื้อขึ้นในที่สุด และการจะทำให้เราเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในใจลูกค้านั้นก็ไม่ได้ไกลเกินเลยและถ้าคุณต้องการอ่านบทความที่ให้ความรู้ดีๆแบบนี้อีกอย่าลืมติดตามเพจ ForeToday หรืออยากมีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ก็สามารถปรึกษากับเราฟรีได้ที่  

Facebook https://www.facebook.com/FORETODAY

หรือ ที่

Line@ bit.ly/ForeToday

“วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้”

“A better tomorrow starts today”