เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินคำว่า Affiliate Marketing ที่เป็นหนึ่งในวิธีการทำการตลาดที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นในปี 2023 นี้ โดยวันนี้ทาง Foretoday ได้มีโอกาสไปฟังในงาน CTC 2023 เกี่ยวกับประเด็นนี้โดยเฉพาะค่ะ โดยได้รับเกียรติจากทั้ง 2 ท่านคือคุณ ธนาวัฒน์ มาลาปุปผา Co-founder and Ceo of Priceza และ คุณพลาวุฒิ เจริญจิตมั่น Managing Director at Micron Group Co.,LTD มาแชร์ประสบการณ์จากการทำ Affiliate Marketing ให้ฟังกันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปสรุปประเด็น เราจะพาไปดูกันก่อนค่ะ Affiliate Marketing คืออะไร?
Affiliate Marketing
คือ การทำการตลาดแบบมีคนมาช่วยเราขาย โดยเรานำสินค้าที่เราต้องการจะขายไปไว้ในพื้นที่ ๆ หนึ่ง (หน้า Landing Page หนึ่ง) ที่ใคร ๆ ก็สามารถที่จะมาเลือกสินค้าของเราไปขายได้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรืออินฟลูเอนเซอร์ โดยจะมีการสร้างตัว Unique Link ของแต่ละคน เพื่อที่เจ้าของแบรนด์หรือเจ้าของสินค้าจะสามารถติดตามยอดขายได้ โดยค่าตอบแทนจะเป็นส่วนแบ่งทางการขายหรือ Commission Rate ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นร้านที่กำหนดไว้
ข้อดีของการทำ Affiliate Marketing
- ได้คอนเทนต์ในการโปรโมทสินค้า
- ทุก ๆ คนที่มีการหยิบสินค้าของเราไปโปรโมท จะต้องมีการคิดรูปแบบในการนำเสนอว่าทำอย่างไรจะน่าสนใจ ทำอย่างไรจะแตกต่างจากคนอื่นและทำอย่างไรที่จะสามารถขายสินค้าผ่านลิงก์ของเราได้ โดยทางแบรนด์จะได้คอนเทนต์มากขึ้นเป็นเท่าตัวและมีความหลากหลายมากขึ้นด้วย
- ได้ยอดขายที่โตขึ้นในงบประมาณที่ต่ำ
- โดยคุณพลาวุฒิจากทาง Micron Group ได้ยกตัวอย่างเสริมว่า ในแง่ของแบรนด์บางครั้งเราอยากที่จะทำการโปรโมทสินค้า จะต้องวิ่งไปตามหา Performance Agency ที่ไม่สามารถจะตกลงยอดขายกับทางแบรนด์ได้ แต่การทำ Affiliate Marketing เราสามารถที่จะกำหนดได้ว่า ถ้าเราลงเงินไปจำนวนหนึ่ง แล้วจะได้กลับมาเท่าไหร่ ซึ่งเราสามารถควบคุมงบประมาณได้ อีกทั้งในทุกวันนี้กลายเป็นว่าในยอด 100% ยอดขายออนไลน์ กลายเป็น 30% จากยอดขายมาจาก Affiliate
- เพิ่มการรู้จักของแบรนด์ในวงกว้าง
- สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่แบรนด์ได้กำไรเต็ม ๆ เนื่องจากว่าทุกวันนี้มีจำนวนอินฟลูเอนเซอร์เยอะมากและค่าใช้จ่ายในการที่จะจ้างอินฟลูเอนเซอร์ก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นการทำ Affiliate Marketing เราอาจจะนำลิงก์ไปให้กับคนที่มีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ ใน Facebook Group อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงในแวดวงกว้าง เช่น แต่งบ้านมินิมอล จัดสวนหรือรีวิวสกินแคร์ ก็สามารถทำให้คนในกลุ่มได้รู้จักแบรนด์ได้ด้วยเช่นกัน อีกอย่างหนึ่งคือคนที่รีวิวสินค้าสมัยนี้ มีการโปรโมทรีวิวที่เน้นความจริงใจต่อผู้บริโภค ที่ทำให้คนที่เห็นคอนเทนต์นั้น ๆ มีความเชื่อถือแบรนด์มากยิ่งขึ้นด้วย ไม่คิดว่าเป็นการยัดเยียดการขายจนเกินไป
- สามารถนำกลุ่มคนเหล่านั้น มา Retargeting ได้
- เวลาเราทำ Affiliate Marketing เราจะมีการ Tracking เพื่อติดตามผล ซึ่งเราสามารถเอาผลจากการที่เรา Tracking มา Retargeting เพื่ออัพสเกลกลุ่มลูกค้าของเราขึ้นได้อีก เช่น Engagement ของโพสต์นั้น ๆ หรือ Website Traffic
ขั้นตอนการทำ Affiliate Marketing ให้มีประสิทธิภาพ (จากคุณธนาวัฒน์ Priceza)
- กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน : Define Your Goals
- ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าแบรนด์ของเราต้องการอะไร เช่น Awareness , Leads หรือ Sales เพื่อที่จะได้กำหนดตัวชี้วัดได้อย่างถูกต้อง
- กำหนดค่าตอบแทน : Set Up Incentives To Reward Value
- กำหนดค่าตอบแทนให้ชัดเจนว่าเราจะให้ค่า Commission Rate เท่าไหร่ แต่ควรที่จะกำหนดให้ทางแบรนด์ยังได้กำไรอยู่ ไม่จำเป็นจะต้องตามคู่แข่ง เพราะต้นทุนและยอดขายของแต่ละแบรนด์ไม่เท่ากัน
- เลือกอินฟลูเอนเซอร์ให้ตอบโจทย์เป้าหมาย : Recruit Influencers According to the Goals
- ในแง่ของแบรนด์อาจจะไม่ได้เลือกอินฟลูเอนเซอร์เพื่อยอดขายอย่างเดียว จ้างเพื่อมาช่วยทำยอดขาย แต่เป็นการสร้าง Relationship ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์ด้วยหรือเรียกอีกอย่างว่า Business to Influencer (B to I) เพื่อที่จะทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อที่ในอนาคตทางอินฟลูเอนเซอร์ก็จะเต็มใจ เห็นถึงความจริงใจของเราได้ และช่วยรีวิวต่ออย่างตรงไป ตรงมา และได้ลูกค้าของเค้าตามมาอีกหลายเท่า
- สร้างเครื่องมือติดตามผล : Track and Monitor everything
- ต้องมีโปรแกมที่สามารถติดตามผลของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนสร้างยอด สร้างตัวเลขแต่ละตัววัดผลของเรามากน้อยแค่ไหน เช่น บางคนเกิดยอดคลิกเยอะมาก แต่ไม่เกิดยอดขาย จะได้รู้ว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนเหมาะกับ Marketing Funnel ไหน คนไหนคือตัว Top Influencer ยิ่งไปกว่านั้น คุณพลาวุฒิพูดเสริมว่า “ถ้าเรามีตัวเลขของ Data เราสามารถกำหนด Target ให้กับทีมของเราได้ มีตัวชี้วัดที่แม่นยำขึ้นได้”
- พัฒนาคนที่โดดเด่นของแบรนด์ : Scale the Top Performers
- เมื่อเรามีข้อมูลจากข้อ 4 แล้ว เรานำคนเหล่านั้นมาพัฒนาต่อได้ว่ายอดชี้วัดยังมีจำนวนเลขที่ใกล้เคียงเดิมหรือไม่ ถ้าหากมียอดที่ตกลงเราก็จะต้องมีการแนะนำกับ Top Performers ว่าทำอย่างไรจะสามารถทำให้ตัวเลขในตัวชี้วัดต่าง ๆ ยังดีอยู่
สรุป
จากการที่ได้ฟังทั้ง 2 ท่านได้มาแชร์ประสบการณ์ในการทำ Affiliate Marketing แล้ว ทำให้เรารู้ว่ามีการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่เราสามารถที่จะลดต้นทุน และสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องคิดทำเป็นกระบวนการ ที่มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้สามารถนำไปพัฒนาต่อได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือทุกวันนี้ ทุกคนสามารถที่จะเป็น Content Creator ได้ สามารถสร้างรายได้ผ่านช่องทางนี้ได้เหมือนกัน
ถ้าหากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับ Digital Marketing ก็สามารถทักมาถามทาง Foretoday ได้ทุกช่องทางเลย
ใน EP หน้า เราจะเขียนบทความเรื่องอะไร รอติดตามได้เลย!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://thesocialshepherd.com/blog/tiktok-statistics
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today”