
Gentlewoman : กระเป๋าหลักร้อยที่ยึดครองใจคนทั้งเมือง

Solo Dining บูม! ทำไมคนยุคนี้ถึงรักการกินลำพัง
เตือน! ความเสี่ยงของผู้บริโภคในยุค Social Media
Social Media ข้อมูลล้นโลก แต่จริงหรือมั่ว? เสี่ยงโดนหลอกได้ง่าย ในยุคของ Social Media ที่ทุกคนสามารถสร้างและเผยแพร่เนื้อหาได้อย่างง่ายดายเพียงแค่มีสมาร์ตโฟนและอินเทอร์เน็ต ข้อมูลที่ผู้บริโภครับรู้ในแต่ละวันจึงมีปริมาณมหาศาลและมาจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นจากบุคคลทั่วไป ผู้มีอิทธิพลทางความคิด (influencers) นักข่าวพลเมือง หรือแม้แต่จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างเนื้อหาได้แบบอัตโนมัติและรวดเร็ว ซึ่งในด้านหนึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ข้อมูลแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางและเสรี แต่ในอีกด้านหนึ่งก็นำมาซึ่งความท้าทายและความเสี่ยงที่ผู้บริโภคต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะความจริงก็คือว่า “ข้อมูลล้น” ไม่ได้หมายความว่า “ข้อมูลที่ถูกต้องหรือเชื่อถือได้” เสมอไป ข้อมูลบางส่วนอาจมีเจตนาแฝงเร้น บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือถูกปรุงแต่งเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและอิทธิพลทางสังคม ซึ่งหากไม่มีการวิเคราะห์หรือตรวจสอบอย่างรอบคอบ ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ง่าย การรับข้อมูลจำนวนมากโดยไม่มีการกลั่นกรองหรือการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจผิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากรีวิวปลอม หรือแม้กระทั่งการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงออนไลน์ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ เนื้อหาที่ดูเหมือนจริง อ้างอิงบุคคลหรือประสบการณ์จริง หรือใช้ภาพประกอบอย่างมืออาชีพสามารถสร้างความเชื่อถือได้ง่าย จนทำให้ผู้บริโภคลดระดับความระมัดระวังลงโดยไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น การเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะไวรัล (viral...
หุ่นยนต์ในร้านอาหาร: เทรนด์ใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงถาวร?
เพราะคนไม่พอ หุ่นยนต์เลยต้องมาแทน ในบริบทของเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนอย่างรวดเร็ว ประกอบกับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในหลายประเทศ การขาดแคลนแรงงานจึงทวีความรุนแรงและกลายเป็นอุปสรรคเชิงระบบที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจบริการโดยตรง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมร้านอาหารที่มีลักษณะการปฏิบัติงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากและต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของห้องครัว หน้าร้าน และการบริหารจัดการภายในระบบบริการ ทั้งนี้ ภายใต้ความท้าทายดังกล่าว ผู้ประกอบการจำนวนมากจึงเริ่มหันมาพิจารณาและลงทุนใน “เทคโนโลยีหุ่นยนต์” ร่วมกับ “ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ” เพื่อทดแทนการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ที่มีข้อจำกัดด้านจำนวน ประสิทธิภาพ และความต่อเนื่องในการทำงานอย่างยั่งยืน ในสถานการณ์ที่แรงงานมีราคาสูง ไม่เพียงแต่ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าฝึกอบรม ความเสี่ยงจากการลาออกกะทันหัน และคุณภาพการให้บริการที่ไม่เสถียร หุ่นยนต์จึงกลายเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยความสามารถในการทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่เหนื่อย ไม่ต้องพัก และสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าอยากไว เจ้าของอยากแม่น หุ่นยนต์ตอบโจทย์ทั้งคู่ ในยุคที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านความรวดเร็วในการให้บริการ ความแม่นยำในการจัดส่งคำสั่งซื้อ หรือความสะดวกสบายที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์การบริโภคโดยรวม ร้านอาหารที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพย่อมเป็นผู้เล่นที่ได้เปรียบในสนามการแข่งขัน โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถหลากหลายและครอบคลุม ไม่เพียงแต่ช่วยลดระยะเวลาในการรออาหาร...
ยอมร้อน ยอมต่อคิว ถ้าร้านสวยพอให้ลง IG ได้
ร้านไหนไม่ว้าว = หลุดลิสต์ทันที ในยุคปัจจุบันที่ภาพลักษณ์ภายนอกมีบทบาทสูงต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค “ความสวย” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความพึงพอใจเชิงสุนทรียะอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น Focus Keyword ที่มีน้ำหนักในเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะในแวดวงค้าปลีกและธุรกิจบริการประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าหรือคาเฟ่ที่ไม่สามารถสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหน้าร้านให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น หรือการจัดสรรพื้นที่ภายในให้มีมุมถ่ายภาพที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคเชิงสื่อสังคมออนไลน์ ย่อมมีแนวโน้มจะถูกตัดออกจากรายชื่อร้านที่น่าเยือนในทันที แม้ว่าคุณภาพอาหาร เครื่องดื่ม หรือบริการจะอยู่ในระดับสูงก็ตาม ความคาดหวังของผู้บริโภคสมัยใหม่จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่รสชาติ แต่รวมถึงประสบการณ์โดยรวมที่สามารถแบ่งปันลงแพลตฟอร์มอย่าง Instagram ได้อย่างมีคุณค่า พฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความคาดหวังของผู้บริโภคไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คุณภาพของสินค้า บริการ หรือแม้กระทั่งความคุ้มค่าในเชิงราคาอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปสู่มิติของ “ประสบการณ์ที่สามารถถ่ายทอดและแชร์ต่อได้” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Instagram หรือ TikTok โดยเฉพาะในยุคที่แพลตฟอร์มเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “Instagrammable Place” หรือ “สถานที่ที่ถ่ายรูปสวย” ได้กลายเป็นคำค้นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย...
Brand x Star ดีจริงหรือแค่ไวรัลชั่วคราว
ดังก็ขายได้…แต่ขายได้นานแค่ไหน? ในยุคดิจิทัลที่โซเชียลมีเดียเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการสื่อสารของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง การปรากฏตัวของบุคคลธรรมดาที่สามารถกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือคนดังระดับประเทศภายในระยะเวลาอันสั้น กลายเป็นปรากฏการณ์ที่แบรนด์ต่าง ๆ ไม่อาจมองข้าม ด้วยศักยภาพของแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram Reels หรือ YouTube Shorts ที่สามารถเปลี่ยนคอนเทนต์เพียงไม่กี่วินาทีให้กลายเป็นไวรัลทั่วประเทศได้ในพริบตา ส่งผลให้แบรนด์หันมาพึ่งพา “คนดัง” หรือ “เซเลบริตี้” เป็นเครื่องมือทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแคมเปญระดับชาติที่มียอดเข้าถึงนับล้าน หรือการจัดแคมเปญรีวิวสินค้าผ่านคอนเทนต์สั้นที่เน้นความเป็นธรรมชาติและเข้าถึงได้จริงในสายตาผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญที่ควรถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายคือ การจับมือร่วมกันในลักษณะนี้ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในแง่ของการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคระยะยาว หรือเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางการตลาดแบบชั่วคราวที่ขึ้นอยู่กับกระแสและอารมณ์สังคม ณ ขณะนั้นเท่านั้น? หลายกรณีศึกษาพบว่าแคมเปญที่พึ่งพาเพียงชื่อเสียงของคนดังเพียงอย่างเดียว แม้จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมอย่างรวดเร็วในช่วงเปิดตัว และกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากปล่อยแคมเปญ แต่กลับไม่สามารถรักษาระดับความสนใจจากผู้บริโภคได้ในระยะยาว เนื่องจากขาดการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งและสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ในระดับโครงสร้าง ทั้งยังไม่สามารถต่อยอดกระแสไวรัลให้กลายเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคซ้ำอย่างมีนัยสำคัญ หรือแปลงความสนใจชั่วครู่ให้เป็นความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) อย่างแท้จริงได้ในระยะยาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จระยะสั้นของแคมเปญไม่สามารถทดแทนความยั่งยืนทางแบรนด์ที่เกิดจากการสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกกับผู้บริโภค คาแรกเตอร์คนดัง vs...
ชาตรามือครองใจคนรุ่นใหม่ ด้วยชาไทยสูตรคลาสสิก
ชาไทยไม่เชย ถ้ารู้จักรีแบรนด์ให้เท่ทันยุค เมื่อผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจกับเครื่องดื่มสุขภาพที่มีสไตล์และนวัตกรรมมากขึ้น เช่น กาแฟ Third Wave ที่เน้นคุณภาพและความพิถีพิถันในการชง ชาเขียวมัทฉะแท้จากญี่ปุ่นที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติทางสุขภาพ และน้ำผลไม้ Cold Pressed ที่รักษาสารอาหารครบถ้วนโดยไม่ผ่านความร้อน แบรนด์เครื่องดื่มดั้งเดิมของไทยอย่าง “Cha Tra Mue” หรือ “ชาตรามือ” สามารถปรับตัวอย่างชาญฉลาดทั้งในด้านการรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมและการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แบรนด์นี้ยังคงครองใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องและกลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในด้านกลยุทธ์การตลาดและการรีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในยุคปัจจุบัน แบรนด์ใช้กลยุทธ์รักษา “แก่นแท้” ของผลิตภัณฑ์คือรสชาไทยดั้งเดิมที่เข้มข้น หวานมัน กลมกล่อม ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้มีความร่วมสมัย โดยเฉพาะการออกแบบแพ็กเกจใหม่ การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล และการขยายไลน์สินค้าให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มเป้าหมายใหม่อย่าง Gen Z และ Millennials โลโก้แดงในตำนาน กลายเป็นไอคอนใหม่ของ Gen Z โลโก้สีแดงทองที่เคยสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าแบบ “บ้าน...
Matcha Fever! กระแสชาเขียวครองทุกวงการในปี 2025
จากคาเฟ่สู่คอสเมติก: เมื่อมัทฉะไม่ใช่แค่เครื่องดื่มอีกต่อไป ถ้าจะพูดถึงเทรนด์ที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 คงไม่มีอะไรแรงไปกว่ากระแส “Matcha Fever” ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจากคาเฟ่สู่ห้างสรรพสินค้า ร้านเครื่องสำอาง ไปจนถึงคลินิกเสริมความงาม มัทฉะกลายเป็นวัตถุดิบทองคำแห่งยุค ที่ไม่เพียงให้กลิ่นหอมและรสชาติที่ลึกซึ้ง แต่ยังมอบคุณค่าทางสุขภาพและสุนทรียะที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูงจากสารคาเทชิน มัทฉะถูกยกระดับจากชาเขียวธรรมดามาเป็นซูเปอร์ฟู้ด (Superfood) ที่ช่วยชะลอวัย ลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสมอง และลดความเครียด จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นแบรนด์ดังอย่าง Starbucks เปิดตัว Matcha Latte ผสมคอลลาเจนเพื่อบำรุงผิว หรือ Estee Lauder ที่พัฒนาเซรั่มเข้มข้นจากมัทฉะเพื่อฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นใน พร้อมกับเสริมความเชื่อมโยงทางอารมณ์ผ่านแนวคิด Natural Wellness แม้แต่ในโลกของแฟชั่นและดีไซน์ สีเขียวมัทฉะกำลังกลายเป็นสีเทรนด์แห่งปีที่สะท้อนถึงความสงบ สง่างาม และความยั่งยืน หลายแบรนด์นำโทนสีนี้มาใช้ในคอลเลกชันเสื้อผ้า เครื่องประดับ...
How AI Is Revolutionizing Digital Marketing in 2025
จาก Digital Marketing สู่ Decision: AI ทำให้การตลาดแม่นยำกว่าเดิม ปี 2025 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการ Digital Marketing in 2025 เพราะ AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยเหลืออีกต่อไป แต่กลายเป็น “กลไกหลัก” ที่ขับเคลื่อนทุกขั้นตอนของการวางแผนและปฏิบัติการด้านการตลาด ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรม สร้างแคมเปญ ไปจนถึงการประเมินผลและปรับแต่งกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง AI สามารถประมวลผล Big Data จากหลายแหล่ง เช่น พฤติกรรมในเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ระบบ CRM และข้อมูลภายนอก เพื่อหาความเชื่อมโยงที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น และแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้กลายเป็นแนวทางการตลาดที่ “แม่นยำและเฉพาะเจาะจง” กับแต่ละกลุ่มลูกค้าแบบรายบุคคล ซึ่งช่วยให้แบรนด์ตอบสนองได้รวดเร็ว...
10 Real-Life Applications of AI in 2025
10 Real-Life Applications of AI in 2025 คืออะไร ปี 2025 คือปีที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) ไม่ได้เป็นแค่ buzzword อีกต่อไป แต่กลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ การแพทย์ การศึกษา การเงิน และภาครัฐอย่างจริงจัง AI ไม่ใช่แค่ระบบอัจฉริยะที่เรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์ได้ แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำสูงสุด แนวโน้มในปีนี้ชี้ให้เห็นว่าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเริ่มวางกลยุทธ์การเติบโตโดยมี AI เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI เพื่อช่วยคัดกรองข้อมูลผู้ป่วย การจัดการความเสี่ยงทางการเงิน ไปจนถึงการทำ predictive analytics ที่แม่นยำแบบ real-time ในระดับ...
ถ้าย่านคือเรซูเม่ Silom คือ LinkedIn ของกรุงเทพฯ
Silom: จากย่านออฟฟิศสู่สมรภูมิของคนทำงานหัวก้าวหน้า สีลมเคยเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เต็มไปด้วยออฟฟิศและตึกสูง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ที่รวมคนทำงานรุ่นใหม่ที่สะท้อนตัวตนที่มีความคิดสร้างสรรค์และเปิดรับนวัตกรรมใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของย่านให้เข้ากับยุคสมัยที่เทคโนโลยีและการทำงานแบบยืดหยุ่นมีบทบาทมากขึ้น ย่านนี้มีสำนักงานระดับแนวหน้า คอมมูนิตี้สเปซ ร้านกาแฟทันสมัย และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานหัวก้าวหน้า สีลมจึงไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่เป็นพื้นที่ที่คนสามารถเรียนรู้ แบ่งปัน และเติบโตไปพร้อมกัน การมีคาเฟ่และพื้นที่สร้างสรรค์มากมายในย่านนี้ ทำให้สีลมกลายเป็นแหล่งพบปะและสร้างเครือข่ายของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ การเข้าถึงง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะยังช่วยเสริมให้สีลมเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับคนทำงาน การเปลี่ยนแปลงของสีลมยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการทำงานในกรุงเทพฯ ที่เน้นความยืดหยุ่นและการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สีลมจึงเป็นตัวอย่างของย่านที่สามารถปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้ สีลมจึงกลายเป็น ที่คนทำงานรุ่นใหม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่ง สีลมจึงไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เชื่อมต่อ แลกเปลี่ยนความคิด และสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตในสายอาชีพ นอกจากนี้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของสีลมยังทำให้ย่านนี้เป็นสถานที่นัดพบของนักคิดนักสร้างสรรค์ที่มองหาความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว คาแรกเตอร์ของย่านที่สะท้อนโปรไฟล์คนเมืองยุคใหม่ สีลมสะท้อนภาพลักษณ์ของคนเมืองรุ่นใหม่ที่ใส่ใจทั้งเรื่องการทำงานและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว คาแรกเตอร์ของย่านนี้ประกอบด้วยความทันสมัย การเปิดกว้างทางความคิด จึงทำให้สีลมเป็นย่านที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นแหล่งรวมของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง การมีคาเฟ่และพื้นที่สร้างสรรค์มากมายในย่านนี้ ทำให้สีลมกลายเป็นแหล่งพบปะและสร้างเครือข่ายของคนรุ่นใหม่ ที่นี่มีทั้ง coworking space...
THAIFEX 2025: เวทีอาหารเอเชียที่โลกจับตามอง
THAIFEX ไม่ใช่แค่งานแฟร์ แต่คือเวทีปั้นแบรนด์อาหารสู่โลก THAIFEX – Anuga Asia 2025 กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และในปีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าอาหารระดับภูมิภาค แต่ยกระดับสู่เวทีระดับนานาชาติที่ทั่วโลกจับตามอง ด้วยการรวบรวมนวัตกรรมล้ำสมัย แบรนด์อาหารชื่อดัง และกิจกรรมส่งเสริมการค้าแบบครบวงจร ทั้งการเจรจาธุรกิจ การจับคู่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และการเสวนาเรื่องทิศทางอาหารแห่งอนาคต พร้อมทั้งเป็นเวทีที่สะท้อนพลัง Soft Power ด้านอาหารไทยที่สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับโลกได้อย่างแท้จริง ภายในงาน THAIFEX ปีนี้มีผู้ร่วมแสดงสินค้ามากกว่า 3,000 ราย จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่แบรนด์ระดับโลกไปจนถึง SME ที่มีของดีซ่อนอยู่ทั่วเอเชีย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 80,000 คน ประกอบด้วยทั้งนักลงทุน ผู้จัดจำหน่าย เชฟชื่อดัง และผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่...