อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับ? รู้จัก External Link ให้ลึกซึ้ง

ในโลกของการทำ SEO ที่มีการแข่งขันสูง การสร้างเว็บไซต์ที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เคย หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ ‘External Link’ หรือลิงก์ภายนอก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มคะแนน SEO และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ บทความนี้จะเจาะลึกถึงความสำคัญของ External Link ประเภทของลิงก์ และวิธีการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพเพื่อดันเว็บไซต์ของคุณให้ติดอันดับบน Google

External Link คืออะไร?

External link หรือที่เรียกกันว่าลิงก์ภายนอก คือการเชื่อมโยงจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง แตกต่างจาก internal link ที่เชื่อมโยงระหว่างหน้าเว็บภายในเว็บไซต์เดียวกัน การใช้ external link คือการเชื่อมโยงจากเนื้อหาหนึ่งไปยังแหล่งข้อมูลภายนอกที่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็นเว็บไซต์อื่น ๆ หรือแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่มีคุณค่า

ตัวอย่างเช่น ในบทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ หากกล่าวถึงการออกกำลังกาย แล้วใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ หรือบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายนอก จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

External Links แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ:

1. Dofollow External Links

• Dofollow links คือ ลิงก์ที่ส่งค่าคะแนน SEO ไปยังเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยง แม้ว่าคำว่า “dofollow” จะไม่ได้แสดงในโค้ด HTML แต่ลิงก์ทั้งหมดที่ไม่ระบุว่า nofollow จะเป็น dofollow โดยปริยาย ลิงก์ประเภทนี้ช่วยเพิ่ม PageRank หรือค่าคะแนน SEO ของเว็บไซต์ปลายทาง และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่ได้รับลิงก์ไป ตัวอย่าง: หากเว็บไซต์ A ใส่ dofollow link ไปยังเว็บไซต์ B จะทำให้เว็บไซต์ B ได้รับความนิยมในเครื่องมือค้นหามากขึ้น

2. Nofollow External Links

• Nofollow links คือ ลิงก์ที่เครื่องมือค้นหาจะไม่ส่งค่าคะแนน SEO (PageRank) ไปยังเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมโยง แทนที่จะช่วยเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ปลายทาง nofollow link จะบอกเครื่องมือค้นหาให้ “ไม่ตาม” ลิงก์นั้น ลิงก์ประเภทนี้มักใช้ในกรณีที่ไม่ต้องการให้เครื่องมือค้นหาพิจารณาลิงก์เหล่านั้นเป็นการโหวตหรือการยอมรับ เช่น ลิงก์ในคอมเมนต์ หรือจากการโฆษณา การใช้ nofollow ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ SEO ของเว็บไซต์ปลายทาง แต่จะช่วยลดการหลอกลวง SEO (black-hat SEO)

2. ความสำคัญของ External link

External Link หรือลิงก์ภายนอก มีความสำคัญอย่างมากในการทำ SEO เพราะสามารถเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์และเพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหาของ Google นี่คือความสำคัญหลัก ๆ ของ external link:

• เพิ่มความน่าเชื่อถือ (Authority): ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีอำนาจและน่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ขององค์กรที่มีชื่อเสียงอย่าง Harvard, BBC หรือ Mayo Clinic จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีข้อมูลที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือ
• เพิ่มโอกาสในการได้รับ Backlinks: การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสามารถนำไปสู่การได้รับ backlinks จากเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคะแนน SEO ของเว็บไซต์คุณ และทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Google
• ช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้อง (Relevance): การใช้ external link ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาจะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นที่ผู้ใช้งานค้นหา ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหามากขึ้น
• ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience): การเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้นและพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์
• เพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหา: External link ที่มีคุณภาพช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นใน Google เพราะ Google มักใช้ลิงก์ภายนอกเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความเกี่ยวข้องของเนื้อหาในเว็บไซต์

3. วิธีการทำ External Link ที่ควรทำ

• เลือกแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้: ลิงก์ควรเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ และมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ เช่น เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงในวงการที่เกี่ยวข้อง หรือแหล่งข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ ตัวอย่าง: หากคุณเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพ การเชื่อมโยงไปยัง Mayo Clinic หรือ WebMD จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาของคุณ
• ใช้ Anchor Text ที่มีความหมาย: Anchor Text คือคำที่ใช้เป็นลิงก์ ควรเลือกคำที่ชัดเจนและบ่งบอกถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไป เช่น ไม่ควรใช้ “คลิกที่นี่” แต่ควรใช้คำที่สื่อถึงสิ่งที่ผู้อ่านจะพบ ตัวอย่าง: “เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจาก WebMD” แทนที่จะใช้ “คลิกที่นี่เพื่ออ่าน”
• ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ: ลิงก์ภายนอกควรเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ เช่น หากบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ควรเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ตัวอย่าง: หากคุณเขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย ลิงก์ไปยังเว็บไซต์การท่องเที่ยวไทยหรือบทความที่เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในไทย
• ไม่ใส่ลิงก์ภายนอกมากเกินไป: การใช้ลิงก์มากเกินไปในบทความอาจทำให้เนื้อหาดูรกและเสียความน่าเชื่อถือ ควรใส่เพียงพอและมีคุณค่าเพื่อเสริมเนื้อหา ตัวอย่าง: ใส่ 2-3 ลิงก์ภายนอกที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับเนื้อหา
• ตรวจสอบลิงก์เป็นประจำ: ตรวจสอบลิงก์ภายนอกเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่ลิงก์ที่เสีย (404 Error) ซึ่งอาจทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้แย่ลงและส่งผลต่อ SEO ตัวอย่าง: ใช้เครื่องมือเช่น Google Search Console หรือเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อตรวจสอบลิงก์เสีย

4. วิธีการทำ External Link ที่ไม่ดี

• เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ: หลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหรือข้อมูลที่ไม่เป็นจริง หรือเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ เช่น เว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโฆษณาหรือข้อมูลที่ผิด ตัวอย่าง: การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม หรือเว็บไซต์ที่มีการโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ
• เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง: ลิงก์ภายนอกควรเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ หากลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าบทความของคุณไม่สมบูรณ์ ตัวอย่าง: หากคุณเขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ขายสินค้าทั่วไปหรือเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
• ใช้ลิงก์ที่เสีย (Broken Links): การใช้ broken links หรือลิงก์ที่เสีย จะทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงไป และทำให้เว็บไซต์ของคุณดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาของ Google ตัวอย่าง: ลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ถูกปิดหรือไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว เช่น หน้า 404
• ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจ (Low-Quality Sites): หลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีประวัติการใช้ black-hat SEO หรือมีเนื้อหาที่ไม่ได้รับการยอมรับ เช่น เว็บไซต์ที่มีการใช้เทคนิคการทำ SEO ที่ไม่เป็นธรรม ตัวอย่าง: การลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยสแปม หรือเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิค SEO แบบผิดกฎหมาย
• ใช้คำที่เป็น Anchor Text ที่ไม่เกี่ยวข้อง: หลีกเลี่ยงการใช้ anchor text ที่ไม่มีความหมาย หรือเป็นคำทั่วไปที่ไม่สื่อถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไป ตัวอย่าง: ใช้คำว่า “คลิกที่นี่” แทนการใช้คำที่บ่งบอกถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เช่น “อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่ WebMD

สรุป

External link ที่มีคุณภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญของ SEO ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความเกี่ยวข้อง และประสบการณ์ผู้ใช้ การใช้ลิงก์อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Google