หลายๆคนคงประสบปัญหาเบลอๆ เวลาทำงาน หัวสมองไม่แล่น คิดงานไม่ออก ไม่รู้จะแก้ยังไงดี สาเหตุส่วนใหญ่อาจเกิดจากการนอนน้อย หรือ การใช้สมองมากเกินไป จนสมองล้า วันนี้เรามี 10 เทคนิค รู้ไว้ หายเบลอ มาแชร์ให้ฟังกัน
เดินเล่น ออกไปเจอสายลม แสงแดด
เป็นหนึ่งวิธีที่รีเฟรชตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยธรรมชาติรอบข้างเรานี่แหละ คือการออกไปเดินเล่น ออกไปสูดอากาศดีๆข้างนอกบ้าง เมื่อไรที่เรารู้สึกเบลอ หรือคิดอะไรไม่ออก ลองออกไปเดินเล่น ชมวิวรอบข้างบ้าง
ยืดเส้นยืดสาย
ปกตืแล้วเวลาเราทำงาน หัวของเราจะก้มลองมามองที่จอคอมพิวเตอร์ ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอต้องแบกรับหรือเกร็งรับน้ำหนักของหัวเราอย่างมากเป็นเวลานาน เราต้องผ่อนคลาย หรือเงยหน้า เอนหัวไปด้านหลังค้างไปสักพัก อาจจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และ หัวโล่งมากขึ้นนั่นเอง
อยู่ห่างจากงานสักพัก
การโฟกัสทำงานทั้งวันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี เราควรที่จะพักสายตา อยู่ห่างจากงานบ้าง ถ้าเราคิดอะไรไม่ออก หรือ คิดงานไม่ได้ หัวไม่แล่น ให้เราลองห่างจากงานสักพักนึง อาจจะช่วยให้เราหายเบลอได้ เพราะถ้าเราโฟกัสมากเกินไป อาจจะทำให้เราใช้สมองหนักเกินไป ส่งผลให้สมองเหนื่อยล้า และกดดันตัวเองอีกด้วย อีกทั้งถ้าเราฝืนทำงานต่อไปทั้งๆที่เบลอ อาจจะทำให้งานนั้นออกมาไม่ดีก็ได้
นอนหลับให้เพียงพอ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการพักผ่อนให้เพียงพอ สาเหตุหลักๆของอาการเบลอส่วนใหญ่ก็มาจากการที่เรานอนหลับไม่เพียงพอนี่แหละ ไม่ว่าจะดูซีรี เที่ยว หรือ ทำงานๆ จนดึกๆดื่นๆ จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อร่างกายเราทั้งนั้น เพราะเมื่อร่างกายเราได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองก็จะเบลอๆ ล้า หรือ ง่วง คิดงานไม่ออก หรือ ทำงานไปก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ทำ to do list หรือ checklist
งานเยอะแยะไปหมด ไม่รู้จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง ไหนจะงาน ad hoc งานด่วน งานแก้ แทรกเข้ามาอีก ตอนแรกก็เบลอๆอยู่แล้ว เบลอหนักขึ้นไปอิ้กก สิ่งที่สำคัญที่เราควรทำเลยคือ การตั้งสติ แล้ว prioritize งานว่างานไหนด่วนหรือสำคัญที่สุด ให้เราทำอันนั้นก่อน ให้เราลองทำ checklist มาว่า มีสิ่งไหนที่เราต้องทำในวันนี้บ้าง แล้วงานไหนควรที่จะเริ่มทำก่อน หรือ หลัง สละเวลานิดๆมาแพลนสิ่งที่ต้องทำคร่าวๆ จะช่วยให้เราจัดการกับความเบลอของตัวเองได้ดีเลยล่ะ
ดื่มน้ำซักหน่อย
การทำงานบางทีเราก็พฤติกรรมที่จดจ่อกับงานมากเกินไปจนแม้แต่นำ้เปล่าก็ไม่ได้ดื่มเลย ซึ่งปัญหานี้จะส่งผลต่อสุขภาพและสมองของเรา เพราะอย่างที่เรารู้กันว่านำ้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายคนเรา การดื่นน้ำมีความสำคัญในการนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองและร่างกายของเรา และการดื่มนำ้ก็จะให้ร่างกายเรารู้สึกสดชื่นมากขึ้นด้วยล่ะ
ทำสมาธิ
การทำสมาธิไม่จำเป็นต้องทำนานก็ได้ แค่ลองนั่งในท่าที่สบายไม่เกร็งหายใจเข้าออกช้าๆ ตั้งสมาธิไปที่ลมหายใจ ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย ความคิดฟุ้งซ่านที่เข้ามาเราปล่อยให้มันไหลไปเรื่องๆ ไม่ต้องพยายามฝืนหยุดความคิดตัวเอง เมื่อเราลองปล่อยมันไหลไปเรื่อยๆ เราจะรู้สึกว่าสิ่งต่างที่เราคิดมันไม่มีความหมายอะไร การทำสมาธิคือการที่เราอยู่กับปัจจุบันของเรา ไม่คิดถึงอนาคต และไม่คิดอดีตที่ผ่านมา เมื่อใจคุณสงบลง บางที่ผลลัพธ์ดีๆบางอย่าง ก็อาจจะเกิดขึ้น
ไปคุยกับคนอื่นๆ
การที่เราอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆอาจกำจัดความคิดสร้างสรรคของเราก็ได้ ดังนั้นเราลองออกไปพบปะเพื่อนๆดู ถือเป็นการดึงเราออกจากความกดดันทางความคิดที่เกี่ยวกับงานของเรา และการพูดคุณแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราวต่างของเรากับเพื่อน บางทีเรื่องราวเหล่านั้นอาจจะช่วยเปิดโลกทางความคิดใหม่ๆให้เราก็ได้
พักไปงีบซักแปป
เมื่อเราเหนื่องล้ามากๆคงไม่มีอะไรที่จะพักผ่อนได้ดีไปกว่าการนอนอีกแล้ว แต่การนอนในที่นี้ไม่ได้นอนหลับยาว6-8ชั่วโมงนะ แต่เป็นการงีบระยะเวลาสั้นๆ 10-20 นาที เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะช่วยให้เราสดชื่นมากๆ แต่ก็อย่าลืมตั้งเวลาเตือนไว้ด้วยล่ะ ้เพราะการหลับนานเกินไปก็อาจจะส่งผลตรงกันข้ามได้
หากินขนมระหว่างวัน
การใช้ความคิดมากๆ ย่อมต้องใช้พลังงานมากเป็นธรรมดาและสมองคนเราก็ต้องการพลังงานมาหล่อเลี้ยงเพื่อใช้ความคิดทั้งวัน การให้รางวัลสมองเราด้วยการหาขนมที่ชอบ ช็อกโกแลต กินบ้างระหว่าง วันนอกจากจะช่วยเติมพลังให้สมองเราแล้ว ก็จะช่วยทำให้เราสร้างอารมณ์ที่ดีระหว่างวันได้
สรุป
นี่ก็เป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่เรานำมาฝากเพื่อนๆที่จะช่วยให้สมองที่เหนื่อยล้า เบลอๆของเรา ให้กลับมามีพลังในการทำงานต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่เราอย่าลืมใส่ใจกับร่างกายและสุขภาพของตัวเอง เพราะการที่สมองเรามีอาการเบอลๆ คิดอะไรไม่ออก อาจจะทำให้เราพยายามคิด และกดดันตัวเองมากเกินไปจนเกินความเครียดและอาจจะมีปัญหาสุขภาพในภายหลัง เพราะงั้นเราก็ควรมีเวลาให้สมองเรารีแล็กซ์บ้าง เพื่อให้เรามีพลังที่จะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่าง มีชีวิตชีวาได้ตลอดทั้งวัน
“A better tomorrow starts today”
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “