งานหนังสือ

เปิดเทรนด์การอ่านในปี 2025 และการฟื้นกลับมาของร้านหนังสือ

ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว หลายคนอาจเคยตั้งคำถามถึงอนาคตของหนังสือเล่มและวัฒนธรรมการอ่าน แต่ในปี 2025 นี้ ดูเหมือนว่าวงการหนังสือของไทยกำลังส่งสัญญาณการฟื้นตัวครั้งสำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพของผู้คนจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลไปในงานหนังสือ และการเกิดขึ้นของร้านหนังสืออิสระที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กำลังบอกเราว่าตัวอักษรบนหน้ากระดาษยังคงมีมนต์ขลังและพร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง

นิสัยรักการอ่านและการจัดงานหนังสือในไทย

นิสัยรักการอ่านของคนไทยเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงและตั้งคำถามมาโดยตลอด แต่ข้อมูลล่าสุดจากสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ในปี 2568 ได้แสดงให้เห็นถึงภาพที่สดใสขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าคนไทยมีค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือสูงถึง 92 นาทีต่อวัน ซึ่งลบภาพจำเดิม ๆ ที่ว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัดไปได้อย่างสิ้นเชิง ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้วิถีชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความต้องการในการเสพข้อมูลความรู้และความบันเทิงผ่านการอ่านยังคงฝังรากลึกอยู่ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นวัฒนธรรมการอ่านให้ยังคงคึกคักอยู่เสมอ คือการมีอยู่ของ งานหนังสือ ระดับชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนเทศกาลใหญ่ประจำปีของเหล่าคนรักหนังสือทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หรือมหกรรมหนังสือระดับชาติ งานเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับซื้อขายหนังสือราคาพิเศษเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้พบปะกับนักเขียน, สำนักพิมพ์ และเพื่อน ๆ คอเดียวกัน การจัดงานหนังสือจึงมีบทบาทสำคัญในการหล่อเลี้ยงและขับเคลื่อนวงการหนังสือไทยให้เดินหน้าต่อไป

ความนิยมของงานหนังสือในแต่ละปี

ความนิยมของงานหนังสือสามารถวัดได้จากตัวเลขผู้เข้าร่วมงานและยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังผ่านพ้นช่วงการระบาดใหญ่ที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนไปจัดในรูปแบบออนไลน์ เมื่องานหนังสือได้กลับมาจัดในรูปแบบปกติอีกครั้งที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจนทำลายสถิติในทุก ๆ ปี สำหรับ งานหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 30 ในปี 2568 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทาง PUBAT ได้คาดการณ์ว่าจะกลายเป็นงานหนังสือที่ยิ่งใหญ่ โดยมีการขยายพื้นที่จัดแสดงเพื่อรองรับสำนักพิมพ์กว่า 400 แห่ง พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจากงานครั้งก่อน ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ไม่ได้ลดน้อยลง แต่ยังบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมหนังสือไทย ปรากฏการณ์นี้สะท้อนว่างานหนังสือได้พัฒนารูปแบบของตัวเองไปไกลกว่าเดิม มันได้กลายเป็น Event Marketing ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นเทศกาลที่ทุกคนรอคอย ไม่ใช่แค่เพื่อซื้อหนังสือ แต่เพื่อสัมผัสประสบการณ์, เข้าร่วมกิจกรรมเสวนา, และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคนรักการอ่านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

เทรนด์การอ่านหนังสือของคนไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

เทรนด์การอ่านของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามบริบทของสังคมและเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย ในอดีต ตลาดหนังสือจะถูกขับเคลื่อนโดยสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลักหนังสือนิยาย วรรณกรรมคลาสสิก และนิตยสารต่าง ๆ ได้รับความนิยมอย่างสูง ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล การเข้ามาของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียได้ทำให้พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้คนเปลี่ยนไป คอนเทนต์สั้นและรวดเร็วได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลต่ออนาคตของหนังสือ ในช่วงเวลานี้เองที่ e-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักอ่าน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันและแนวโน้มของปี 2025 เรากำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า Phygital ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโลกกายภาพ (Physical) และโลกดิจิทัล (Digital) เข้าด้วยกันอย่างลงตัว แม้ว่าตลาด e-book จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 20% ในปี 2568 แต่หนังสือเล่มก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายังคงได้รับความนิยมอย่างแข็งแกร่ง การได้สัมผัสกระดาษ, กลิ่นหมึก และการมีหนังสือไว้บนชั้นยังคงเป็นประสบการณ์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว สำหรับประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ได้แก่

  • หนังสือพัฒนาตนเอง (Self-Improvement): เทรนด์การรักตัวเองและการพัฒนาศักยภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง
  • หนังสือนิยายและวรรณกรรม (Fiction): โดยเฉพาะแนวสืบสวนสอบสวน, วรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่นและเกาหลี รวมถึงหนังสือนิยายวาย (Yaoi/BL) ที่มีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่และเหนียวแน่น
  • การ์ตูนและไลท์โนเวล: ยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
  • หนังสือสำหรับเด็กและคู่มือการเรียน: เป็นกลุ่มที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญและมีกำลังซื้อสม่ำเสมอ

แนวทางการทำการตลาดของร้านหนังสือ และสำนักพิมพ์

  1. สำหรับร้านหนังสือ

ในยุคที่การซื้อหนังสือออนไลน์ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ร้านหนังสือจึงไม่สามารถเป็นแค่สถานที่ขายหนังสือได้อีกต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยการทำการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ กลยุทธ์ที่น่าสนใจ ได้แก่:

  • การสร้างชุมชน: การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานเสวนา, เวิร์กช็อป, หรือ Book Club เพื่อดึงดูดให้คนที่มีความสนใจคล้ายกันได้มาพบปะแลกเปลี่ยน
  • การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว: โดยเฉพาะร้านหนังสืออิสระ ที่มักจะเลือกนำเสนอหนังสือในแนวทางที่ตนเองเชี่ยวชาญและหลงใหล ทำให้สามารถสร้างฐานลูกค้าประจำที่มีความภักดีสูงได้
  • การผสมผสานกับธุรกิจอื่น: การมีคาเฟ่, พื้นที่ทำงาน (Co-working Space) หรือการขายสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ ภายในร้าน เพื่อเพิ่มเหตุผลให้ลูกค้าต้องแวะเวียนมา
  • Omnichannel Experience: การเชื่อมต่อประสบการณ์หน้าร้านและออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เช่น การสั่งซื้อออนไลน์แล้วมารับที่ร้าน หรือการทำ Live สดแนะนำหนังสือจากในร้าน
  1. สำหรับสำนักพิมพ์

สำนักพิมพ์ในปัจจุบันต้องมีความคล่องตัวและจับกระแสให้ทัน การตลาดไม่ได้หยุดอยู่แค่การผลิตหนังสือดี ๆ ออกมา แต่ต้องทำให้หนังสือเป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้อ่านในวงกว้าง

  • การใช้ข้อมูลจากโลกออนไลน์: การจับกระแสความนิยมจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Webtoon หรือนิยายออนไลน์ เพื่อนำมาต่อยอดตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่ม
  • การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย: การใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram, X (Twitter) ในการโปรโมทหนังสือ, สร้างวิดีโอสั้นๆ ที่น่าสนใจ หรือพูดคุยกับนักอ่านโดยตรง
  • Influencer Marketing: การร่วมมือกับนักรีวิวหนังสือหรือผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียเพื่อช่วยสร้างการรับรู้และกระแสการบอกต่อ
  • Direct-to-Consumer (D2C): การสร้างช่องทางการขายของตัวเองผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ

การตลาดออนไลน์ที่ ForeToday

การฟื้นตัวของวงการหนังสือและการกลับมาของร้านหนังสือ ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่แข็งแกร่ง การสร้างการรับรู้, การสร้างชุมชน, และการสร้างยอดขายในยุคนี้ล้วนต้องอาศัยความเข้าใจในเครื่องมือและพฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทงานหนังสือให้เป็นที่รู้จัก การทำโฆษณาหนังสือนิยายเรื่องใหม่ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือการสร้างตัวตนให้ร้านหนังสือของคุณเป็นที่รักบนโลกโซเชียล ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านหนังสือหรือสำนักพิมพ์ พวกเรา ForeToday พร้อมช่วยคุณทำการตลาดออนไลน์ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรามีความเข้าใจในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์, การบริหารจัดการโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง, ไปจนถึงการทำโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสารของคุณจะถูกส่งไปถึงกลุ่มนักอ่านที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสม ให้ ForeToday ช่วยดูแลการตลาดออนไลน์ของคุณ เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนวัฒนธรรมการอ่านของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน