Google ประกาศไม่ยกเลิกการใช้ “คุกกี้” บนเว็บ สร้างความฮือฮาในวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง แต่ทำไมคุกกี้ถึงสำคัญนัก? และการตัดสินใจนี้จะส่งผลต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร?
มาทำความเข้าใจกับบทบาทของคุกกี้ในโลกดิจิทัล และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทั้งธุรกิจและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเรา
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราเห็นโฆษณาที่ดูเหมือนจะรู้ใจเราบนเว็บไซต์ต่างๆ? หรือทำไมเว็บไซต์บางแห่งจำได้ว่าเราเคยเข้ามาดูอะไรไว้บ้าง? คำตอบก็คือ สิ่งที่เรียกว่า “คุกกี้” นั่นเอง!
คุกกี้คืออะไร?
คุกกี้ในที่นี้ไม่ใช่ขนมหวานนะ แต่เป็นข้อมูลเล็กๆ ที่เว็บไซต์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือมือถือของเรา มันทำหน้าที่เหมือนกับบัตรสมาชิกร้านค้าที่จดจำว่าเราเป็นใคร ชอบอะไร เคยซื้ออะไรไปบ้าง แต่ในโลกออนไลน์
มีคุกกี้ 2 แบบหลักๆ:
- First-Party Cookies: คุกกี้ที่เว็บไซต์นั้นๆ สร้างขึ้นเอง เช่น เว็บช็อปปิ้งจำได้ว่าเราใส่อะไรไว้ในตะกร้า
- Third-Party Cookies: คุกกี้ที่มาจากบริษัทอื่น (มักเป็นบริษัทโฆษณา) ซึ่งช่วยให้โฆษณาติดตามเราไปตามเว็บต่างๆ ได้
เรื่องราวของ Google กับคุกกี้
เมื่อปี 2020 Google เคยประกาศว่าจะเลิกใช้ Third-Party Cookies บนเบราว์เซอร์ Chrome ภายในปี 2022 เพราะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2024 Google ก็ประกาศว่าเปลี่ยนใจแล้ว จะยังไม่ยกเลิกการใช้ Third-Party Cookies
ทำไม Google ถึงเปลี่ยนใจ?
- มันยากกว่าที่คิด: การหาวิธีใหม่ที่ทั้งปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราและยังทำให้โฆษณาทำงานได้ดี มันไม่ใช่เรื่องง่าย
- หลายฝ่ายกังวล: ทั้งเจ้าของเว็บไซต์และบริษัทโฆษณากลัวว่าจะเสียรายได้มาก ถ้าไม่มี Third-Party Cookies
- ยังหาทางออกที่ลงตัวไม่ได้: Google พยายามคิดวิธีใหม่ๆ เช่น “Privacy Sandbox” แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่ทุกฝ่ายเห็นด้วย 100%
- ผลกระทบทางธุรกิจ: มีการคาดการณ์ว่าถ้ายกเลิก Third-Party Cookies เจ้าของเว็บไซต์อาจสูญเสียรายได้ถึง 30-60% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลมาก
แล้วมันส่งผลกับเรายังไง?
- ยังเห็นโฆษณาแบบเดิม: เราจะยังเห็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจต่อไป ซึ่งบางคนอาจชอบเพราะได้เห็นสิ่งที่ตรงใจ แต่บางคนอาจรู้สึกว่าถูกสอดส่องมากเกินไป
- ความเป็นส่วนตัว: Google บอกว่าจะหาวิธีให้เราควบคุมข้อมูลของตัวเองได้มากขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อาจต้องรอดูกันต่อไป
- เว็บไซต์โล่งใจ: หลายเว็บไซต์ที่หาเงินจากโฆษณาจะยังคงทำธุรกิจได้แบบเดิม ซึ่งอาจหมายถึงเราจะยังได้ใช้บริการฟรีๆ จากหลายเว็บไซต์ต่อไป
- การแข่งขันในวงการโฆษณา: บริษัทโฆษณาขนาดใหญ่อย่าง Google จะยังคงมีข้อได้เปรียบในการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้
แล้วเราควรทำอะไรบ้าง?
- รู้เท่าทัน: เข้าใจว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเรามีการเก็บข้อมูลอยู่เสมอ
- ใช้เครื่องมือป้องกัน: ลองใช้ ad-blocker หรือ VPN ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- จัดการการตั้งค่า: เข้าไปดูการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในเบราว์เซอร์และบัญชีออนไลน์ต่างๆ ของเรา
- ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย: ระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ต่างๆ
สรุปแล้ว การที่ Google ตัดสินใจแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าการสร้างสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวของเรากับการทำธุรกิจโฆษณาออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Google ก็ยังบอกว่าจะพยายามหาวิธีที่ดีกว่านี้ต่อไป ในฐานะผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เราควรตระหนักถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวออนไลน์อยู่เสมอ แต่ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพียงแค่รู้จักใช้งานอย่างระมัดระวังและชาญฉลาด เราก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขครับ
หากสนใจปรึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์หรือรันโฆษณาออนไลน์ก็สามารถติดต่อเราได้ที่
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today”
#Website #digitalagency #Google #Cookie #Digital #Agency #DigitalMarketing #Foretoday