CPAS เรียกอีกอย่างว่า Collaborative Performance Advertising Solution โดย Facebook ใช่อีกชื่อหนึ่งว่า Collaborative Ads โดย CPAS เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ใช้สำหรับการทำโฆษณาบน Facebook โดยที่เจ้าของธุรกิจสามารถที่จะสร้างแคมเปญโฆษณาให้กับสินค้าที่วางขายผ่านทาง Shopee และ Lazada ได้
CPAS ทำงานยังไง
ทุกครั้งก่อนที่เราจะทำ CPAS เราจะต้องได้รับการอนุมัติจากทาง Facebook ก่อนเพื่อที่จะขอทำโฆษณากับ E-marketplace ที่มีสินค้าของเราวางจำหน่ายอยู่เช่น Shopee, Lazada, JD Central และ Robinson Online หลังจากที่ได้รับการอนุมัติแล้ว เราจะสามารถสร้าง Product catalog segment และแชร์ให้เราได้ผ่านทาง Facebook Business Manager ทำให้เราสามารถใช้ catalogue ในการสร้างแคมเปญให้โฆษณาผ่านทาง Facebook ของเราได้
ตัวอย่างโฆษณา CPAS บน Facebook
ทำไมธุรกิจถึงต้องยิงโฆษณาแบบ CPAS
(เพราะมันช่วยเพิ่มยอดขายแบบเห็นได้ชัด และวัดผลได้โดยตรงนะสิ!)
1. Dynamic Ads (personalisation)
ความเทพของโฆษณาแบบ CPAS ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำ Retargeting
เพราะการทำโฆษณารูปแบบ CPAS จะสามารถให้เราเลือกได้เลยครับว่าเราต้องการยิงโฆษณาไปหาคนที่เกือบจะเป็นลูกค้าของเรา ในลักษณะไหน เช่น คนที่เคยเข้ามาดูสินค้า , คนที่เคยกด Add To Cart สินค้าของคุณ และยังสามารถเลือกเวลาได้อีกด้วย (เช่นต้องการยิง Ads ไปหาคนที่เคย Add To Cart สินค้าของเราภายในเดือนที่ผ่านมา)
ซึ่งรูปแบบโฆษณานี้ก็เป็นเหมือนการเสนอขายสินค้าให้คนที่ “ใกล้” จะกดซื้อสินค้าของเราจริงๆ และมีโอกาสที่จะปิดการขายได้ค่อนข้างสูง
Tip : เวลา Retargeting แนะนำให้ส่งโฆษณาที่เป็นโปรโมชั่นกลับมาเพื่อกระตุ้นในลูกค้าที่เคยเข้ามาดูสินค้าของร้านแล้วยังไม่ตัดสินใจซื้อ สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยโปรโมชั่น
2. วัดผลได้แบบแป๊ะ ปัง ปั๊ว
การทำโฆษณา Collaborative Ads สามารถวัดผลในเชิงลึกอย่างยอดขายหรือจำนวณการสั่งซื้อได้ว่าบนร้านค้าของเรานั้น มีคนกดเพิ่มสินค้าลงบนตะกร้ามากน้อยแค่ไหน และมียอดขาดสินค้าเท่าไหร่ในแต่ละวัน รวมถึงยังสามารถวัดผลแบบ ROAS (Return on ad spend) ได้ ซึ่งช่วยให้เราสามารถประมาณการค่าใช้จ่ายแบบคร่าว ๆ ได้ว่าค่าโฆษณาที่เราจ่ายไปนั้นสร้างยอดขายให้เราเท่าไหร่ และคุ้มค่ากับการทำโฆษณาต่อไปหรือไม่ ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่ทำโฆษณาแบบ CPAS เราก็จะสามารถวัดผลสำเร็จการโฆษณาได้แบบคร่าว ๆ ผ่านยอดคลิก หรือ CPC เท่านั้น แต่ไม่สามารถทราบได้เลยว่าโฆษณาจากทาง Facebook Ads ที่ได้ทำไปแท้จริงแล้วสามารถสร้างยอดขายให้เราได้น้อยแค่ไหน
เคล็ดลับเฉพาะเอเจนซี่ในการยิงโฆษณาแบบ CPAS
1. ช่วงแรกในการเริ่มรัน CPAS แนะนำให้ยิงโฆษณาแบบเน้น Traffic ควบคู่ไปด้วย
เนื่องจากกลไกลหลักของ CPAS คือการ Retarget คนที่เคยเข้ามาดูหรือ Add to cart แต่ถ้าหากคนกลุ่มนนี้ยังมีจำนวณน้อย การ retarget ของ CPAS อาจจะยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เพราะฉะนั้นการยิง Ads แบบเน้นพาคนที่ shop เราบน marketplace จะช่วยเพิ่มจำนวณคนสำหรับการ retarget ได้
2. โดยปกติแล้วกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการสร้างยอดขายคือกลุ่ม Cart abandon หรือคนที่ add to cart แล้วไม่ซื้อ เพราะเป็นกลุ่มที่ “ใกล้” จะซื้อมากที่สุด
3. ซึ่งในช่วงแรกๆ สำหรับ Shop ไหนที่เพิ่งเปิด เราอาจะมี audience กลุ่มนนี้ค่อนข้างน้อย แนะนำให้ขยับขึ้นไป retarget กลุ่มที่เข้ามาดู Product view แทนเพื่อให้โฆษณานั้นได้รันได้อย่างเต็มที่มากที่สุด
สรุปทั้งหมด
การทำโฆษณาในรูปแบบ CPAS ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่และมีความซับซ้อนของกระบวนการทำงานอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยการสื่อสารและทำงานร่วมกับฝั่ง Marketplace อยู่ตลอด ทำให้หลายธุรกิจเลือกที่จะตัดปัญหานี้ โดยการให้ Digital Agency จัดการให้ทั้งหมด
แต่ถึงแม้ในการทำโฆษณาแบบ CPAS จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนเพียงใด แต่ผลลัพธ์ที่คุณจะได้กลับมาจากการทำโฆษณารูปแบบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือโอกาสทางธุรกิจก็ถือว่า “คุ้มค่า” กับการยอมลงทุนและเวลาที่เสียไปแน่นอน
“A better tomorrow starts today”
Line@: bit.ly/ForeToday
FB Chat: http://m.me/foretoday
“A better tomorrow starts today “