การแข่งขันทางการตลาดมีความรุนแรงและดุเดือดมากขึ้นในทุก ๆ วัน แน่นอนว่าช่องทางการขายสินค้าหรือบริการก็มีเพิ่มมากมายตามไปด้วย กลยุทธ์ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Fandom Marketing กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายวงการ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูงและมีฐานแฟนคลับที่ภักดี แนวคิดของการใช้กลุ่มคนดังหรือ Celebrity Marketing เป็นตัวกลางในการดึงดูดแฟนคลับมาร่วมสนับสนุนแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การนำ Fandom Marketing มาใช้ในกลยุทธ์การตลาดนั้นได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ไม่เพียงแต่ในแง่ของยอดขายที่พุ่งสูงขึ้น แต่ยังช่วยสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ในหมู่แฟนคลับได้อย่างยั่งยืน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า Fandom Marketing คืออะไร, การใช้ Celebrity Marketing และ Fandom Marketing เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างผลลัพธ์ได้อย่างไร, และ แนวทางการประยุกต์ใช้ Fandom Marketing เพื่อให้เกิดผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงการทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อต่อยอดในการยิงแอด พร้อมแนะนำเอเจนซีที่มีบริการรับทำโฆษณา Facebook และ Instagram
Table of Contents
ToggleCelebrity และ Fandom Marketing คืออะไร
หลายคนเข้าใจว่ากลยุทธ์การตลาดทั้ง 2 รูปแบบนี้เป็นกลยุทธ์เดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 กลยุทธ์นี้มีความแตกต่างและคล้ายคลึงกันในบางส่วน ในหัวข้อนี้แอดมินจึงจะมาแนะนำรายละเอียดของกลยุทธ์เหล่านี้กัน
- Celebrity Marketing
Celebrity Marketing หรือการใช้คนดังมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ คือการนำบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ เช่น นักแสดง, นักร้อง, นักกีฬา หรืออินฟลูเอนเซอร์ มาเป็นผู้โปรโมตสินค้าหรือบริการของแบรนด์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการรับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ การใช้ Celebrity Marketing ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ติดตามและชื่นชอบคนดังนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจหลายรายใช้กันอย่างแพร่หลาย
- Fandom Marketing
Fandom Marketing คือการใช้กลุ่มแฟนคลับที่มีความภักดีและเชื่อมั่นในตัวคนดังหรือแบรนด์ในการสร้างฐานลูกค้าประจำ โดยกลุ่มแฟนคลับจะช่วยผลักดันแบรนด์ด้วยการสนับสนุนและกระจายข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าและบริการในหมู่ของพวกเขา Fandom Marketing จึงไม่ใช่แค่การเลือกใช้คนดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์กับแฟนคลับและการสร้างชุมชนที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์อย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การซื้อซ้ำ หรือการแนะนำต่อให้กับคนอื่น ๆ
ยกตัวอย่างแบรนด์ที่การใช้กลยุทธ์แนวนี้
ปัจจุบันจะสังเกตเห็นได้ว่ากลยุทธ์ Fandom Marketing มีการแพร่หลายไปทั่วโลก แม้กระทั่งฝั่งอเมริกาหรือยุโรปก็ยังหันมาให้ความสนใจกลยุทธ์นี้ ด้วยกำลังซื้อของแฟนคลับและความภักดีที่มีต่อศิลปินที่ชอบนั้น สูงจนหลายคนคาดไม่ถึง เรามาดูกันว่าตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์นี้มีอะไรบ้าง
- Nike และ Karina (aespa)
Nike แบรนด์จำหน่ายสินค้ากีฬาอันดับต้น ๆ ที่รู้จักกันไปทั่วโลก ได้เลือก Karina จากวง aespa ให้เป็นหนึ่งใน Nike Family เพื่อทำการโปรโมทสินค้ามากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าคาริน่าจะใส่สินค้ารุ่นไหนของ Nike แฟนคลับและคนทั่วไปก็จะตามไปซื้อจน Sold Out
- Gentle Monster และ Jennie (Black Pink)
สาวสวยสุดแซ่บ เจ้าแม่แฟชั่นแห่งวงการ K-POP ที่ไม่ว่าจะใส่อะไร แต่งตัวแบบไหนก็จะเกิดเป็นเทรนด์ เป็นกระแสจนคนแต่งตามกันอย่างล้นหลาม รวมถึงแว่น Gentle Monster ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นหลังจากได้ร่วมงานกับ Jennie รวมถึงมีการออกคอลเลกชันพิเศษ เอาใจแฟน ๆ อีกด้วย
- Sunsu และ BUS (Because of you I shine)
นาทีนี้วงการ T-pop จะไม่พูดถึงวง BUS คงจะไม่ได้ หลังจากเดบิวท์มาก็ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ อีกทั้งยังคว้าตำแหน่งพรีเซนเตอร์ไปอีกมากมาย จนเรียกได้ว่าไปที่ไหนก็เจอ BUS ที่นั่น โดย Sunsu เองก็เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เล็งเห็นถึงชื่อเสียงและ Potential ที่วงมี จนเลือกมาให้เป็นพรีเซนเตอร์ แน่นอนว่าเลือกมาทั้งทีก็จัดกลยุทธ์เด็ดกันไปอย่างจุก ๆ ทั้งมีสกรีนหน้าลงบนแพคเกจจิง รวมถึงการแถม Photocard ให้กับคนที่อุดหนุน ที่สำคัญคือหาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
แนวทางการประยุกต์ใช้ Fandom Marketing ให้ได้ผล
การใช้ Fandom Marketing เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากในการดึงดูดและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้ นอกจากการใช้ Fandom Marketing เป็นจุดเริ่มต้นแล้ว การใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นความภักดีและการสนับสนุนจากแฟนคลับจะยิ่งทำให้แบรนด์เติบโตในระยะยาว นี่คือ 5 แนวทาง ที่สามารถนำไปใช้ได้
- Top Spender และสิทธิพิเศษ
กิจกรรมสำหรับ Top Spender หรือผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจเป็นอันดับต้น ๆ ของการทำการตลาดเลยก็ว่า เนื่องจากการมียอดขายหรือยอดซื้อสูงที่สุดนั้น ต้องแลกมากับสิทธิพิเศษที่พิเศษมากจนต้องยอมจ่ายในราคาสูง เช่น การพูดคุยกับศิลปิน การได้ร่วม Fan Meeting การได้ลายเซนต์ หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น โดยกิจกรรม Top Spender นี้ ในบางธุรกิจมียอดต่อคนสูงถึงหลักแสนเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่การันตีจากยอดซื้อโดยไม่ต้องเอาไปสุ่มเพื่อเสี่ยงดวง แน่นอนว่าแฟนคลับคนไหนที่มีกำลังซื้อมากพอ ย่อมต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อศิลปินที่ชื่นชอบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังไม่รวมกันแฟนคลับที่แม้จะกำลังซื้อน้อย แต่ก็อาจใช้จ่ายในยอดปานกลาง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในลำดับท้าย ๆ พูดได้เลยว่าธุรกิจได้กำไรแบบเน้น ๆ
- Photocard หรือของแถมพิเศษ
กิจกรรมแถมของแถมพิเศษหรือที่ส่วนมากจะแถมเป็น Photocard ใส่เข้าไปในแพคเกจจิงของสินค้า อาจดูเหมือนไม่ใช่การกระตุ้นยอดขายที่พิเศษมากเท่าไร แต่ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่สร้างยอดขายและกำไรให้ธุรกิจกันมาอย่างเหลือเชื่อ หากลองสุ่มหาธุรกิจที่มีเหล่าคนดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยเฉพาะศิลปินจากวงการเพลง แน่นอนว่า 98% ต้องมีการแถม Photocard ไปในสินค้าชิ้นนั้น ๆ ถึงแม้ว่าของแถมอาจจะดูธรรมดา แต่ในวงการติ่งนั้นรู้กันดีว่า Photocard ของเมนที่เราชอบนั้นมีค่าและหายากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร โดยเฉพาะการต้องซื้อสินค้าเพื่อสุ่มเปิดว่าจะได้การ์ดของเมนตัวเองไหม ร้อยทั้งร้อยมักจะไม่ได้ จนเกิดการแลกเปลี่ยนหรือซื้อใหม่กันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งแบรนด์ไหนเห็นโอกาสตรงนี้และเลือกใช้ Photocard หลาย ๆ แบบต่อ 1 คนละก็ แฟนคลับต้องตามซื้อตามเหมากันอย่างถล่มถลาย
- Special Collection
สินค้าคอลเลกชันพิเศษ เป็นกลยุทธ์ที่อาจไม่ได้เห็นบ่อยมากนักเนื่องจากมีต้นทุนสูง ทั้งการออกแบบและการผลิต แต่หากธุรกิจใดมั่นใจในตัวพรีเซนเตอร์ของตัวเองมาพอละก็ แฟนคลับอาจมีโอกาสได้เห็นสินค้าในคอลเลกชันพิเศษได้ เช่น แบรนด์ Gucci กับ ไค EXO ที่มีการออกคอลเลกชันพิเศษ ด้วยการนำหมีมาประกอบกับดีไซน์ของ Gucci แน่นอนว่ากระแสตอบรับของแฟนคลับเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก ด้วยคาแรคเตอร์ของคุณไค กับน้องหมี ที่มีไวป์ตรงกับแบรนด์อย่างกลมกล่อม ถือเป็นหนึ่งใน Special Collection ที่เป็นที่พูดถึงและเป็นตัวอย่างการทำ Fandom Marketing ที่ประสบความสำเร็จอีกหนึ่งอย่าง
- กิจกรรมการร่วมสนุกกับแฟนคลับ
กิจกรรมร่วมสนุกกับแฟนคลับอาจไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ยอดขายเป็นหลัก แต่วัตถุประสงค์ของแบรนด์คือการเพิ่มการรับรู้ เพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ มากขึ้น เช่น การให้แฟนคลับถ่ายรูปคู่สินค้าติดแฮชแท็ก พร้อมบรรยายความชอบหรือความรู้สึกที่มีต่อสินค้า เพื่อโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย พร้อมรอรับของรางวัลจากแบรนด์ แน่นอนว่าของรางวัลอาจไม่ได้มีมูลค่าสูง แต่แฟนคลับส่วนใหญ่รู้ดีว่ายิ่งตนเองสร้าง Engagement ให้แบรนด์มากเท่าไร ก็จะส่งผลดีต่อศิลปินมากเท่านั้น กิจกรรมนี้จึงไม่เพียงแค่แบรนด์ที่ได้ประโยชน์ แต่ถือเป็นการเล่นกับจิตใจของแฟนคลับที่ต้องการทุ่มเทเพื่อศิลปินที่ตนรักอีกด้วย
- กิจกรรม Fan-sign
กิจกรรมที่เห็นได้บ่อยจากฝั่ง K-POP โดยสามารถเข้าร่วมงานได้จากการซื้ออัลบั้ม โดยแต่ละงานก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บ้างก็เอาจากยอดซื้อสูงสุด บ้างก็สุ่มสิทธิ์ เพื่อความเท่าเทียมกันของแฟนคลับ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็สร้างยอดขายให้บริษัทได้มากเช่นกัน สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Fandom Marketing ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับ Top Spender แต่อาจใช้การสุ่มร่วมด้วย ซึ่งการได้เข้าร่วมกิจกรรมในการพูดคุยกับศิลปินนั้น ไม่ใช่ใครก็มีโอกาส ดังนั้นนี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปความน่าสนใจ และแนะนำการยิงแอดผ่านแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มผู้ใช้งานตรงจุด
การใช้ Fandom Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์สูงมาก การเชื่อมต่อกับกลุ่มแฟนคลับที่มีความภักดีและพร้อมสนับสนุนแบรนด์อย่างเต็มที่ ทำให้การตลาดไม่ใช่แค่เรื่องการดึงดูดลูกค้าชั่วคราว แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า การทำ Fandom Marketing ที่ประสบความสำเร็จยังต้องผสานกับการใช้ แพลตฟอร์มการยิงแอดที่ตรงจุด เช่น Facebook Ads หรือ Instagram Ads ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่มีความสนใจในแบรนด์นั้น ๆ การยิงแอดไปยังกลุ่มผู้ที่ติดตาม Celebrity หรือผู้ที่สนับสนุนแบรนด์อย่างภักดี จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงและกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้อย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการให้กลยุทธ์ Fandom Marketing ที่คุณใช้อยู่มีผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ForeToday พร้อมที่จะช่วยวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฟนคลับอย่างมืออาชีพ ด้วยบริการรับทำโฆษณา Facebook และ Instagram ตั้งแต่การสร้างแคมเปญยิงแอดไปจนถึงการวิเคราะห์ผลอย่างโปร่งใส