คุณเคยเหนื่อย หยุดเครียดไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดวน คิดมากบ้างไหม สิ่งเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ การงานอาจจะรวมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ด้วยซ้ำไป วันนี้ทาง ForeToday จะมาแชร์วิธีการที่จะกดปุ่มปิดสวิตซ์ความเครียด ความคิดที่มันมากเกินไปหรือว่าความเหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ เพื่อที่เราจะได้เอาเรี่ยวแรงกำลังที่มีถูกบั่นทอนที่สามอย่างเนี่ยไปทำอะไรที่มันดีๆกับทั้งตัวเองทั้งคนอื่น
1.การบริหารจัดการความเครียด
เป็นทักษะที่สำคัญมากๆของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคนี้ที่มีความเครียดมากมายเหลือเกินรายล้อมรอบตัวเรา ไม่มีใครหรอกที่ไม่เครียด แต่มันสำคัญตรงที่ใครหายเครียดได้เร็วกว่าหรือใครสามารถเอาความเครียดไปปรับใช้ได้อย่างเต็มที่กว่ากันคนนั้นชนะ
วิธีแก้เครียดขั้นพื้นฐาน
1.1 ต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองเครียดเรื่องอะไร ต้องหายเจอไม่ใช่ว่าเครียดอะไรก็ไม่รู้อย่างนี้ไม่มีทางหายยิ่งจะเครียดขึ้นดีซ้ำ
1.2 เขียนออกมา บางครั้งปล่อยไว้ในหัวอาจทำให้มองไม่เห็น ลองลิสต์สิ่งที่อยู่ในความคิดออกมาเป็นข้อๆ
1.3 Take on too much หลายครั้งการที่เราทำนู่นนี่มากเกินไป จนลืมนึกถึง limit ตัวเอง
1.4 อยู่ใกล้อะไรแล้วเครียด ให้หลีกเลี่ยง
1.5 หาวิธี communicate อย่ากักเก็บปัญหาไว้มากเกินไป
1.6 มองวิกฤตให้เป็นโอกาส
1.7 แยกให้ออกว่าอะไรเป็นปัญหาที่แก้ได้
1.8 Learn to forgive ปล่อยวางให้ได้
1.9 อย่าจัดการความเครียดคนเดียว ความเครียดบางอย่างไม่จำเป็นต้องกำจัด แค่เฉลี่ยออกไป อาจจะ manage ปัญหาต่างๆง่ายขึ้น
2. ความเหนื่อยล้าสะสม
น่าจะเป็นปัญหาของคนเยอะมากเลยหลายคน ความเหน็ดเหนื่อยทางจิตใจจากการมีจิตใจที่ไม่แข็งแรง เมื่อยล้าเกินไป จนเราตั้งสมาธิกับอะไรได้ยาก
สาเหตุของความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้สาเหตุ มีอะไรบ้าง มาดูกันทีละข้อ
2.1 นอนไม่พอ เมื่อไหร่ที่คุณนอนไม่พอคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยได้โดยไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย เพราะฉะนั้น แก้ง่ายๆเลยคือ พยายามนอนและตื่นให้เป็นเวลา
2.2 เลี่ยงการงีบ ถ้าเป็นในคนปกติจริงๆการงีบช่วงบ่ายสัก 15 นาที จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ แต่ในกรณีคนที่เหนื่อยตลอดเวลา ควรหลีกเลี่ยงการงีบเพราะตอนนอนจะได้นอนหลับเพียงพอ
2.3 ถ้าพยายามนอน แล้วนอนไม่หลับ เพราะกังวลหรือคิดถึงอะไรสักอย่าง วิธีคือ ลุกขึ้นมานั่งในความมืดจนกว่าจะหลับ
2.4 ทานอาหารให้ดี ดื่มน้ำให้เพียงพอ
2.5 เคลื่อนไหวให้ร่างกายตื่นตัว ถ้ามีอาการเหนื่อยหนืด ซึมๆ เนือยๆ ยิ่งอยู่นิ่งๆยิ่งหมดแรง วิธีคือ พาตัวเองออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ ออกไปเดิน ออกกำลังกาย ให้ร่างกายได้ตื่นตัว
2.6 ความเครียดที่มากและนานเกินไป วิธีนี้จะสอดคล้องกับเรื่องข้างบนที่กล่สวไปข้างต้นนะคะ ความเครียดอ่อนๆ จะทำให้ให้เราตื่นตัว แต่อย่าจมกับความเครียดนานเกินไป
2.7 ถ้าเหนื่อย / เพลีย ไม่เลิก อาจจะต้องหาหมอ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
3. คิดวน หยุดคิดไม่ได้
เรื่องนี้เป็น skills สามารถฝึกให้เรามีสติ และรู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร ฝึกตัดจบและเคลียร์ออกไปจากใจ
3.1 Write it down พรั่งพรูออกมาจากสมองสู่กระดาษ เขียนออกมาเป็นข้อๆ อย่างเป็นระบบ จะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าปัญหาอันไหน ต้องการทางแก้ หรือเรื่องไหนแค่ต้องการระบาย
3.2 ไม่จมอยู่กับตัวเองมากเกินไป หาอะไรใหม่ๆ ที่เป็นจุดโฟกัสใหม่ หรืออ่านหนังสือเพิ่มเติมก็ได้เหมือนกัน
3.3 Ask for advice เรื่องที่เราคิดวน ถ้าพูดขึ้นมาอาจมีคนช่วยคิดแก้ปัญหา หรือเรื่องที่เราคิดวนนั้นต้องถามใคร ถึงจะช่วยได้บ้าง
3.4 Take action เรื่องบางอย่างเราคิดวนเพราะกลัว กลัวอะไร ต้องรู้ เพราะต้องจัดการให้ได้ แล้วลงมือทำ
3.5 ถ้าหยุดคิดไม่ได้ ก็จัดสรรเวลาคิดให้เป็นเรื่องเป็นราว
ทั้งหมดนี้ คือ วิธีการจัดการกับตัวเอง ในวันที่เราเหนื่อยล้า เครียด คิดมาก ที่นำมาฝากกัน จริงๆแล้วความเครียดไม่ใช่เรื่องไม่ดีซะทีเดียว ความเครียดในปริมาณอ่อน สามารถแปลงให้กลายเป็นความตื่นตัวได้ แต่ต้องอยู่ในความเข้มข้น และระยะเวลาที่พอเหมาะ รวมไปถึง การฝึกให้ตัวเองรับมือ และจัดการกับ ความเครียด ความเหนื่อยล้าที่เข้ามา ให้เราสามารถเก็บเกี่ยวและเรียนรู้จากมันได้ค่ะ