Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

LTV : CAC Ratio คืออะไร

LTV : CAC Ratio คืออะไร? ทำไมต้องสน?

วันนี้เราก็จะมาพูดถึงอีกหนึ่ง metric ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก หรือแม้กระทั้งนักการตลาดหรือเอเจนซี่หลายๆคนยังไม่เคยได้ยินเช่นกัน เวลาเราพูดถึงการ optimise ads นักการตลาดหลายๆคนก็มักจะโฟกัสไปที่ Cost per conversion , Cost per sale, Cost per lead ซึ่งทุกคนก็จะมุ่งไปเป้าไปที่การทำการ Cost per เหล่านี้น้อยที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ไม่ผิดเลย แต่ส่วนใหญ่ถ้ามุ่งเป้าไปที่ 2 metrics นั้นมากเกินไปก็อาจจะจบด้วยการ limit การใช้ budget ซึ่งนั้นก็อาจจะหมายความว่าเราอาจจะทำการปิดกั้นโอกาสในการได้ลูกค้าหรือ conversion ที่มากกว่าเดิม

Lifetime Value (LTV)

คือ มูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า ซึ่งจะแสดงจำนวนเงินที่ลูกค้าใช้จ่ายในธุรกิจหรือในสินค้า ทำให้สามารถคาดการณ์การซื้อขายสินค้าได้ และนำไปเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ว่าจะลงทุนเท่าไหร่ต่อการรักษาฐานลูกค้าเดิม หรือสร้างฐานลูกค้าใหม่

Customer Acquisition Cost (CAC)

คือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการหาลูกค้า 1 คน ซึ่งคำนวณมาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและการขายที่บริษัทใช้ในการหาลูกค้าในช่วงเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปนิยมคิดเป็นช่วง 1 ปี*) ซึ่งในที่นี้จะรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดเลย ทั้งเงินเดือน, ค่าคอมมิชชันต่าง ๆ หรือค่าเครื่องมือที่ใช้ในการทำการตลาดหรือการขายที่มีส่วนทำให้ได้ “ลูกค้า” มา

ตัวอย่าง
สมมุติว่าวันนี้เราคือนักการตลาดของ netflix เราพบว่า Cost per conversion ของลูกค้าที่เข้ามาจาก facebook ถูกกว่าลูกค้าที่เข้ามาจากการทำ email marketing ประมาณ 3 เท่า ถ้าเราตัดสินจากแค่ cost per conversion แน่นอนว่าเราควรลดงบประมาณบน email marketing หรือ หยุดทำมันไป แต่ต่อมาเรากลับพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาจากเฟสบุ๊คนั้นเข้ามาและดูโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เดือน ต่างกับลูกค้าที่เข้ามาจาก email marketing ที่มีการ subscription ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

สูตรของการคำนวนก็คือ

LTV = Average value x number of transaction x Retention time period

มูลค่าตลอดอายุการใช้งาน = ค่าเฉลี่ยของการซื้อต่อครั้ง x จำนวนการซื้อต่อครั้ง x ความถี่ของการซื้อ

สมมุติว่าคิด Subscription fee : 100 บาท/เดือน

Facebook LTV ของคุณ = 100 บาท x 1 ครั้ง x 2 เดือน เท่ากับ 200 บาทต่อปี

ในขณะที่ Email marketing LTV = 100 บาท x 1 ครั้ง x 12 เดือน = 1200 บาท

หรือในกรณีสินค้า หากสมมุติว่าคุณขายอาหารเสริมที่มีมูลค่าต่อขวดคือ 500 บาท

ลูกค้าสั่งซื้อจำนวน 2 ขวดต่อครั้ง และต้องสั่งซื้อทุก 2 เดือน

LTV ของคุณ = 500 บาท x 2 ครั้ง x 6 เดือน = 6,000 บาทต่อปี

หากกำไรต่อขวดของคุณคือ 200 บาท หรือ 40%

Customer Lifetime Value ของคุณก็คือ 2,400 บาทต่อปี ( 6,000 x 40% )

เราจะสังเกตได้ว่ามูลค่าของลูกค้าคนนึงไม่ได้อยู่ที่ conversion แรก conversion เดียว การที่เรา focus แค่ที่ cost per conversion อาจจะทำให้เรามองข้ามมูลค่าที่แท้จริง หรือ LTV ของลูกค้าเจ้านั้นไป

เพิ่มมูลค่า Customer Lifetime Value (CLV) ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

1.ทำ Personalized Marketing เพื่อเพิ่ม Conversion ผ่านทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ในการสร้างลูกค้าใหม่ๆ

2.สร้าง Customer Loyalty Program มาใช้เพื่อเพิ่มความภักดีของลูกค้าประจำและโอกาสในการสร้างลูกค้าใหม่ๆ

3.สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าด้วยการทำ Retargeting เพื่อย้ำเตือนให้กลับมาซื้อสินค้าบ่อยๆ

4.สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้าด้วยการสื่อสารอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เช่น การฟังความคิดเห็นลูกค้า การตอบข้อมูลที่ลูกค้าสอบถามอยู่สม่ำเสมอ

5.ทำ Cross Selling และ Up-Selling ตามโอกาสที่เหมาะสม

Google Analytics


สำหรับคนที่ใช้งาน Google Analytics บางท่านอาจจะสังเกตเห็นและเคยใช้งานรีพอร์ท Customer Lifetime Value หรือ User Explorer ที่อยู่ภายใต้เมนู Audience กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า Google Analytics ค่อนข้างให้ความสำคัญกับค่า CLV นี้มากขึ้นเรื่อยๆ

สรุป

Customer Lifetime Value (CLV) เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้ในระยะยาว ซึ่งนักการตลาดสามารถนำไปใช้เพื่อคำนวณความเหมาะสมในด้านต่างๆเพื่อนำไปคาดการณ์วางแผนด้านการเงินของธุรกิจ วิธีให้ได้มาซึ่งจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น รวมถึงจะทำอย่างไรให้ธุรกิจสามารถสร้างมูลค่าที่เหมาะสมในอนาคต และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอีกด้วย

และหากท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำโฆษณาก็สามารถทักมาสอบถามทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตามช่องทางด้านล้างนี้เลย

Line@: bit.ly/ForeToday

FB Chat: http://m.me/foretoday

“A better tomorrow starts today “

#Ad #Facebook #Bid Strategy