Pagespeed

Pagespeed Insights คืออะไร ส่งผลต่อประสิทธิภาพ seo อย่างไร

Pagespeed Insight คือ เครื่องมือวัดประสิทธิภาพความเร็วเว็บไซต์หรือ Pagespeed หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการทำ seo โดยเกี่ยวข้องกับความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ในแต่ละหน้า ส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาในการใช้งาน รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ ดังนั้นหากต้องการทำให้ประสิทธิภาพของการทำ seo ในภาพรวมออกมาดี ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการปรับ Pagespeed หรือความเร็วเว็บไซต์ให้มีความรวดเร็ว เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกในรายละเอียดของ Pagespeed Insight ใช้งานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ, แนวทางการทำ seo และแนะนำเอเจนซีที่มีบริการรับทำ seo ครบวงจร เห็นผลจริง

Pagespeed Insights คืออะไร

ในยุคที่ผู้คนต้องการข้อมูลและบริการที่รวดเร็ว การมีเว็บไซต์ที่โหลดเร็วกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมากขึ้นกว่าเดิม หากเว็บไซต์ของคุณใช้เวลานานในการโหลด จะส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกหงุดหงิดและอาจออกจากเว็บไซต์ของคุณไป ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์อย่างมาก นี่คือเหตุผลที่ Pagespeed Insights เครื่องมือจาก Google เข้ามามีบทบาทในการวัดประสิทธิภาพความเร็วเว็บไซต์และช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถปรับปรุงให้เว็บไซต์มีความเร็วสูงขึ้นได้ Pagespeed Insights คือเครื่องมือของ Google ที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการโหลดของหน้าเว็บไซต์ โดยจะให้คะแนนความเร็วในการโหลดหน้าเว็บบนทั้งอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop) พร้อมทั้งแนะนำวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้โหลดได้เร็วขึ้น เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ดูแลเว็บไซต์สามารถเข้าใจจุดที่ต้องปรับปรุงและช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว Pagespeed Insights จะให้คะแนนเว็บไซต์จาก 0 ถึง 100 คะแนน โดยคะแนนที่สูงกว่า 90 แสดงถึงเว็บไซต์ที่โหลดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำ SEO ที่ดี ไม่เพียงแค่ความเร็วที่สำคัญ แต่ยังมีการวิเคราะห์ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเว็บไซต์เช่น การบีบอัดไฟล์ การจัดการภาพ หรือการลดจำนวนคำขอ HTTP ที่ส่งผลให้เว็บไซต์โหลดช้าลงทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์บนผลการค้นหา (Search Engine Results Pages: SERPs)

วิธีการทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดได้ไวขึ้น

ความเร็วเว็บหรือการโหลดหน้าเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ไม่เพียงแค่มีผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ SEO ของเว็บไซต์ด้วย การที่เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจ แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มเวลาในการอยู่บนเว็บไซต์ ซึ่งส่งผลดีต่อการเพิ่มอัตราการแปลง (Conversion Rate) และลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ได้เช่นกัน สำหรับวิธีการทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดได้ไวขึ้นเพื่อปรับปรุงคะแนน Pagespeed Insights มีดังนี้

  • บีบอัดไฟล์ภาพและมัลติมีเดีย – การใช้ไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่อาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้าได้ ควรทำการบีบอัดไฟล์ภาพ (Image Compression) ให้มีขนาดเล็กลงโดยไม่ลดทอนคุณภาพของภาพ ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น อีกทั้งควรเลือกใช้ฟอร์แมตไฟล์ที่เหมาะสม เช่น JPEG หรือ WebP ที่ให้ขนาดไฟล์เล็กและคงคุณภาพของภาพ
  • ใช้การจัดการแคช (Cache Management) – การใช้แคชจะช่วยให้เว็บเบราว์เซอร์สามารถเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ไว้ในเครื่องผู้ใช้ เพื่อที่เว็บไซต์จะสามารถโหลดได้เร็วขึ้นเมื่อเข้ามาครั้งถัดไป วิธีนี้สามารถช่วยลดเวลาในการโหลดและเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดหน้าเว็บไซต์
  • ลดจำนวนคำขอ HTTP – เว็บไซต์ที่มีจำนวนคำขอ HTTP มากเกินไปจะทำให้การโหลดช้าลง คำขอ HTTP คือคำขอที่ส่งจากเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อโหลดไฟล์ต่าง ๆ เช่น ไฟล์ CSS, JavaScript, ภาพ หรือฟอนต์ การลดจำนวนคำขอเหล่านี้สามารถทำได้โดยการรวมไฟล์ CSS หรือ JavaScript หรือการใช้เทคนิค Lazy Load ที่จะโหลดเนื้อหาบางส่วนเมื่อผู้ใช้เลื่อนหน้าจอไปยังจุดนั้น
  • ปรับปรุงการโหลด JavaScript และ CSS – ไฟล์ JavaScript และ CSS เป็นไฟล์ที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ทำงานได้ตามที่ต้องการ แต่หากไฟล์เหล่านี้มีขนาดใหญ่และโหลดพร้อมกันทั้งหมดในครั้งแรก จะทำให้การโหลดหน้าเว็บไซต์ช้าได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการลดขนาดของไฟล์เหล่านี้ หรือการโหลดแบบ Asynchronous หรือ Defer ซึ่งจะช่วยให้การโหลดหน้าเว็บไม่ถูกขัดขวางจากไฟล์เหล่านี้
  • ใช้ CDN (Content Delivery Network) – การใช้ CDN จะช่วยให้การโหลดเว็บไซต์เร็วขึ้น โดยการจัดเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ไว้ในหลาย ๆ เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลก เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ ข้อมูลจะถูกดึงจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งช่วยให้ลดเวลาในการโหลดเว็บไซต์
  • เลือกใช้โฮสติ้งที่เร็วและมีประสิทธิภาพ – โฮสติ้งที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วขึ้น ควรเลือกใช้โฮสติ้งที่สามารถรองรับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากและให้เวลาในการโหลดที่เร็ว อีกทั้งยังควรตรวจสอบการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเว็บไซต์
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฐานข้อมูล (Database Optimization) – ฐานข้อมูลที่ไม่ได้รับการปรับปรุงสามารถทำให้การโหลดหน้าเว็บไซต์ช้าได้ การจัดการฐานข้อมูล เช่น การลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น การทำการ Indexing และการทำการ Query ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้เร็วขึ้น

แนะนำเทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพ seo

การที่เว็บไซต์มี Pagespeed หรือความเร็วในการโหลดที่ดีนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน แต่ยังส่งผลต่อ Pagespeed SEO ที่เกี่ยวข้องกับความเร็วเว็บไซต์อย่างมาก Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก หากเว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วและตอบสนองได้ดี จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับบนผลการค้นหามากขึ้น

  • ปรับปรุง Core Web Vitals – Google ได้เพิ่มการพิจารณา Core Web Vitals ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ใช้วัดประสบการณ์ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ ปัจจัยเหล่านี้รวมถึง Largest Contentful Paint (LCP), First Input Delay (FID) และ Cumulative Layout Shift (CLS) การทำให้เว็บไซต์มีค่า Core Web Vitals ที่ดี จะช่วยเพิ่มคะแนน SEO ของเว็บไซต์
  • ปรับปรุงการใช้งาน Mobile-Friendliness – ในปัจจุบัน การใช้งานเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การทำให้เว็บไซต์ของคุณรองรับการแสดงผลบนมือถืออย่างเหมาะสม (Responsive Design) เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม Google ให้ความสำคัญกับการใช้งานเว็บไซต์บนมือถือมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดอันดับ SEO
  • ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured Data) – การใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสแสดงผลในลักษณะ Rich Snippets หรือ Featured Snippets ที่ทำให้เว็บไซต์โดดเด่นในผลการค้นหา
  • ทำการวิเคราะห์และปรับปรุง SEO อย่างต่อเนื่อง – การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง การติดตามผลและปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถรักษาอันดับที่ดีได้

ใช้บริการรับทำ seo กับ ForeToday

ความเร็วเว็บไซต์หรือ Pagespeed เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์ หากเว็บไซต์ของคุณมีความเร็วที่ดี จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้เยี่ยมชม และช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับที่ดีในผลการค้นหาของ Google การใช้ Pagespeed Insights เป็นเครื่องมือในการวัดและปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการทำ SEO ให้ได้ผล หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์และเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพ ForeToday พร้อมที่จะให้บริการรับทำ SEO ที่สามารถช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีและตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ ติดต่อ ForeToday เพื่อเริ่มต้นปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้โหลดเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในโลกออนไลน์