เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทาง Google ได้ออกมาประกาศว่าจะยุติการใช้งานของ Similar Audience ลง หรือบางคนเรียกว่า Lookalike Audience ของฝั่ง Google Ads โดยมีประกาศดังนี้
- ภายในเดือน May 2023, จะไม่สามารถสร้าง Similar Audience หรือนำ Similar Audience ไปใช้ได้ แต่แคมเปญที่ยังใช้ Similar Audience ก่อนหน้านี้จะยังใช้ได้อยู่
- ภายในเดือน August 2023, สำหรับแคมเปญที่ยังใช้ Similar Audience อยุ่ จะถูกนำออกและไม่สามารถใช้ได้
หลังจาก Similar Audience ไป มีทางเลือกอื่นอะไรบ้าง
Optimized Targeting
- การทำงาน – หากลุ่ม Audience ใหม่ โดยใช้ข้อมูลจากกลุ่ม Audience ที่ทำให้เกิด Conversion
- ใช้ได้กับแคมเปญประเภทไหน – Optimized Targeting เปิดให้ใช้เฉพาะ Display, Discovery และ Video Action Campaign เท่านั้น
- ตั้งค่าที่ไหน – ตั้งค่าที่ระดับ Ad Group Setting
Audience Expansion
- การทำงาน – หากลุ่ม Audience ใหม่ โดยใช้ข้อมูลจากกลุ่ม Audience Segment ที่ระบุในระดับ Ad Group
- ใช้ได้กับแคมเปญประเภทไหน – Youtube Awareness, Reach Video, และ Consideration Video
- ตั้งค่าที่ไหน – อยู่ในส่วนของ Audience > Ad group Targeting
Smart Bidding
- การทำงาน – Google จะใช้ Machine Learning ในการแสดงโฆษณาให้กลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิด Conversion บนเว็ปไซต์เรา สามารถอ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Smart Bidding ได้ที่ เพิ่มยอดขายแบบ High Return กับ Smart Bidding บน Google Ad
- ใช้ได้กับแคมเปญประเภทไหน – ทุกแคมเปญที่เน้น Conversion
- ตั้งค่าที่ไหน – อยู่ในส่วนของ Campaign Setting
บทส่งท้ายจากเรื่อง Similar Audience
จะเห็นได้ว่า Similar Audience ที่ถูกเอาออกไปจาก Google Ads ถือเป็นการอัพเกรดมากกว่าการเลิกใช้งาน โดยทาง Google จะเน้นไปทาง Automation ด้วย Optimized Targeting, Audience Expansion, และ Smart Bidding เพื่อให้นักการตลาดทำการตลาดออนไลน์บน Google Ads ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากต้องการปรึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อทีมงาน ForeToday ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยนะครับ
“A better tomorrow starts today”
Line@ : bit.ly/ForeToday
FB Chat : http://m.me/foretoday