UTM คืออะไร ? ทำเเล้วได้อะไร ?

UTM ย่อมาจากอะไร ? UTM ย่อมาจาก (Urchin Tracking Module - UTM) เเปลว่า เป็นพิกัดภูมิศาสตร์ที่ใช้ในการระบุตำเเหน่ง ในทาง Marketing  UTM คือ เครื่องมือพื้นฐานในการทำ Website / Landing Page Tracking เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค

เเล้ว UTM คืออะไร ?

UTM คือ ชุดข้อความที่ช่วยเราในการตรวจสอบว่า มีคนคลิกลิ้งค์ของเรามาจากช่องทางไหนเช่น facebook, google, instagram เป็นต้น UTM มีไว้สำหรับให้ Google Analytics อ่านเเละเก็บบันทึกให้เราไว้ใน Reports ได้ถูกต้อง ทำให้บางครั้งเราอาจจะเห็นเว็ปไซต์ที่มี URL ยาวเป็นพิเศษ เช่น

https://foretoday.asia/en/articles/foretoday-digital-marketing-agencymarketing?utm_source=facebook&utm_medium=organic&utm_campaign=Content-why-digital-agency

วิธีทำ UTM Tracking นั้นไม่ยาก เพียงเเค่ต้องรู้ค่าพารามิเตอร์ต่างๆที่จะใช้ทำ พารามิเตอร์จะมีทั้งหมด 5 ค่าด้วยกัน

• utm_source: มีหน้าที่ระบุผู้ลงโฆษณา เว็ปไซต์ เอกสาร ที่ส่งการเข้าชมมายัง Property ของคุณ เช่น Google, Billboard
• utm_Medium: สื่อการโฆษณาหรือการตลาด
• utm_campaign: ชื่อเเต่ละเเคมเปญ สโลเเกน รหัสโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เป็นต้น
• utm_term: ระบุคำหลักในการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย หากคุณติด Tracking เเคมเปญสำหรับ Keyword ที่ได้ซื้อไว้ด้วยตัวเอง ควรใช้ utm_term เพื่อระบุ Keyword ดังกล่าวด้วย
• utm_content: ใช้เพื่อเเยกเนื้อหาที่มีความใกล้เคียงกัน หรือลิ้งค์ภายในโฆษณาเดียวกัน

เเละในการระบุพารามิเตอร์ทุกครั้งสำหรับ UTM Tracking ควรที่จะมี utm_Source, utm_medium เเละ utm_campaign อยู่เสมอ

โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กัน 2 ค่า (Parameter) คือ

• Source  ตรวจสอบในส่วนของ User เข้าเว็ปไซต์เราจากช่องทางไหนบ้าง
• Medium ตรวจสอบว่า User ผ่านเข้าเว็ปเรามาด้วยวิธีไหน

เเล้วถ้าเราใช้ UTM เเบบนี้ จะมีการเกิด Error ได้มั้ย ?? ตอบได้ว่ามีโอกาสเหมือนกัน นั่นเพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้ได้เลย ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น User คนหนึ่งเซฟลิ้งค์ UTM ของเว็ปไซต์เราไว้เพื่อเข้าใช้งานเว็ปเรา เเละผ่านไป 1 ปี เขาก็ยังเข้าผ่านลิ้งค์ที่เซฟไปจากเรา ในกรณีนี้สเเตทอาจจะเพี้ยนได้

เเล้ว ทำ UTM จะได้อะไร ?

สำหรับผู้อ่านที่ทำ Multi - Channel Marketing ( คือการตลาดช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น หมายถึงความสามารถในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยใช้ช่องทางต่างๆ เช่นเว็บไซต์ E-Commerce, Social Media ต่างๆ, อีเว้นท์ หรือ Print Ad ในการสื่อสารกับผู้บริโภค )คงต้องอยากรู้อยู่เเล้วว่าเงินของเราที่ลงทุนไปมันเกิดผลอะไรขึ้นบ้าง เเล้วมันคุ้มค่าต่อการลงทุนรึไม่? เเล้วจุดไหนที่ควรลงทุนต่อ จุดไหนควรปิดไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย

UTM ช่วยคุณได้นะ  เพราะว่า UTM สามารถตอบคำถามเเละข้อสงสัยข้อนี้ของคุณได้อย่างเเม่นยำด้วยภาพรวมของ Data จะบอกหมดว่าข่องทางไหนทำเงินได้มากที่สุด ( ถ้าคุณผู้อ่านตั้งGoals ไว้เป็นจำนวนเงิน ) เเล้วลองนำมา เทียบกับROI ดูนะครับว่า ช่องทางไหนทำเเล้วรุ่งช่องทางไหนทำเเล้วน่าจะร่วง เราจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากว่าควรไปทางไหนต่อเเละใช่ว่าการทำ UTM จะไม่มีสิ่งที่ควรระวังเลย เพราะถ้าหากทำไม่ถูกต้อง จะส่งผลถึงการเก็ข้อมูล

ข้อควรระวังของการทำ UTM

• Case Sensitive หลีกเลี่ยงการใช้ตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่ในการคีย์ค่า ( ใช้อะไรก็ได้เเต่ พยายามใช้ให้เหมือนกันตลอด ) UTM เพราะว่าการใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็ก- ใหญ่ที่ไม่ซ้ำกันในเเต่ละครั้ง จะส่งผลถึงการเก็บข้อมูล ที่จะเเยกออกเป็น 2ส่วน  ( ทั้งๆที่อาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน เเต่เราคีย์ค่าต่างกัน ตัวจัดเก็บข้อมูลจะเเยกหัวข้อออกให้อัตโนมัติ)
• หลีกเลี่ยงการใช้ Spacebar ในการเว้นวรรคคำของการใส่ค่า UTM เเนะนำให้ใช้เครื่องหมาย ( - ) เเทน

"วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า จะได้มาต้องเริ่มที่วันนี้"

"A better tomorrow starts today"