การเพิ่มมูลค่าสินค้าของ Offline/Online ที่ต่างกัน
ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายในการซื้อสินค้า ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถแข่งขันและสร้างความจงรักภักดีจากลูกค้าได้ แต่ละช่องทางมีวิธีการเพิ่มมูลค่าที่แตกต่างกัน เนื่องจากลักษณะของการขายที่ไม่เหมือนกัน บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการเพิ่มมูลค่าสินค้าทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์โดยใช้ตัวอย่างจากสถานที่และสถานการณ์ที่แตกต่างกัน 1. Offline: การเพิ่มมูลค่าสินค้าผ่านสถานที่และสถานการณ์ What?การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการในช่องทางออฟไลน์มักจะขึ้นอยู่กับสถานที่และสถานการณ์ เช่น ร้านค้าหรือสถานที่ที่มีผู้คนเยอะ หรือสถานที่เฉพาะที่มีความต้องการสูง สามารถตั้งราคาสินค้าหรือบริการที่สูงขึ้นได้ เพราะผู้บริโภคอาจมองว่าการเข้าถึงสินค้านั้นยากหรือมีความพิเศษที่สอดคล้องกับสถานที่ When?ช่วงเวลาที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ เช่น ในช่วงเทศกาลหรืองานพิเศษ การตั้งราคาในสถานการณ์ที่ความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น วันหยุดปีใหม่ หรือช่วงที่มีโปรโมชั่นร่วมกับสถานที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือกิจกรรมพิเศษที่ดึงดูดลูกค้า Where?สถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือพื้นที่ที่มีความหรูหรา เช่น ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม โรงแรมหรู หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ สินค้าและบริการในสถานที่เหล่านี้มักถูกตั้งราคาให้สูงขึ้นเพื่อสะท้อนถึงประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านทั่วไป How?การสร้างบรรยากาศภายในร้านที่หรูหรา บริการที่เหนือชั้น หรือการสร้างประสบการณ์ที่พิเศษสำหรับลูกค้า เช่น การบริการส่วนตัว หรือการจัดทำกิจกรรมพิเศษที่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้ามีคุณค่าและพิเศษมากกว่าที่อื่น 2. Online: การเพิ่มมูลค่าผ่านการออกแบบร้านและแพลตฟอร์มที่ถูกต้อง What?การเพิ่มมูลค่าในช่องทางออนไลน์มักไม่เน้นการแข่งขันเรื่องราคา แต่จะเน้นที่การออกแบบร้านค้าออนไลน์ (Online Shop Design) การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม และการนำเสนอสินค้าในวิธีที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าสินค้ามีคุณค่าเกินราคาที่จ่าย When?ช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการเพิ่มมูลค่าในออนไลน์ เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ การสร้างแคมเปญพิเศษ หรือในช่วงที่มีโปรโมชั่นเฉพาะช่องทางออนไลน์ ที่เน้นให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านี้ไม่สามารถหาที่อื่นได้ Where?การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม […]
แรงมากแม่! เคาะแล้ว 5 เทรนด์ธุรกิจใหญ่ ปี 2025 เกียมตัวได้เลออออ ตั้งแต่ Day นี้
1. Getting Strategic With Generative AI Generative AI คือเทคโนโลยีที่ฉลาดสุดๆ สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ ให้กับเทรนด์ธุรกิจได้เอง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือแม้แต่เสียง ด้วยการใช้โมเดล AI ที่เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ เทคโนโลยีนี้สามารถเปลี่ยนโฉมธุรกิจได้เลย เพราะช่วยทำให้การผลิตคอนเทนต์ง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าได้ไวสุดๆ สำหรับแบรนด์ที่อยากนำ Generative AI มาใช้ให้ได้ผลดี ควรปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับจุดแข็งของเทคโนโลยีนี้ เช่น ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สร้างโฆษณาเฉพาะตัว หรือพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น อุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จาก Generative AI แบบเต็มๆ คือ การตลาด การผลิตคอนเทนต์ และเทคโนโลยี เพราะ AI สามารถสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจและปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการของตลาดได้อย่างลงตัว 2. Sustainable Business And Circular Economies Sustainable Business คือการที่องค์กรแสดงให้เห็นถึงแนวทางเทรนด์ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนได้รับแรงผลักดันจากทั้งแรงกดดันทางกฎระเบียบและความต้องการของผู้บริโภค และในส่วนของแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular […]
สูตรสำเร็จยุคใหม่: ความหลากหลายในทีมงานเปลี่ยนองค์กรยังไง?
“เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางบริษัทถึงปังสุดๆ ในยุคดิจิทัลแบบนี้? นอกจากไอเดียเจ๋งๆ และเทคโนโลยีล้ำๆ แล้ว ลับเฉพาะอีกอย่างที่ทำให้บริษัทเหล่านั้นก้าวกระโดดไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว คือ “ความหลากหลายของพนักงาน” หรือที่เราเรียกกันว่า Workforce Diversity นั่นเอง! ฟังดูอาจจะธรรมดา แต่ความหลากหลายนี่แหละ คือเหมือนเครื่องปรุงรสที่ทำให้ทีมงานของเราอร่อยกลมกล่อมขึ้นนะ! เพราะคนเรามีความคิดที่แตกต่างกัน มีประสบการณ์ที่หลากหลาย พอเอามารวมกันก็จะเกิดไอเดียใหม่ๆ ที่เจ๋งกว่าเดิม แถมยังเข้าใจลูกค้าได้รอบด้านมากขึ้นอีกด้วยแต่ทำไมความหลากหลายถึงสำคัญขนาดนั้น? และจะทำยังไงให้บริษัทของเรามีความหลากหลายได้แบบยั่งยืน? ตามมาหาคำตอบกันเลย! บทความนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกเรื่อง Workforce Diversity กันแบบสนุกๆ พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ว่าทำไมมันถึงเป็นสูตรลับความสำเร็จของบริษัทในยุคดิจิทัล” 1. เพศ (Gender) การสร้างทีมงานที่หลากหลายกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเสริมความสำเร็จให้กับองค์กร การเปิดกว้างต่อความแตกต่างไม่เพียงแต่สร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในเรื่องบรรยากาศการทำงาน และประสิทธิภาพในองค์กร มาดูกันว่าเหตุใดการส่งเสริมความหลากหลายในทีมงานจึงสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ความสำเร็จในยุคปัจจุบัน การยอมรับความหลากหลายทางเพศในองค์กรช่วยเสริมสร้างความเท่าเทียมและการเปิดโอกาส ทีมงานที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถนำเสนอมุมมองและแนวคิดที่หลากหลายมากขึ้น บรรยากาศการทำงานที่เคารพในคุณค่าของแต่ละบุคคลช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี องค์กรที่สนับสนุนความหลากหลายเป็นที่น่าดึงดูดสำหรับบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถ ตัวอย่างการยอมรับความหลากหลายทางเพศ 2. ศาสนา (Religion) ปัจจุบันในด้านของความหลากหลายทางศานานั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน หากพนักงานสามารถแสดงออกเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาของตนได้อย่างอิสระ คนในองค์กรให้เกียรติและเคารพความเชื่อที่แตกต่างซึ่งกันและกัน องค์กรจะเป็นที่ยอมรับและได้ได้รับความไว้วางใจจากพนักงาน รวมไปถึงยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของสาธารณชน หรือแม้กระทั่งจากลูกค้าได้ด้วยเช่นกัน หากในองค์กรไหนที่มีการยอมรับและสามารถปรับตัวได้จะเป็นผลดีต่อองค์กรด้วยอย่างยิ่ง […]