Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

คนทำ Shoppertainment ต้องรู้ ! 6 demand spaces ใน e-commerce

ในปัจจุบันกระแส Shoppertainment กำลังมาแรงมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Shoppertainment มาจากคำว่า  “Shopping + Entertainment”  คือ คอนเทนต์ที่สามารถทำให้เกิดการซื้อขายได้  ซึ่งจะเน้นในการให้ข้อมูลของสินค้าอย่างสนุกไปในตัวตั้งแต่เห็นคอนเทนต์ครั้งแรกและทำให้เกิดการซื้อขายในที่สุด ซึ่งกำลังมาแรงสุดๆในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น TiKToK หรือ Live ขายของใน Platform ต่างๆ


โดยวิจัยของ BCG หรือ The Boston Consulting Group ได้มีวิจัยนเกี่ยวกับ ขอบเขตการขยายของ Shoppertainment ที่นำไปสู่ 6 ความต้องการหลัก ระหว่างสองกลุ่มหลัก โดยผู้บริโภคแต่ละคนนั้นจะมีพื้นที่ความต้องการแตกต่างกันไปในแต่ละเส้นทางของผู้บริโภคหรือ consumer journey ซึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆคือ Functional Need และ Emotional Need คือความต้องการด้านเหตุผลและความต้องการด้านอารมณ์นั่นเอง

วันนี้เราจะพามารู้จักกับ 6 พื้นที่ความต้องการ หรือ 6 demand spaces

Functional Need ความต้องการด้านเหตุผล

โดยผู้บริโภคจะมีความสนใจและโฟกัสไปที่สินค้าที่มีอยู่โดยไม่พิจารณาทางเลือกใหม่ คิดเป็นประมาณ 60% ของ e-commerce ประกอบไปด้วย

1. ความต้องการแบบ Convenience  หรือ Easy for me 

ความต้องการที่ผู้บริโภคมองหาเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น ผ่านการซื้อสินค้าประจำวัน เช่น สามารถจับจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้สำเร็จทุกสัปดาห์ 

2. ความต้องการแบบ Improvement (Better for me) 

ความต้องการที่ผู้บริโภคกำลังมองหาการอัปเกรด หรือหาโอกาสและจทางเลือกที่ดีกว่าในการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น เจอผงซักฟอกที่ดีกว่าในราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อย

3. ความต้องการแบบ Validation (Confirm for me)

ความต้องการที่เกิดขึ้นเมื่อเราตัดสินใจที่จะทำการซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว โดยผู้ซื้อนั้นจะทำการซื้อสินค้าเมื่อแน่ใจว่าสินค้าที่ต้องการซื้อนั้นตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุดและมั่นใจว่าสินค้าชนิดนี้จะสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของตนเองได้แล้วถึงจะทำการตัดสินใจซื้อ โดยผู้ซื้อนั้นจะมั่นใจมากว่าการตัดสินใจซื้อสินค้านั้นถูกต้อง เช่น การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่

Emotional Need ความต้องการด้านอารมณ์

เป็นการที่ผู้บริโภคนั้นกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงและกระตือรือร้นพิจารณาสินค้าใหม่ และเปลี่ยนแบรนด์ คิดเป็นประมาณ 40% ของ e-commerce ประกอบไปด้วย

4. ความต้องการแบบ Recommendation  (Advise me)

ความต้องการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีคนมาแนะนำสินค้าหรือบริการกับเรา ทำให้เราเกิดความสนใจที่จะทำการซื้อสินค้าขึ้นมาแต่ยังอยู่ในช่วงที่กำลังตัดสินใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการออกสินค้าใหม่ล่าสุดและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะมาจากการรีวิว การทดลองใช้ของผู้ที่ทำการแนะนำสินค้าให้กับเราหรือจากการอ่านแหล่งข่าวที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ทำให้รู้สึกเริ่มสนใจในตัวสินค้าจนเกิดการซื้อขาย เช่น การตัดสินใจซื้อรองเท้าผ้าใบที่ผู้ซื้อคิดว่าเหมาะกับเทรนด์ล่าสุด

5. ความต้องการแบบ Indulgence (Spoil me)

ความต้องการแบบตามใจผู้ซื้อ โดยตัวผู้ซื้อมักจะอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ซื้อว่าสินค้านั้นเหมาะกับตัวเองมากที่สุดและยังชื่นชอบที่จะซื้อสินค้าเพื่อไปลองใช้อีกด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าจะทำการซื้อสินค้าไปแล้วก็ตามแต่ยังคงให้ความสนใจกับสินค้าชนิดอื่นๆด้วย ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ออกใหม่ล่าสุดหรือสินค้าที่ยังคงให้ความสนใจอยู่แต่ยังไม่ได้ทำการซื้อ เช่น การซื้อลิปสติกสีใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ที่ตนเองชื่นชอบ

6. ความต้องการแบบ Inspiration (Inspire me)

ความต้องการชนิดสุดท้ายคือความต้องการแบบถูกกระตุ้น เนื่องจากผู้ซื้อต้องการที่ลองสินค้าชนิดใหม่ๆ และมีความสนใจที่จะลองสิ่งใหม่ๆ โดยตัวผู้ซื้อนั้นมีความสนใจที่สินค้าที่กำลังฮิตหรือเป็นเทรนด์ในขณะนั้นอยู่ และยังชื่นชอบที่จะลองสินค้าชนิดใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ซื้อที่มีความสนใจแบบนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่ออกใหม่ล่าสุดและกำลังเป็นกระแสอย่างมา เช่น การมีความสนใจที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เข้ากับเทรนด์ล่าสุดหรือฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

โดยข้อมูลของความต้องการเหล่านี้นักการตลาดอย่างเราสามารถใช้ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในอนาคตได้ และยังสามารถเป็นแนวทางในการทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กระ Shoppertainment ที่กำลังมาแรงได้อีกด้วย

“A better tomorrow starts today”

Line@ : bit.ly/ForeToday 

FB Chat: http://m.me/foretoday